สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ หลังพบมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลาง พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้
วันนี้ (30 พ.ย. 66) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ หลังติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้
ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดย สทนช.ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์ จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) มีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 3-8 ธ.ค. 66 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย)
- จังหวัดชุมพร (อำเภอสวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ)
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พุนพิน เคียนซา พระแสง และดอนสัก)
- จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด และวังวิเศษ)
- จังหวัดพัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง และควนขนุน)
- จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา พระพรหม ปากพนัง ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร)
- จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร ควนเนียง หาดใหญ่ นาหม่อม และบางกล่ำ)
- จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี และหนองจิก)
- จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา เบตง และรามัน)
- จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ จะแนะ สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี)
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองบางสะพาน คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ
2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และอิทธิพลของการขึ้น-ลงของน้ำทะเล โดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์