สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เจ้าของโรงกลั่นน้ำมันระยอง และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ประกาศเสร็จสิ้นการซื้อกิจการปั๊มคาลเท็กซ์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องวานนี้ (3 ม.ค.) พบ SPRC ก็มีเชฟรอนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 60% เป็นเพียงการปรับโครงสร้างภายใน เพื่อเดินหน้าทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
วันนี้ (4 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เจ้าของโรงกลั่นน้ำมันในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง และธุรกิจอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ประกาศเสร็จสิ้นการเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” (Caltex) จากบริษัท เชฟรอน เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (CAPHL) มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ SPRC ได้มีมติให้ความเห็นชอบการเข้าซื้อกิจการน้ำมันเชื้อเพลิงของเชฟรอนเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2566
โดย SPRC ยังคงจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้แบรนด์ คาลเท็กซ์ และเทครอน ที่ทำการตลาดในไทยกว่า 75 ปี ซึ่งการซื้อกิจการดังกล่าว นอกจาก SPRC จะได้สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ 450 แห่งทั่วประเทศเข้ามาอยู่ในพอร์ตธุรกิจแล้ว ยังเข้าถือหุ้น บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด 9.91% และเข้าถือหุ้น บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2.51% รวมทั้งการลงทุนในบริษัทเอกชนที่ถือครองที่ดินแปลงที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลา และสุราษฎร์ธานีด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ SPRC พบว่าผู้ถือหุ้นใหญ่คือ เชฟรอน เซาท์ เอเชีย โฮลดิ้งส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (CSAHPL) จัดตั้งที่ประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้น 60.56% และประชาชนทั่วไปถือหุ้น 39.44% การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวมีรายงานว่าเกิดจากกลุ่มเชฟรอนต้องการปรับโครงสร้างภายในของธุรกิจในไทย โดยนำธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเข้ามาอยู่ในโครงสร้างการบริหารของ SPRC ซึ่งมีธุรกิจหลักคือโรงกลั่นน้ำมัน กำลังการผลิต 175,000 บาร์เรลต่อวัน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งจะทำให้ SPRC ทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ในฐานะโรงกลั่นและทำตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยอย่างครบวงจร
ก่อนหน้านี้ สมาชิกระบบสะสมคะแนนคาลเท็กซ์รีวอร์ด จะได้รับประกาศแจ้งการโอนสิทธิและหน้าที่ของบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ให้แก่บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด มีผลนับตั้งแต่วันที่การปรับโครงสร้างภายในดำเนินการแล้วเสร็จ แต่สมาชิกคาลเท็กซ์รีวอร์ดยังคงสะสมคะแนนและแลกคะแนนได้เหมือนเดิม ส่วนสมาชิกใหม่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน CaltexGO ผ่านเว็บไซต์หรือที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ และเติมน้ำมันเพื่อสะสมคะแนน ทุกการเติมน้ำมัน 1 ลิตร รับ 1 คะแนน และแลกคะแนน ทุก 8 คะแนนรับส่วนลดน้ำมัน 1 บาท
อนึ่ง ในประเทศไทยเพิ่งเสร็จสิ้นดีลประวัติศาสตร์วงการน้ำมัน เมื่อบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO จากเอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้ง (ExxonMobil) เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 ด้วยมูลค่า 22,600 ล้านบาท และได้เริ่มทยอยเปลี่ยนโฉมจากสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ทั่วประเทศ 832 แห่ง เป็นสถานีบริการน้ำมันบางจาก ภายใน 2 ปี และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO เป็น บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2566
ถึงกระนั้น สำหรับการเปลี่ยนแปลงของคาลเท็กซ์ เปรียบเหมือนการปรับโครงสร้างภายในองค์กรของเชฟรอน โดย SPRC ซึ่งมี เชฟรอน เซาท์ เอเชีย โฮลดิ้งส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (CSAHPL) จัดตั้งที่ประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้นกว่า 60% ซื้อกิจการจากบริษัท เชฟรอน เอเชีย แปซิฟิค โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (CAPHL) เจ้าของสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ซึ่งบริษัทดังกล่าวจัดตั้งที่เบอร์มิวดาอีกที
