ตำรวจสืบนครบาลเผยวิดีโอคลิปนำกำลังจับกุมกลุ่มคู่อริอ้างมาจากช่างกลดัง พบลักขโมยทะเบียนปลอมก่อเหตุ ลบร่องรอยการติดตามทุกขั้นตอน เผยแชตไลน์หลังครูเจี๊ยบตาย 3-4 ชั่วโมง บุคคลปริศนาระบุ "ขอแสดงความยินดี พารุ่นน้องไปเกิดได้สมศักดิ์ศรีช่างกลปทุมวัน" ผู้ต้องหาระบุออกจากสถาบันตั้งแต่ปี 1 มาปี 2 ไม่ได้เรียน
วันนี้ (22 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "สืบนครบาล IDMB" ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โพสต์วีงิดีโอคลิป นครบาลเปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด” สาระสำคัญระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนยิงครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และ นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถึงแก่ชีวิต บริเวณแขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ใช้ “มาตรการเด็ดขาด” พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งรัดสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน และคนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมแบบมือปืน โดย พล.ต.ท.ธิติลงมาควบคุมการสืบสวนด้วยตนเอง เรียกระดมกำลัง บก.สส.บช.น., กก.สส.บก.น.5, กก.สส.บก.น.6 และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ติดตามคนร้ายในคดีนี้และให้ทำแบบ “ขุดรากถอนโคน”
แต่งานนี้ไม่หมู เพราะไม่ต่างกับการไล่ปราบกองโจรในสมัยก่อน ทีมสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับ พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้แบบ “ขุดรากถอนโคน” โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนจากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล จนพบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน อีกทั้งคนร้ายได้ลักแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น เพื่อใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่
ชุดสืบสวนมีการทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น และเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือก่อเหตุดังกล่าว พล.ต.ท.ธิติจึงได้จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี พร้อมเอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเพื่อเชื่อมโยง พบมีลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน และตระเตรียมจุดที่ลงมือ ไม่ธรรมดาคนเดียวที่ทำไม่ได้ จนพบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มคู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮาส์อีก 4 แห่ง วงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก"
สำหรับวิดีโอคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 3 นาที 25 วินาที เป็นการเปิดเผยขั้นตอนการจับกุมของชุดสืบสวนนครบาล ตั้งแต่วางแผน กระทั่งบุกไปจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายวุฒิพงษ์ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ร่วมกันยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ก่อนพาไปตรวจค้นห้องพัก โดยพบว่ามีผู้ที่อยู่ในห้องอีกคนหนึ่ง จับกุมผู้ต้องหาได้อีกคนหนึ่ง พร้อมของกลางเป็นเสื้อชอปของช่างกลแห่งหนึ่งจำนวนมาก ผู้ต้องหากล่าวว่า ตนออกจากสถาบันตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 กระทั่งชั้นปีที่ 2 ก็ไม่ได้ไปเรียนอีก ก่อนหน้าที่จะมีเหตุสลดดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบข้อความในกลุ่มไลน์ที่ชื่อว่า PATUMWAN 890 (ปทุมวัน 890) ซึ่งมีสมาชิก 103 ราย มีผู้ใช้นามว่า P ระบุว่า "พี่ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก.90 ที่พาน้อง ช.ก.91 ไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกลปทุมวัน" โดยมีคนกดไลก์จำนวนมาก ในคลิประบุว่า ข้อความนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ยิงครูเจี๊ยบประมาณ 3-4 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ที่ผ่านมาตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนขอศาลออกหมายจับ พร้อมเข้าตรวจค้นจับกุมช่วงเช้าวันนี้ โดยมีผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม อีกทั้งยังคงมีกลุ่มที่ร่วมก่อเหตุหลบหนีอยู่ โดยกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์และหาความชัดเจนว่าใครคือมือปืน เนื่องจากไม่มีใครยอมรับสารภาพ
สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้พบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีเก่าเมื่อช่วงต้นปี ที่ยิงปืนใส่นักเรียนต่างสถาบัน ที่สำคัญยังพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้เรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพใดๆ แต่มีแกนนำสร้างกลุ่มตามความเชื่อขึ้นมา และเช่าที่พักอาศัยร่วมกัน พร้อมหาแนวร่วมนักศึกษาสถาบันต่างๆ ออกมาอยู่ในโลกเสมือนไม่ได้อยู่ในโลกความเป็นจริง เป็นการสร้างเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา มีการสร้างแรงฮึกเหิมปลุกใจในกลุ่ม ด้วยการนำรูปผู้เสียชีวิตต่างสถาบันมาติดไว้ในที่ซ่องสุมของกลุ่ม และจะถอดรูปแบบการก่อเหตุในแต่ละครั้ง เพื่อพัฒนาการลงมือและการหลบหนี ที่ผ่านมายังได้สร้างสถานการณ์ เพื่ออำพรางคดีลักษณะเดียวกันที่ย่านมีนบุรี
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่งกำหนดมาตรการดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศ ยืนยันไม่หนักใจ แม้ชั้นศาลอาจตัดสินยกฟ้องผู้ต้องหาก็ตาม