• ขยายขีดความสามารถของโรงงานมาบตาพุด พร้อมรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั้งในไทยและทั่วเอเชีย
• ขยายไลน์การผลิตวัสดุโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลโดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ด้วยกำลังการผลิต 25,000 ตันต่อปี
• มุ่งมั่นสู่การจัดหาวัสดุโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลให้ได้ 60,000 ตันต่อปีสำหรับใช้ในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2026
• กำลังการผลิตโพลีคาร์บอเนตต่อปีในเอเชียแปซิฟิกโตขึ้นมากกว่า 100,000 ตัน
โคเวสโตร เริ่มเปิดดำเนินงานโรงงานผลิตโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลแบบเชิงกล (Mechanical Recycling: MCR) แห่งแรกของบริษัทที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยไลน์การผลิตนี้ตั้งเป้าหมายในการผลิตวัสดุโพลีคาร์บอเนตคุณภาพระดับพรีเมียมและวัสดุผสมที่ประกอบด้วยวัสดุรีไซเคิลให้ได้มากกว่า 25,000 ตันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการพลาสติกรีไซเคิลจากสิ่งเหลือทิ้งหลังบริโภค (Post-consumer-Recycled: PCR) ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานในภาคธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค
“การเปิดตัวสายการผลิต MCR ของเรา ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่เป้าหมายด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการดำเนินงานเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2035” สุเชตา โกวิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ โคเวสโตร กล่าว “การรีไซเคิลขยะพลาสติกถือเป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุถึงวิสัยทัศน์นี้ และด้วยการขยายกำลังการผลิตพลาสติกรีไซเคิล เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างครอบคลุม”
การเพิ่มกำลังการผลิตโพลีคาร์บอเนตในไทยและเอเชียแปซิฟิก
โคเวสโตรกำลังดำเนินงานขั้นตอนสุดท้ายของแผนการเพิ่มกำลังการผลิตโพลีคาร์บอเนตทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในช่วงปลายเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการเพิ่มขีดความสามารถและกำลังการผลิตของสายการผลิตหลายสายของโรงงานที่มาบตาพุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารของกลุ่มธุรกิจพลาสติกเชิงวิศวกรรม แผนงานนี้มุ่งเน้นที่ 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การเพิ่มกำลังการผลิตและการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในอนาคต นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการเพิ่มสายการผลิตใหม่ของโรงงานในเซี่ยงไฮ้และกวางโจว ประเทศจีน รวมถึงที่เกรทเตอร์ นอยดา ประเทศอินเดียในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบัน โรงงานทุกแห่งมีกำลังการผลิตรวมมากกว่า 100,000 เมตริกตันต่อปี ซึ่งกว่า 40% ของจำนวนนี้มาจากโรงงานในมาบตาพุด โดยแผนงานเชิงกลยุทธ์ซึ่งมุ่งเป้าที่การเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายการผลิตระดับภูมิภาคนี้ ขับเคลื่อนด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัล ซึ่งช่วยลดงบประมาณการลงทุนลงได้อย่างชัดเจน
“ด้วยแนวทางการดำเนินงานนี้ เราไม่เพียงสามารถตอบสนองความต้องการโพลีคาร์บอเนตที่เพิ่มขึ้นในเอเชียได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าของเราได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย” ดร.นิโคลัส สต็อกเคล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจพลาสติกเชิงวิศวกรรม กล่าว “เรายังสามารถอัปเกรดคุณภาพวัสดุโพลีคาร์บอเนตที่ผลิตแบบเดิมและจากการรีไซเคิลแบบผสมได้โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าของเรา”
การนำเสนอวัสดุที่ยั่งยืนเพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ตลาด
โคเวสโตรมุ่งมั่นสู่การจัดหาวัสดุโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลให้ได้ปริมาณ 60,000 ตันต่อปี สำหรับการใช้งานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2026 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เติบโตสูง โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทยังได้มีการปรับเปลี่ยนสายการผลิตวัสดุคอมปาวด์ที่โรงงานมาบตาพุดในประเทศไทยเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลแบบเชิงกลได้อีกด้วย
