มหาดไทยยุค “เสี่ยหนู” เข้าอีหรอบ “พูดมากกว่าทำ” บุกจับผับเถื่อนจ้างสื่อไลฟ์สด 2 ชั่วโมง แต่ไม่ทันไรก็เกิดคดี “สมรักษ์-สาว 17” สะท้อนปัญหาสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา-ปล่อยเด็กเข้าใช้บริการ ไล่เรี่ยกันเกิดเหตุคนงานเขมรกราดยิงในสนามบอล ทั้งที่ตอนกราดยิงพารากอนบอกจะคุมอาวุธปืนเข้มงวด ขณะที่ปัญหาต่างด้าวสวมบัตรคนไทยก็ยังหมักหมม ถึงเวลาหรือยัง “อนุทิน” ต้องทำงานจริงจัง เลิกโชว์ออฟสร้างภาพไปวันๆ
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงการบริหารงานของกระทรวงมหาดไทยในยุคที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ได้พูดถึงเรื่องการทำมาหากินของเจ้าหน้าที่ ที่ปล่อยให้คนต่างด้าวเข้ามาสวมสิทธิ์ ปลอมแปลง แอบแฝงเข้ามาสวมบัตรประชาชน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายอนุทินในฐานะเจ้ากระทรวงต้องขยันทำงานเข้มงวดกวดขัน ไม่เอาแต่สร้างภาพไปวันๆ
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก็มีข่าวนายอนุทินนำทีมลุยผับเถื่อน “Sonic Club Bangkok” ย่านเลียบด่วน รามอินทรา ซึ่งพบใบอนุญาตขาด เปิดเกินเวลาและยาเสพติดจำนวน โดยนายอนุทินลงไปตรวจพร้อมกับอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง และทีมปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง สนธิกำลังร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. กทม. พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 30 นาย และตำรวจนครบาลโชคชัย
ที่สำคัญมีนักข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ตามไลฟ์สดปฏิบัติการณ์บุกผับ SONIC ยาว 2 ชั่วโมงเต็ม ให้ผู้ชมเห็นหน้าฉากแห่งความเท่ ความเอาจริงเอาจังของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ฝ่ายปกครอง
แต่ระยะเวลาใกล้เคียงกันกลับมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น พร้อม ๆ กันหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทยทั้งนั้น นั่นคือ
เรื่องแรก เกิดเหตุแรงงานชาวกัมพูชา ใช้อาวุธปืนบุกยิงภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากการสืบสวนทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายดวง สัญชาติกัมพูชา และผู้ขี่รถจักยานยนต์ที่ใช้หลบนี้คือ นายเฮง สัญชาติกัมพูชา
โดย ในที่เกิดเหตุบริเวณทางเดินเข้าสนามบอล เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก ลูกกระสุนปืนอีก 1 ลูก นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณหลังคาของสนามถูกยิงทะลุเป็นรูและที่บริเวณคานของสนามถูกยิงอีกหนึ่งนัด จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุบริเวณทางเดินเข้าสนามบอล เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก ลูกกระสุนปืนอีก 1 ลูก นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณหลังคาของสนามถูกยิงทะลุเป็นรูและที่บริเวณคานของสนามถูกยิงอีกหนึ่งนัด จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จนเมื่อ วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตำรวจตามจับนายดวง ได้ที่ ด่าน ตม.บ้านแหลม จ.จันทบุรี เพื่อหลบหนี ขณะพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ เบื้องต้นจากการซักถามนายดวง ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงปืนจริง ซึ่งหลังก่อเหตุได้นําอาวุธปืนไปโยนทิ้งที่บริเวณคลองรังสิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ก่อนจะนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย
มีข้อสงสัยกันว่า นายดวง กับ นายเฮง เป็นแรงงานกัมพูชาที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย ทำไมก่อเหตุอุกอาจอย่างไม่เกรงกลัวว่าบ้านเมืองของเรามีขื่อมีแป ?
แรงงานกัมพูชาเอาอาวุธปืน 9 มม. มาจากไหน? ประเทศไทยนั้นซื้อหาหยิบยืมอาวุธปืน กับกระสุนกันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ
ตั้งแต่เกิดการกราดยิงที่ห้างพารากอนเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2566 ทางนายอนุทิน กับ กระทรวงมหาดไทย ออกมาแสดงท่าทีขึงขัง ว่าจะควบคุมเรื่องอาวุธปืนอย่างเข้มงวดแล้วอย่างไร อะไรคือมาตรการควบคุม และอะไรคือผลลัพธ์ที่ได้?
อีกเรื่องหนึ่ง คือ คดีหญิงสาวอายุ 17 เข้าแจ้งความ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยชื่อดัง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก กระทำอนาจาร ซึ่งกระบวนการสอบสวนสืบสวน ก็คงต้องว่ากันไปตามพยาน หลักฐาน จะใครหลอกใคร จะผู้ใหญ่หลอกเด็ก หรือ เด็กหลอกผู้ใหญ่ก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ ๆ เรื่องนี้สะท้อนถึงความเน่าในของระบบราชการ โดยเฉพาะ "ฝ่ายปกครอง" กระทรวงมหาดไทยของนายอนุทิน ที่เพิ่งไปไลฟ์สดบุกผับอย่างขึงขังก่อนหน้านั้น
ทำไมสถานบันเทิง ต้นเหตุของเรื่องนี้ ที่ชื่อ "ร้านสุขสันต์" ช่างสุขสันต์สมชื่อ ปล่อยให้เด็กและเยาวชนอายุแค่ 17 ปี เข้าไปใช้บริการได้อย่างไร?
