xs
xsm
sm
md
lg

“ทิพยประกันภัย” ฉลองความสำเร็จ 72 ปี กางแผน ลงทุนรุก Digital Insurance เพิ่มสินค้าประกันภัยรถยนต์ 30%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ทิพยประกันภัย" เผยภาพรวมธุรกิจประกันภัยในปีหน้า 2567 แข่งขันสูงมากขึ้น ทุกค่ายเตรียมห่ำหั่นดัมพ์ราคาสุดฤทธิ์ เหตุเทรนด์ลูกค้าเปลี่ยนสู่ปัจเจกบุคคลมากขึ้นจากเทคโนโลยียุคดิจิตอล พร้อมรัฐบาลไฟเขียวทุ่มทุนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น การให้ Free Visa กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีผลให้ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ฟื้นตัวกลับมาก่อสร้างมากขึ้น ทิพยประกันภัย ผู้นำตลาดด้านนี้กว่า 40 ปี พร้อมลุยตลาดในฐานะแชมป์ผู้นำของเมืองไทย เผยแผนปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ปีหน้ามากขึ้นจาก 25% เป็น 30% หลังชิมลางตลาดนี้มา 2-3 ปี พบตัวเลขยอดขายของบริษัทเติบโตขึ้น 2 หลัก ด้านแผนเสริมความแกร่งที่ผ่านมา หลังปรับโครงสร้าง บริษัท ทิพยประกันภัย เข้าซื้อเอราวัณประกันภัย ฯ มาเปลี่ยนเป็นบริษัทอินชัวร์เวิร์ส ฯ ประกันภัยออนไลน์ 100% หรือ Digital Insurance รองรับผู้บริโภคยุคดิจิตอล จับมือธนาคารออมสิน ขยายฐานลงทุนสู่ธุรกิจปล่อยเงินกู้ รับปีหน้าเตรียมโกอินเตอร์สู่ประเทศกัมพูชา เพิ่ม ลั่นฉลองครบรอบ 72 ปี เปิดตัว “THE REAL OBSERVER” ครั้งแรก ภาพยนตร์โฆษณาแนวใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของทิพยประกันภัย เพื่อตอกย้ำความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในธุรกิจประกันภัย


ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจประกันภัยในปีหน้า 2567 คาดว่าจะมีการแข่งขันที่สูงมากขึ้นด้วยปัจจัยอะไรๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคที่มีความเป็นปัจเจกบุคคล หรือ เฉพาะตัวมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีในยุคสังคมดิจิตอล รัฐบาลชุดใหม่ที่หันมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มีมากขึ้น การให้ Free Visa กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จึงก่อให้เกิดการสร้างโรงแรม, รีสอร์ต มากขึ้น รวมถึงภาครัฐหันมาสนับสนุนให้คนในประเทศหันมาเปลี่ยนใช้รถยนต์ EV มากขึ้น ทั้งหมดนี้ก่อให้กิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น

ขณะเดียวกันในแต่ละบริษัทของธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต ต่างเตรียมความพร้อมที่จะออกสินค้าใหม่ๆ เข้าแข่งขันช่วงชิงยอดขายของผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา แต่ละบริษัทของธุรกิจประกัน ต่างสูญเสียรายได้อย่างมหาศาลให้กับการจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินให้กับผู้ประกันตนในช่วงวิกฤติโควิด 19 ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ปีข้างหน้า 2567 ผู้บริโภคจะเห็นสินค้าประกันหันมาแข่งขันเรื่องการหั่นราคาให้ถูกลงมากขึ้น ด้วยวิธีการเก็บเบี้ยชำระในขนาดที่เล็กลง เพื่อกระตุ้นใจให้ผู้บริโภคเกิดตัดสินซื้อขายง่ายขึ้นกว่าเดิม


ดังนั้นทิพยประกันภัย ในฐานะที่ผู้เป็นผู้นำตลาดด้านธุรกิจประกันภัยของประเทศไทย คิดเป็นอัตราเบี้ยประกันภัยที่มีอยู่ทั้งหมดรวม 2 แสนกว่าล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 55% และอีก 45% เป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัยอื่นๆ จึงได้วางแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีขนาดเล็กลงเพื่อจะมาแข่งขันและช่วยให้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้น เช่นกัน นอกจากนี้จะมีใช้เทคโนโลยีมานำเสนออัตราเบี้ยประกันมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ ทิพยประกันภัย ก็มีการนำระบบ AI มาทดลองใช้ เพื่อจะลดในส่วนของงานบุคลากรด้าน Operation รวมถึงงานที่ต้องตอบคำถามต่างๆ ลง เพื่อบริษัทจะสามารถนำรายได้ส่วนนี้ไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ซื้อประกันได้มากขึ้น

ส่วนปีหน้า 2567 บริษัทจะดำเนินการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเพิ่มประกันภัยรถยนต์มากขึ้นจากเดิม 25% เป็น 30% เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมมากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ 5 ปี บริษัทได้วางแผนออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยเกี่ยวกับรถยนต์ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการดัมพ์ราคาถูกเพื่อจะแข่งขันกับรายอื่นๆ ในตลาดได้ ผลปรากฎว่า มีผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งให้ความสำคัญกับการซื้อประกันภัยที่ให้การบริการที่ดีและคุ้มค่ามากกว่า การมองหาประกันภัยที่ต้องจ่ายเบี้ยถูกๆ


