ความเดือดร้อนของประชาชน หลังลูกเพจของ "Drama-addict" ออกมาแชร์ประสบการณ์ชื่อคล้ายบัญชีม้า โดนหน่วยงานอายัดเงินเกลี้ยงทุกบัญชี
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. เพจ "Drama-addict" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงความเดือดร้องของลูกเพจรายหนึ่ง ที่มีชื่อคล้ายกับชื่อเจ้าของบัญชีม้า จึงทำให้บัญชีธนาคารของตนเองถูกอายัดด้วย ซึ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
" ค่ำวันที่ 20 ธค SCB ส่ง SMS มาแจ้งว่าให้เราติดต่อ Call Center มิเช่นนั้นจะถูกอายัติใน 3 วันทำการ - ตอนแรกคิดว่าอาจจะเป็นมิจฯ เลยติดต่อ Contact Center ทางไลน์ไป ปรากฎว่าเป็นของจริง ทาง Contact Center ให้เรานัดเข้าไปยืนยันตัวตนที่สาขา ซึ่งเรานัดเป็นสยามพารากอน
สายวันที่ 21 KBank กับ กรุงไทย ส่ง Notification ลักษณะเดียวกันมาทาง App, เราเลยติดต่อกับทาง KBank ก่อน ทาง Call Center ให้เลขอ้างอิง HRxxxxxxxx มา และให้ติดต่อทาง สอท (ตำรวจไซเบอร์) ที่เบอร์ 1441
เย็นวันนั้นเราเลยโทรไปที่ 1441, แจ้งเลขเคสของเรา ทาง จนท ได้ให้เบอร์โทรตำรวจท่านหนึ่งมา ให้เราไปคุยกับเขา โดยที่ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรกับเรา
เราโทรไปหา จนท ตำรวจท่านดังกล่าวเป้นผู้กองฯ ปรากฎว่า ตร ท่านนั้น ย้ายไปทำหน้าที่อื่นนานแล้ว แล้วไม่คิดว่าเป็นคนที่สั่งอายัติใครเร็วๆนี้ แต่เบื้องต้นทาง ตร ท่านนั้นให้ความร่วมมือช่วยตรวจสอบให้ ระหว่างรอ เราก็ไปคุยกับ SCB ทางสาขาก็มึน ถามว่าเป็นมิจฯหรือเปล่า ซึ่งจริงๆไม่ใช่ และคิดว่าทาง Contact Center นัดหมายมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ทางสาขาฯ เหมือนไม่เคยเจอเคสเหล่านี้มาก่อน เลยเอาบัตร ปชช กับบุ๊คไปอัพเดท และถ่ายเอกสารซักพัก
ระหว่างนั้น ทาง ตร ท่านดังกล่าว (ต่อไปจะเรียกว่าผู้กอง) ติดต่อกลับมาว่า มีเคสคดีเป็นชื่อ-นามสกุลเราเลย เคยไปโกงคนอื่น โดยหลอกขายอะไหล่รถฯ เราตรวจสอบไฟล์ที่ส่งมาให้ พบว่าคนในสำนวนไม่ใช่เรา เลข ปชช คนละเลข ชื่อภาษาอังกฤษ ก็สะกดไม่เหมือนกัน เบื้องต้น ทราบว่ามีคนชื่อ-นามสกุลซ้ำกับเราถึง 4 คนด้วยกัน ทางผู้กองจึงรับไปตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งนึง
จากนั้นเราเลยไปที่ Kbank ต่อ ทาง KBank เองก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ ยืนยันให้เราทำตามระบบโดยติดต่อ 1441 อีกรอบ ซึ่งเราก็โทรแหละ บอกว่ากรณีนี้มันอายัติผิดคน แต่ทาง 1441 บอกว่าให้เราติดต่อทางผู้กองเจ้าของคดี เราก็บอกว่าติดต่อแล้ว คุยกันรู้เรื่องแล้ว ขอให้ทาง 1441 ที่เราเข้าใจว่าเป็น สอท เนี่ย ปลดสถานะให้เราด่วน เพราะเราไม่ผิด
หลังจากนั้นผู้กองติดต่อมา แล้วส่งแคปเจอร์หน้าจอของฐานข้อมูล (น่าจะ) สอท ให้เราดู เขาบอกว่าเลขบัญชีที่ขออายัติไม่ผิดนะ แต่เราอ่านแล้วพบว่า ช่องเลข ปชช นั้นกลับเป็นเลข ปชช ของเรา เบื้องต้นเข้าใจว่าทางภาครัฐมีคำสั่งให้ตำรวจท้องที่กรอกข้อมูลคดีทางคอมฯในฐานข้อมูล เลยอาจจะมีการใส่ข้อมูลผิดพลาด ด้วยความที่มีชื่อนามสกุลซ้ำกับผู้ต้องหา ทางผู้กองเลยรับเรื่องไปจัดการติดต่อประสานงานแก้ไขให้ในวันถัดไป
ทาง 1441 บอกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ เพราะ (เขาอ้างว่า) เรื่องนี้เป็นคำสั่งจากทาง ปปง. ให้เราไปติดต่อ ปปง. อีกที
