สื่อปั่นข่าวคนใช้รถ EV แย่งที่ชาร์จ ช่วงเดินทางต่างจังหวัดในเทศกาลปีใหม่ แต่เนื้อในกลับพบว่ามีปัญหาแค่คนเดียว ขณะผู้ใช้รถ EV ตัวจริง ต่างออกมาสวนว่าไม่ได้มีปัญหามากมายอย่างที่ประโคมข่าว “สนธิ” ตั้งข้อสังเกต เป็นแผนการตลาดเตะตัดขารถยนต์ไฟฟ้า โดยค่ายรถที่ยังใช้น้ำมันหรือไม่ เพราะขณะนี้ตลาดรถยนต์สันดาปภายในเริ่มขาลง แต่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังขึ้นมาแทน
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้ตั้งข้อสังเกตถึงการนำเสนอข่าวของสื่อบางสำนักเกี่ยวกับการแย่งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของประชาชนที่เดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดของค่ายรถยนต์สันดาปภายในที่ต้องการเตะตัดขารถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2566 มีสื่อใหญ่ค่ายหนึ่งซึ่งก็คือ “ข่าวสด” รายงานข่าวคนใช้รถ EV กลับบ้านปีใหม่ แย่งกันจองสถานีชาร์จไฟวุ่น เนื้อหาข่าวโดยสรุปก็คือ “คนใช้รถ EV กลับบ้านปีใหม่ แย่งกันจองสถานีชาร์จไฟ เพราะมีไม่กี่ที่มีเฉพาะบางปั๊มน้ำมันเท่านั้น ขับไปลุ้นไป ที่จองผ่านแอปพลิเคชันไว้ก็กลัวจะเสียสิทธิเพราะรถติด
โดยมีการยกตัวอย่าง ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ซึ่งมีสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV อยู่ 1 สถานี ที่มีสายชาร์จไฟฟ้ารถ EV ได้ครั้งละ 2 คัน ปรากฏว่ามีประชาชนนำรถยนต์ EV มาจอดชาร์จไฟฟ้าเต็มทั้ง 2 คันตลอดเวลา
นายวิเชียร จันทลุน อายุ 44 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางจากกรุงเทพฯ จะไปบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยใช้รถยนต์ EV เดินทาง รถคันนี้ชาร์จไฟฟ้าครั้งหนึ่งสามารถวิ่งได้ประมาณ 300 กิโลเมตร แต่ระยะทางกว่าจะถึงกาฬสินธุ์ประมาณ 500 กิโลเมตร ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไว้ 2 ครั้ง โดยชาร์ตที่ จ.นครราชสีมา 1 ครั้ง และชาร์ตอีกครั้งที่ จ.มหาสารคาม แต่เนื่องจากสถานีชาร์จไฟฟ้ารถ EV มีน้อย จึงต้องมีการจองชาร์จไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชันไว้ล่วงหน้า
ซึ่งพบปัญหาว่าเมื่อจองแล้วเกิดปัญหาการจราจรติดขัด มาไม่ทันเวลาที่จองไว้ ต้องถูกยกเลิกการจองเพื่อให้รถคันอื่นที่มาทีหลังได้ชาร์จไฟแทน ขณะเดียวกันการชาร์จแต่ละรอบก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร อย่างรถตนเองแบตเตอร์รี่เหลือ 30% ต้องใช้เวลาชาร์ตประมาณ 56 นาทีกว่าจะเต็ม 100%”
พอ "ข่าวสด" เผยแพร่ข่าวนี้ออกไป สื่อหลาย ๆ แห่งก็พากันเล่นข่าวตาม ก้อปปี้ไปลงจนว่อนโซเชียล จนคนก็แตกตื่นกันไปหมด พาดหัวข่าวก็มีอย่างเช่น
-คนใช้รถ EV กลับบ้านปีใหม่ แย่งกันจองสถานีชาร์จไฟวุ่น หลังมีไม่กี่ที่ ขับไปลุ้นไป
-สาวกรถ EV มีเซ็ง! เดินทางช่วงเทศกาลต้องแย่งจองที่ชาร์จกันวุ่น!