"การลงทุนครั้งนี้ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการวัสดุโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ผ่านการเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพไปพร้อมกัน ซึ่งด้วยกำลังการผลิตรูปแบบใหม่หรือที่ถูกปรับปรุงอยู่ในขณะนี้ ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในการสนับสนุนลูกค้าของเราในการก้าวเดินไปบนเส้นทางสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น พร้อมเร่งการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไปสู่อนาคตแห่งเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างแท้จริง” ลิลลี่ หวัง ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจพลาสติกเชิงวิศวกรรม บริษัท โครเวสโตร (ประเทศไทย) กล่าว
ความต้องการวัสดุดังกล่าวมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก โดยได้แรงหนุนจากข้อริเริ่มด้านกฎระเบียบต่างๆ เช่น ข้อเสนอของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับยานพาหนะที่สิ้นอายุการใช้งาน (ELV Directive) ซึ่งมีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานที่เข้มงวดในการใช้พลาสติกรีไซเคิล นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค ก็มีแนวโน้มความต้องการวัสดุรีไซเคิลที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีการใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นจำนวนมาก
การเคลื่อนไหวของสภาพตลาดในปัจจุบัน ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาครั้งล่าสุดของโคเวสโตรในการจัดหาวัสดุโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิล โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัววัสดุโพลีคาร์บอเนตที่มาจากวัสดุรีไซเคิลถึง 90% วัสดุเกรดนี้ไม่เพียงมีความขาวที่โดดเด่นและให้สีสันที่มีความอิ่มตัวสูงเท่านั้น หากยังนำเสนอคุณสมบัติด้านความยั่งยืนอีกด้วย โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 70% เมื่อเทียบกับการผลิตพลาสติกบริสุทธิ์ที่ทำจากฟอสซิล ความสำเร็จอันสำคัญยิ่งนี้ต้องอาศัยการคัดเลือกวัสดุรีไซเคิลคุณภาพสูงอย่างพิถีพิถัน และการปรับสัดส่วนองค์ประกอบของวัสดุที่เหมาะสมในขั้นตอนการผสมอย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ โคเวสโตรยังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการบุกเบิกกระบวนการรีไซเคิลเชิงเคมีของวัสดุโพลีคาร์บอเนต โดยหลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนากระบวนการใหม่ในห้องปฏิบัติการ วันนี้ บริษัทได้เริ่มดำเนินการทางเทคนิคเพื่อนำความก้าวหน้านี้เข้าสู่การดำเนินงานธุรกิจนำร่องอย่างเป็นรูปธรรม
เกี่ยวกับโคเวสโตร
โคเวสโตรเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์และส่วนประกอบทางโพลิเมอร์คุณภาพสูงชั้นนำของโลกด้วยนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และวิธีการ บริษัทยังส่งเสริมความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตในหลายแง่มุม โคเวสโตร ให้บริการลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมหลักเช่นการเดินทางและการขนส่ง อาคารและที่อยู่อาศัย ตลอดจนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ โพลีเมอร์จากโคเวสโตร ยังใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอางและสุขภาพ ตลอดจนในอุตสาหกรรมเคมีบริษัทตั้งเป้าหมายในการเป็นบริษัทหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ และมุ่งบรรลุความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี พ.ศ. 2578 (ในขอบเขต 1 และ 2) โคเวสโตร สร้างยอดขายได้ 18 พันล้านยูโรในปี งบประมาณ พ.ศ. 2565 บริษัทมีโรงงานผลิต 50 แห่งทั่วโลกและมีพนักงานประมาณ 18,000 คน (คำนวณจากจำนวนพนักงานประจำ) ณ สิ้นปีพ.ศ. 2565
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคเวสโตร ได้ที่ www.covestro.co.th
ติดตามโคเวสโตรบน Facebook ได้ที่ Covestro Thailand
ข้อความที่บ่งชี้ถึงอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้อาจมีข้อความที่บ่งชี้ถึงอนาคต โดยใช้ข้อสันนิษฐานและการคาดการณ์ของโคเวสโตร เอจี เป็นพื้นฐาน ปัจจัยด้านความเสี่ยงที่คาดการณ์ได้และที่คาดการณ์ไม่ได้ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ อาจส่งผลต่อข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งด้านผลประกอบการจริง สถานการณ์ทางการเงิน ผลการดำเนินงานและการพัฒนาของบริษัทในอนาคต โดยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ หมายรวมถึงปัจจัยที่อยู่ในรายงานสาธารณะของโคเวสโตร ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่เว็บไซต์โคเวสโตร www.covestro.com ทั้งนี้ โคเวสโตรจะไม่ขอรับผิดชอบในการอัพเดทข้อความบ่งชี้ถึงอนาคตต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงตามสถานการณ์หรือการพัฒนาในอนาคต