มิหนำซ้ำ ช่วงเวลาที่ “สมรักษ์” ไปเที่ยวดื่มเจอกับผู้เยาว์กระทั่งรอจนร้านเลิกชักชวนกันไปต่อที่โรงแรม สถานบันเทิงแห่งนี้เห็นว่า ปิดตี 3 ถามว่า เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดได้อย่างไร ?
เมื่อไล่เรียงดูความรับผิดชอบตามหน้าที่ ทั้งจังหวัด นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และตำรวจ พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่นน พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ทราบเรื่องนี้หรือไม่ ?
สถานบริการปล่อยเด็กต่ำกว่าอายุ 18 เข้าไป และเปิดเกินเวลาอยู่ห่างจากโรงพักแค่ปลายจมูกไม่ถึง 1.3 กิโลเมตร
หลังเกิดเรื่อง “สมรักษ์-ผู้เยาว์” ฝ่ายปกครองจึงค่อยเต้นกันใหญ่ตามระเบียบ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น บอกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นมานั้น ไม่แน่ใจอะไรสักเรื่อง ทั้งเหตุที่สถานบันเทิงไม่ตรวจสอบบัตรประชาชนของคนเข้าไปเที่ยว หรือ เปิดเกินเวลา
พูดไปพูดมา ก็จบที่ “ขอตรวจสอบก่อน” ซึ่งโทษอาจจะแค่สั่งปิดชั่วคราว หรือสั่งปิด 5 วัน ฟังแบบนี้ นายอนุทิน ว่าน่าเบื่อหรือไม่?
ในวันเดียวกันนี้ มีข่าว นายอนุทิน ในฐาน มท.1 ได้ลงนามในกฎกระทรวง ขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4 ใน 5 พื้นที่นำร่อง เตรียมประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ย้ำทันบังคับใช้ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อความสำเริงสำราญรับเทศกาลในช่วงปีใหม่ นี่ย่อมแสดงว่า นายอนุทิน นอกจากจะไม่เบื่อ เรื่องผู้เยาว์เข้าสถานบันเทิง และเปิดเกินเวลา มหาดไทยไฟเขียวเต็มที่ โดยที่มองแค่มิติท่องเที่ยวอย่างเดียว
กรณีสถานบันเทิงอย่าง “สุขสันต์” เชื่อแน่ได้ว่า ไม่มีร้านเดียว เผลอๆ มีทุกจังหวัด จังหวัดละหลายๆ ร้าน!
ตราบเท่าที่ "ส่วย" ยังทำงาน ฝ่ายปกครองที่เรียกรับ และรอประเคน ก็พร้อมเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ มิหนำซ้ำยังช่วยอำนวยความสะดวก แถมพอเกิดเรื่องก็ช่วยเป่าคดีให้จบ ๆ ไป ทุกฝ่ายจะได้ทำมาหากินกันต่อ
“คดีสมรักษ์” ยังเป็นแค่น้ำจิ้มที่สะท้อนความปล่อยปละละเลย นายอนุทินอย่ามัวหาแสงจากเรื่องผับ จนลืมไปกวดขันเรื่องใหญ่กว่าคือเรื่องการทุจริตการทำบัตรประชาชน-ทะเบียนราษฎร์
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ปัญหาสังคม ปัญหาอาชญากรรมจะตามมาอีกมาก จากต่างด้าวที่อาศัยอยู่แบบผิดกฎหมายในไทย จีนดำ จีนเทา พม่าเทา เขมรเทา อินเดียเทา ที่รู้วิธีฟอกตัว สวมบัตร ทำมาหากินในไทยได้ต่อ โดยการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ไทยนี่เอง
จากรัฐบาลที่แล้วมาถึงรัฐบาลนี้ นายอนุทินกระโดดจากกระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลเรื่องสุขภาพ-อนามัยของประชาชน ย้ายมากระทรวงมหาดไทยเรื่องความมั่นคง และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในภาพรวม ต้องยอมรับว่างานที่ ก.มหาดไทยนั้นหนักหนาสาหัส และต้องแบกรับปัญหาและความคาดหวังของประชาชนที่ใหญ่หลวง
นายอนุทิน ต้องเลิกเป่าขลุ่ย เล่นเปียโน โชว์ออฟตามงานอีเวนต์ได้แล้ว เพราะบ้านเมืองนี้มีปัญหารอการแก้ไขเต็มไปหมด อย่าเอาแต่เต้นชะชะช่า จนคนเขาจะเอาไปนินทาได้ว่า ทำตรงข้ามกับสโลแกนพรรค "พูดแล้วทำ" จนจะกลายเป็น "พูดมากกว่าทำ" ไปแล้ว