จึงเป็นการเดินมาถูกทางของบริษัทตั้งแต่แรกเริ่ม จนถึงปัจจุบัน และจะทำต่อไปในปีข้างหน้า 2567 เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของบริษัทในส่วนของเบี้ยประกันภัยรถยนต์นี้ คิดเป็นตัวเลขเพิ่มขึ้น 2 หลัก ทุกปี ขณะเดียวกันบริษัทให้ความสำคัญกับสินค้าประกันวินาศภัยเกี่ยวกับด้านโครงสร้างขนาดใหญ่และงานก่อสร้าง ซึ่งทิพยประกันภัย ถือว่าเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้มานานนับ 40 ปี และปีหน้าคาดว่าจะเห็นสินค้าใหม่ๆ ของทิพยประกันภัย ออกมามากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของภาครัฐเกี่ยวกับด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวในธุรกิจก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท และ การปรับเปลี่ยนของผู้คนที่หันมาใช้ขับรถ EV มากขึ้น


อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ได้มีปรับโครงสร้างของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP สู่การดำเนินธุรกิจภายใต้ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เดินหน้าพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติ ช่วยสนับสนุนความสามารถทางการแข่งขัน และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจของทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บริษัทมีการปรับทิศทางหันไปลงทุนธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น เช่น การเข้าไปซื้อธุรกิจบริษัท เอราวัณประกันภัย จำกัด (มหาชน) แล้วมาปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทอินชัวร์เวิร์ส จำกัด เพื่อให้เป็นบริษัทประกันภัยออนไลน์ 100% หรือ Digital Insurance แห่งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 เดือน กันยายน ปี 2566 ที่ผ่านมา เพื่อการเข้าถึงการรับประกันในรูปแบบบุคคล (Personal Lines) ในยุคที่ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ไปสู่ความเป็นโลกแห่ง Digital มากขึ้น

"เห็นได้ว่าในขณะนี้มีผู้บริโภคหันมาซื้อเบี้ยประกันภัยที่เป็น Digital Insurance มาถึง 500 ล้านบาท ซึ่งในปีข้างหน้าบริษัทคาดว่าจะมียอดเติบโตในส่วนเพิ่มขึ้นอีก 25% เพราะนี่คือทางเลือกในการช่วยผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา และทุกประเภทของอุปกรณ์ (Anywhere Anytime Any Device) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า"


นอกจากนี้ ดร.สมพร ยังกล่าวเสริม เกี่ยวกับด้านการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ภายหลังจากปรับโครงสร้างดังกล่าว ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกัน ก็มีอยู่ 2-3 ธุรกิจ เช่น การไปร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด และธนาคารออมสิน เพื่อเปิดบริษัทมีที่ มีเงิน จำกัด ในการเป็นแหล่งเงินกู้ใหม่ โดยใช้ที่ดินแลกเงิน รวมถึงเข้าไปลงทุนในบริษัทเงินดีดี จำกัด เพื่อใช้เป็นแหล่งปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคล ทั้งหมดนี้ เพื่อให้เงินที่ได้จากการเก็บเบี้ยประกันเกิดผลตอบแทนมากขึ้นกว่านำเงินไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ยอย่างเดียว ประกอบกับยังได้ร่วมลงทุนเปิดทิพยประกันภัย ในประเทศลาว ซึ่งปัจจุบันมียอดเบี้ยประกันอยู่ที่ 60 ล้านบาท และปีหน้า 2567 บริษัทมีแผนเข้าไปลงทุนจัดตั้งบริษัท ทิพยประกันภัย ใน ประเทศกัมพูชา ด้วย ทั้งหมดนับเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท


ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 72 ปี ทิพยประกันภัย ถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะเปิดตัว “THE REAL OBSERVER” ครั้งแรกของภาพยนตร์โฆษณาแนวใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริง (Immersive Virtual Reality) มาถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของทิพยประกันภัย ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สมจริง มีความตื่นตาตื่นใจ ในยุคที่บริษัทต้องพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และการบริการ ให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของยุคดิจิทัล เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในยุคดิจิทัล พร้อมพาลูกค้าก้าวผ่านทุกเหตุการณ์ไปด้วยกันอย่างมั่นคง สมดังชื่อแคมเปญ #จริงจังกับภัยจริงใจกับคุณ
สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงของ “THE REAL OBSERVER”

สำหรับกำหนดการเผยแพร่ภาพยนตร์ชุดนี้ จะมีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Facebook Official: ทิพยประกันภัย และ Youtube: Dhipaya นอกจากนี้ ตลอดเดือน พฤศจิกายน ปี 2566 ถึง ตุลาคม ปี 2567 จะมีแคมเปญสุดพิเศษต่าง ๆ และกิจกรรม Online activation ให้ร่วมสนุกเพื่อรับของที่ระลึกจากแคมเปญด้วย
ภายในงานจะมี The Real User ตัวจริงที่ให้ความสำคัญกับการทำประกัน อย่าง ลี-ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ และ มะปราง-อลิสา ขุนแขวง ที่จะแบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจการให้บริการของทิพยประกันภัย


กำลังโหลดความคิดเห็น