กลับมาบ้าน มีน้องที่เป็นตำรวจแนะนำให้ร่างหนังสือส่ง ปปง เราเลยร่างหนังสือ เพื่อเอาไปส่งวันรุ่งขึ้น
วันที่ 22 ผู้กองติดต่อมาแต่เช้า ว่ากำลังดำเนินเรื่องกับ KBank แต่ดูเหมือนไม่คืบหน้าเท่าไหร่ เราติดงานเลยทำงานไปก่อน
ช่วงเย็น เราตั้งใจจะเดินทางไป ปปง แต่ว่าพอดีเลิกงานช้า เลยโทรติดต่อไปเอง ทาง ปปง ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ออกคำสั่งระงับฯ และไม่มีอำนาจยกเลิก และให้เราติดต่อ สอท ที่เบอร์ 1441 อีกครั้ง เราก็ไม่ยอม โวยเขา ท้ายที่สุดเขาเลยให้เบอร์นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาท่านหนึ่ง เราเลยโทรไป นายตำรวจท่านนั้นแจ้งเราว่า เดี๋ยววันจันทร์จะแก้ไขให้ พร้อมขอข้อมูลติดต่อผู้กองไป
วันเสาร์ที่ 23 - จันทร์ที่ 24 มีธนาคารโทรมาหาเราบ้าง แต่ไม่มีความคืบหน้า และทาง SCB ขอให้เราเข้าไปยืนยันตัวตน (ตามระบบ) ที่สาขาพารากอนอีกครั้งนึง ซึ่งเราได้แย้งไปว่ามันไม่มีประโยชน์ เราไม่ใช่คนที่ถูกสงสัย คำสั่งมันมาผิดคน แต่เราก็ยอมนัดหมายเข้าไปยืนยันตัวตนในวันอังคารที่ 26
เช้าวันที่ 26 เนื่องจากครบ 3 วันทำการ ธนาคารได้ทำการระงับธุรกรรมออนไลน์เราโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทาง SCB ที่แอพโชว์จำนวนเงินคงเหลือเป็น 0 บาทเลย
ก่อนหน้านั้น ทางผู้กอง และนายตำรวจที่ สอท โทรเข้ามาหาเรา บอกว่า เขาจะช่วยปลดล๊อครายบัญชีเป็นกรณีพิเศษให้ แต่ต้องให้บัญชีเราถูกระงับไปก่อน แล้วส่งหมายเลขบัญชีให้เขา ซึ่งเรามองว่าไม่ถูกต้อง เวลาสั่งระงับใช้เลข ปชช แต่เวลาแก้ให้มาแก้ทีละบัญชี แล้วบางบัญชีไม่ใช่บัญชีหลัก ก็จำเลขไม่ได้ แถมเป็นบัญชีออนไลน์ที่ไม่มี Book อีก แต่เราก็หาเลขบัญชีหลักๆที่เราใช้ส่งไปให้เขาเท่าที่จำได้
ช่วงบ่าย เราสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของ สอท ผ่านไลน์ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเรื่องได้ส่งไปแล้ว และสำหรับ SCB คงเรียบร้อยเย็นนี้
หลังเลิกงานเราเข้ามาที่ SCB เพื่อยืนยันตัวตน (อย่างเปล่าประโยชน์) ก็ยังพบว่า ยังไม่มีการรับเรื่องจาก SCB แต่อย่างใด
จากที่ทางผู้กองได้ประสาน และทางนายตำรวจของ สอท ได้แจ้ง การเอาชื่อเราออกจากบัญชีผู้ต้องสงสัย รวมถึงปลดล๊อคบัญชีอื่นๆของเรานั้น จะต้องรอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของ สอท-ปปช ในวันที่ 15 มค และอาจจะต้องรออีก 4-5 วันกว่าจะมีการแก้ไขเสร็จสิ้น
อีกอย่างนึงคือ ตอนนี้มีความพยายามช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆมาก็จริง ( ผมได้รับการปลดแล้ว 1 ธนาคาร แต่ธนาคารที่เหลือยังติดอยู่ รวมถึงชื่อผมจะยังคาอยู่กับรายชื่อผู้ต้องสงสัย ไปจนกว่าจะมีประชุมคณะกรรมาธิการในกลางเดือนหน้า) แต่ผมอยากให้โฟกัสถึงกระบวนการของภาครัฐ และทางธนาคาร ให้รัดกุม และมีช่องทาง หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขในกรณีเกิดข้อผิดพลาด มีกระบวนการเผื่อข้อผิดพลาด รวมถึงที่ว่า แม้ว่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยจริงๆ แต่ถ้าสามารถให้ข้อมูลยืนยันตัวตนได้ กรณีนี้ต้องสามารถยกเลิกคำสั่งได้ภายใน 1 วันทำการ หรือก่อนที่การระงับจะเกิดขึ้นจริงครับ"