คืบหน้ากรณี รพ.ใน จ.สมุทรปราการจ่ายยาให้เด็กน้อยวัย 1 ขวบผิด ล่าสุดมีรายงานว่าน้องอาการดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ โรงพยาบาลเยียวยาเบื้องต้น 3 หมื่นบาทเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่น้องเข้ารักษา
จากกรณีแม่พาลูกชายวัย 1 ขวบส่งไปรักษาโรงพยาบาล หลังลูกชายลื่นล้มศีรษะฟาดพื้นในห้องน้ำ จึงตัดสินใจพาลูกไปสแกนสมองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ แต่โรงพยาบาลส่งลูกไปสแกนสมองอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ระหว่างเดินทางพยาบาลที่นั่งไปด้วยบอกว่าให้น้องกินยานอนหลับเพื่อให้น้องไม่ดิ้นตอนเข้าเครื่องสแกนสมอง แต่กลับจ่ายยาผิด โดยจ่ายยาที่มีกรดไตรคลอโรอะเซติก (TCA) ใช้ในการจี้-รักษาหูดหงอนไก่ ซึ่งเป็นยาที่ใช้ภายนอกมาให้เด็กกิน เมื่อเด็กกินไปแล้วก็เกิดอาการปากและลำคอไหม้ ผู้เป็นแม่จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม
ล่าสุดวันนี้ (15 ธ.ค.) เพจ "เป็นหนึ่ง" ได้โพสต์อัปเดตอาการเด็กอายุ 1 ขวบ 4 เดือน ว่า
"วันนี้คุณหมอพาน้องเข้าห้องผ่าตัดเพื่อส่องกล้องตรวจภายใน คุณหมอแจ้งว่าระหว่างที่ส่องอยู่ต้องหยุดการส่องกล้องกลางคันเพราะคอน้องยังมีแผลและยังเป็นแผลสดอยู่ แต่แผลก็ฟื้นฟูขึ้นมาดีในระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้คุณหมอยังต้องให้ใส่ท่อช่วยหายใจให้น้องอยู่ และให้ยานอนหลับเหมือนเดิม
หลังจากนี้จะสังเกตอาการน้องต่อไปอีก 1 อาทิตย์แล้วค่อยกลับมาส่องกล้องตรวจภายในกันอีกครั้ง
ในตอนนี้อาการน้องดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ น้องหน้าตาสดใสขึ้น ปากน้องจากที่ดำก็เริ่มมีน้ำมีนวลสีดีขึ้น ที่คอน้องแผลเริ่มตกสะเก็ดลอกออกแล้ว ระหว่างนั้นคุณหมอทายาให้และดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด
ตอนนี้น้องตื่นบ่อยขึ้น จะมองตามแม่ตลอดกลัวแม่หายเวลาออกจากห้องทีไรน้องก็จะร้องตาม ถือว่ามีการตอบสนองกับสิ่งรอบข้างได้ดีขึ้นอย่างน่าพอใจ
คุณหมอแจ้งว่าความจริงก็ไม่อยากจะให้ยานอนหลับน้องเยอะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าน้องดิ้นมันจะมีผลต่อท่อช่วยหายใจของน้อง แต่ตอนที่น้องอยู่กับแม่แล้วไม่ดิ้นสงบเขาก็จะให้น้องนอนเล่นโดยไม่ได้ให้ยานอนหลับตลอดเหมือนวันแรกๆ แล้ว แต่เมื่อไหร่ที่แม่กลับน้องก็จะดิ้นและร้องตามคุณแม่ หมอจึงต้องให้ยานอนหลับน้องต่อ
ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบมอบค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่พ่อและแม่น้องต้องใช้จ่ายในระหว่างที่น้องเข้ารับการรักษา ค่าเดินทาง, ค่ากินอยู่, ค่าจิปาถะ เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาทแล้วเมื่อวานนี้