-สถานีชาร์จไฟฟ้าแน่นขนัด! ประชาชนเดินทางเทศกาลปีใหม่สายเหนือ-อีสาน
-แย่งกันชาร์จให้วุ่น!คนใช้รถ EV ขับไปลุ้นไป เหตุช่วงเทศกาลคนกลับบ้านสถานีชาร์จไม่เพียงพอ
เป็นต้น
แต่ปรากฏว่าพอกดเข้าไปอ่าน กลับเป็นเนื้อข่าวเดียวกันหมด คนที่มีปัญหาก็เป็นแค่คนๆ เดียว ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างใหญ่โต
ส่วนคนที่ขับรถ EV กลับต่างจังหวัดจริง ๆ ก็พากันเข้ามาโพสต์แสดงตัวว่าสถานีชาร์จไฟหลายที่ว่าง ถึงแม้บางที่ต้องรอบ้าง แต่คนที่ขับรถ EV ข้ามจังหวัดย่อมต้องมีการวางแผนไว้ก่อน หรือบางรายก็จอดรถ EV ไว้กรุงเทพฯ ใช้รถน้ำมันกลับต่างจังหวัด
“ถามว่าระหว่างการเดินทาง คนใช้ EV มีปัญหาการชาร์จรถไหม ผมว่าก็คงจะมีบ้าง แต่ไม่ได้มากมาย ไม่อย่างนั้นต้องมีข่าวคนชกต่อยกันหน้าตู้ชาร์จไปแล้ว ยิ่งสมัยนี้ข่าวโซเชียลไปเร็ว ไม่มีทางที่จะเงียบอยู่ได้” นายสนธิกล่าว
ทั้งนี้ มีตัวอย่างคนใช้รถ EV ที่โพสต์แย้ง เช่น
-ไม่ติดปัญหานะ วางแผนเป็นครับ
-ไปชาร์จไม่เห็นต้องรออะไรเลย อยู่คนละมัลติเวิร์สกะคนใช้น้ำมันที่มาแซะแน่ๆ
-สงสัยอยู่คนละโลก กับข่าวที่แย่งที่ชาร์จ นั่งดูในแอป ReverSharger ตอนเที่ยงก็ว่าง ตอนนี้บ่าย 2 โมงครึ่งก็ยังว่างยาวเลยครับ
อีกคนที่ขับรถ EV ไปหัวหิน โพสต์ว่า
-ว่าจะไม่โพสอะไรเพิ่มให้เพื่อนหาประการณ์กันสนุก ๆ เอง แต่ข่าวออกถี่เหลือเกินว่ารอบนี้จะมีมวยแย่งที่ชาร์จกัน เริ่มกังวลใจเลยต้องจัดสักรอบว่าจริงไหมใช่ไหมตามข่าว
- วันนี้ออกเดินทางเลยแวะ super charger ที่เซ็นทรัลพระราม 3 อัดไปเต็ม100% ......
- แวะพักที่ Porto Go เพื่อซื้อกาแฟและนัดกับญาติไว้มาเจอกันที่นี่ ระบบคำนวณว่าแบตจะเหลือ90% ไปถึงจริงเหลือ 88% เห็นที่ชาร์จว่างอยู่ 1 หัว Elexa ก็เสียบเลยแวะซื้อกาแฟและของกิน แปปเดียวแบบ100% มีคนจะต่อแค่1คัน ไม่คิวยาวแบบพร้อมต่อยสวมนวมตามข่าว 555
- ผ่านจุดก่อสร้างก็วิ่งสบายมีรถมากบางช่วงแต่ทำความเร็วได้สบายๆ ยิงยาวต่อถึงที่พักจาก100% เหลือ 70% โรงแรมอนุญาตให้เอาสายชาร์จฉุกเฉินเสียบได้เพราะไม่มีที่ชาร์จแต่ให้ชาร์จฟรี สายชาร์จได้ 2kW แบตเหลือแบบสบายๆ ปล. ที่กังวลตามข่าวคืออะไรหว่าสงสัยอยู่คนละจักรวาล ….
"ดังนั้น ข่าวที่ออกมา คืออะไร? ผมไม่อยากจะคิดว่าเป็นการตลาดเตะตัดขาคู่แข่ง ของบรรดาค่ายรถยนต์ที่ขายแต่รถยนต์สันดาปหรือไม่?" นายสนธิกล่าว
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า ตอนนี้ราคารถมือ 2 ของรถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาป นั้นตกฮวบฮาบลงอย่างมาก สังเกตว่าช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ “เต็นท์รถมือสอง” ปิดกิจการไปหลายแห่งเพราะ
หนึ่ง ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และหนี้เสียที่ว่ากันว่า ช่วงปี 2566 ที่ผ่านมานั้น NPL ในแวดวงเช่าซื้อรถยนต์นั้นสูงถึง 30% ทำให้บรรดาไฟแนนซ์หลายแห่งขยาดไม่กล้าปล่อยกู้พร่ำเพรื่อเหมือนเก่า
สอง การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีจาก “รถใช้น้ำมัน” ไปเป็น“รถใช้ไฟฟ้า”ทำให้คนจำนวนมากลังเลที่จะซื้อรถน้ำมันมือ 2 โดยหันไปซื้อรถไฟฟ้ามือ 1 แทน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อที่ราคาลดลงมามากแล้ว
ยกตัวอย่างรถมือสองยุโรป หลายๆ ยี่ห้อเช่น BENZ, BMW ได้ข่าวว่าบางรุ่นราคาลดไป 70-80% จากราคาที่ซื้อตอนแรก เช่นซื้อมือหนึ่งมา 3 ล้านบาท ผ่านไปเพียง 4-5 ปีราคาร่วงเหลือแค่ 4-5 แสนบาทเป็นต้น ซึ่งอีกไม่นานนี้ ทำนายเลยว่าจะถึงตอนอวสานของเต็นท์รถมือสองที่ใช้น้ำมันอย่างสมบูรณ์
ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?
เพราะการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า EV ณ ปัจจุบัน ทำให้ลูกค้าชะงักงันไม่ซื้อรถยนต์โดยเฉพาะรถสันดาปมือสอง เพราะต้องการรอดูความเสถียรของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงมาตรการของภาครัฐ ช่วงเวลานี้เป็นเหมือนสุญญากาศที่ลูกค้ากำลังรอความชัดเจนว่ารัฐบาลจะมีมาตรการในการช่วยซื้อรถไฟฟ้าเท่าไร?
ขณะเดียวกันลูกค้าบางส่วนที่งบน้อยก็รอให้รถน้ำมันจะราคาถูกลงกว่านี้ แต่ในท้ายที่สุด เมื่อมีรถไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มในตลาด ราคารถไฟฟ้าก็ย่อมจะถูกลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นคนก็จะหันไปซื้อรถไฟฟ้ากันหมด !