ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ อดีตตำรวจ เจ้าของฉายา “คนบ้าปลูกต้นไม้” ผู้ปลูกต้นไม้ในอำเภอปรางค์กู่
จังหวัดศรีสะเกษ กว่า 3 ล้านต้นจนอุดมสมบูรณ์ เสียชีวิตอายุ 77
ปี
จากกรณีเพจ พระไพศาล วิสาโล ประธานกรรมการมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ ได้โพสต์ไว้อาลัย ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ
ขอไว้อาลัยแด่ “พ่อดาบวิชัย”
ร้อยตำรวจตรี วิชัย สุริยุทธ
“คนบ้าปลูกต้นไม้” ที่พวกเรารู้จักกันดี
ตลอดชีวิตของท่านได้ปลูกต้นไม้ มากกว่าสามล้านต้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ “คนบ้าปลูกต้นไม้” รุ่นต่อๆ มา
แม้จนวินาทีสุดท้าย…
พ่อให้บอกทุกคนว่า
“อย่าเซ่า ชีวิตมีอิหยังให้เฮ็ดอีกหลาย”
คุณกฤษฎาวัลย์ (พี่อ้อ) ลูกสาวของพ่อดาบ กล่าวถึงข้อความที่ พ่อดาบวิชัย ฝากไว้ในช่วงท้ายของชีวิต ก่อนจากไปอย่างสงบเมื่อคืนวานนี้ (25 พ.ย. 2566) ในวัย 77 ปี
“หวังว่าท่านจากไปอย่างสงบ และไปสู่สุคติ สวรรค์ชั้นฟ้าที่ท่านสถิตเชื่อว่าจะมีต้นไม้อุดมร่มรื่น”
คำไว้อาลัย โดย พระไพศาล วิสาโล
ประธานกรรมการมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ (มตธ.)
26 พ.ย. 66
ร้อยตำรวจตรี วิชัย สุริยุทธ หรือที่รู้จักกันในนาม ดาบวิชัย อายุ 77 ปี เป็นที่รู้จักกันในสังคมไทย จากการที่เขาเป็นผู้ปลูกต้นไม้มากกว่าสามล้านต้นในอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ จนสามารถทำให้อำเภอปรางค์กู่ อำเภอที่เคยจัดว่าแห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์
วิชัย สุริยุทธ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2489 ที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรคนที่สาม ในจำนวนทั้งหมดหกคน บิดามารดามีอาชีพทำนา ฐานะทางบ้านจึงยากจน ขณะเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มารดาก็เสียชีวิต บิดาเขาจึงต้องทำนาคนเดียว และเขาจึงต้องรับจ้างทำงานสารพัด ไม่ว่าจะเป็นกรรมกรก่อสร้าง, จับกัง กระทั่งได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย
หลังจบโรงเรียนพลตำรวจ 3 จังหวัดนครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2511 ก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองศรีสะเกษ ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 ย้ายมาประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่
กระทั่งในปี พ.ศ. 2548 ดาบตำรวจวิชัย สุริยุทธ ได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ เป็น “ร้อยตำรวจตรี” จากการอุทิศตนต่อประเทศชาติ จนเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2549 ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่
ดาบวิชัยเป็นที่รู้จักกันในสังคมไทย จากการเป็นผู้ปลูกต้นไม้มากกว่า 3 ล้านต้นในอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ จนสามารถทำให้อำเภอปรางค์กู่ อำเภอที่เคยจัดว่าแห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์