อ.เจษฎ์ยันการพบปลาออร์ฟิชไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแผ่นดินไหว-สึนามิที่ญี่ปุ่น ระบุปลาตัวนี้ติดอวนล้อมปลากลางน้ำทะเลในฝั่งทะเลอันดามัน และส่วนใหญ่ที่เจอขึ้นมาผิวน้ำเพราะป่วยหรือใกล้ตาย
จากกรณีพบปลาออร์ฟิชที่ จ.สตูล วันนี้ (4 ม.ค. 67) คณะวิทยาศาสตร์การประมงและทรัพยากรทางน้ำ TSU ลงพื้นที่ตรวจสอบ วัดขนาด บันทึกภาพ และเก็บตัวอย่างปลาตัวดังกล่าว และให้ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า รายงานการพบปลาออร์ฟิช (Oarfish) ปลาทะเลที่สามารถพบได้ในระดับน้ำที่ลึกมาก จากเรือประมง ก.เทพเจริญพร 15 บริเวณเกาะอาดัง อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2567 หลังจากนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดสตูลได้เก็บตัวอย่างและจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเพื่อไว้ศึกษาในโอกาสต่อไป
ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ความเห็นผ่านเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ว่า รายงานการพบปลาออร์ฟิล (Oarfish) ปลาทะเลที่สามารถพบได้ในระดับน้ำที่ลึกมาก จากเรือประมง ก.เทพเจริญพร 15 บริเวณเกาะอาดัง อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 67 หลังจากนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดสตูลได้เก็บตัวอย่างและจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเพื่อไว้ศึกษาในโอกาสต่อไป
“เน้นอีกครั้งว่า ปลาตัวนี้ติดอวนล้อมปลากลางน้ำทะเลในฝั่งทะเลอันดามันครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับแผ่นดินไหว สึนามิที่ญี่ปุ่น และที่บอกว่าการเจอปลาออร์ฟิชแปลว่าจะเกิดแผ่นดินไหวนั้น ก็เป็นแค่ความเชื่อตามๆ กันมา จริงๆ ส่วนใหญ่ที่เจอมันขึ้นมาผิวน้ำก็เพราะมันป่วยหรือใกล้ตาย คาดว่าครั้งนี้ที่มันมาใกล้ทางฝั่งไทย เพราะน้ำทะเลมหาสมุทรอินเดียมีการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำเกิดขึ้นครับ เรียกว่า ปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole (IOD) ทำให้มหาสมุทรอินเดียบริเวณเขตศูนย์สูตรมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลเย็นผิดปกติ”
ทั้งนี้ ปลาออร์ หรือปลาริบบิ้น เป็นปลากระดูกแข็งชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Regalecus glesne อยู่ในวงศ์ Regalecidae มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับพญานาคตามความเชื่อของไทย หรือมังกรทะเลในความเชื่อในยุคกลางของชาวตะวันตก โดยมีความยาวได้สูงสุดยาวถึง 9 เมตร และหนัก 300 กิโลกรัม แต่ก็มีบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ด้วยว่า ปลาชนิดนี้เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่ยาวที่สุดในโลก โดยอาจยาวได้ถึง 11 เมตร ในขณะที่รายงานไม่ยืนยันอีกบางกระแสระบุว่าอาจยาวถึง 15 เมตร หรือกว่านั้น มีส่วนหัวที่ใหญ่ ลำตัวแบนสีเงิน มีจุดสีฟ้าและดำประปราย มีครีบหลังสีชมพูแดง บนหัวที่อวัยวะแลดูคล้ายหงอนเป็นจุดเด่น”