บริษัท เดวียานีฯ กลุ่มร้านอาหารจานด่วนจากอินเดีย เซ็นสัญญาลงทุนกับ เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ (RD) 1 ใน 3 แฟรนไชส์ร้านเคเอฟซี ประเทศไทย 274 สาขา จาก 1,000 สาขา พร้อมมีแผนขยายสาขาในไทยเพิ่มเติม
วันนี้ (19 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท เดวียานี อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเอ็มซีซี (Devyani International DMCC) กลุ่มธุรกิจร้านอาหารจานด่วนในประเทศอินเดีย เนปาล และไนจีเรีย ตัดสินใจเซ็นสัญญาลงทุนในบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ อาร์ดี (RD) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แฟรนไชส์ ของร้านเคเอฟซี ประเทศไทย โดยการทำธุรกรรมดังกล่าวยังอยู่ภายใต้การอนุมัติตามกฎระเบียบและการอนุมัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 2567
ก่อนหน้านี้ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรืออาร์ดี ได้เริ่มเข้ามาเป็นแฟรนไชส์ร้านเคเอฟซี จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YUM ซึ่งเป็นบริษัทแม่ จำนวน 127 สาขา เมื่อปี 2559 ก่อนจะขยายสาขาเป็น 274 สาขาภายในระยะเวลา 7 ปี มีพนักงานรวมกัน 4,500 คน สำหรับกลุ่มบริษัทเดวียานีฯ เป็นผู้บริหารร้านอาหารเคเอฟซี พิซซ่าฮัท คอสต้า คอฟฟี่ มีเครือข่ายสาขารวม 1,350 แห่งทั่้วโลก โดยทั้งสองบริษัทมีแผนจะขยายสาขาในประเทศไทยเพิ่มเติม
อนึ่ง ปัจจุบันร้านเคเอฟซีในประเทศไทยมีรวมกันประมาณ 1,000 สาขา ผ่านแฟรนไชส์ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ของกลุ่มเซ็นทรัล, บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSR) ของกลุ่มไทยเบฟฯ และ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ของอดีตผู้บริหารเคเอฟซี ประเทศไทย โดยมีบริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ให้บริการแฟรนไชส์ 100% เน้นทำการตลาดร่วมกับแฟรนไชส์เป็นหลัก
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ กำลังพิจารณาขายธุรกิจแฟรนไชส์เคเอฟซี (KFC) ในประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,000 ล้านบาท แต่ได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มไทยเบฟเวอเรจและกลุ่มเซ็นทรัล ขณะที่ผลประกอบการในปี 2565 มีรายได้รวม 4,991,335,325.00 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,440,807.00 บาท และเมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่าตั้งแต่ปี 2559 ขาดทุนทุกปี