xs
xsm
sm
md
lg

ทนายดังบุกบางปะกง ช่วยนักธุรกิจหญิงโดนสร้างศาลาบุกรุกที่ดิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (15 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ถนนบางวัว ซอย 4 (วัดบางวัว) ม.9 อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ เดินทางลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อน หลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ภรภัทร สรรพานิช นักธุรกิจ โดยเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2560 ได้รับโอนที่ดินรวม 2 แปลง ตั้งอยู่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มาจากบิดามารดา จึงได้ทำการรังวัดสอบเขตที่ดินพบว่ามีศาลาหลังหนึ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดิน จึงสืบหาเจ้าของเพื่อฟ้องขับไล่ศาลาออกไป แต่ปรากฏว่าทนายความคนเดิมหลงประเด็นไปฟ้องหน่วยงานรัฐว่าเป็นผู้มอบเงินในโครงการ SML มาให้ปลูกสร้างเป็นศาลาประชาคม ภายหลังยื่นฟ้องแล้วได้มาพบกับทนายกฤษฎา อินทามระ ให้คำปรึกษาว่าคดีดังกล่าวเป็นการฟ้องผิดตัว ผู้เสียหายจึงได้มีการถอนฟ้องคดีออกไปแล้วในปี พ.ศ. 2566

ต่อมาทนายกฤษฎาพยายามสืบหาแหล่งที่มาของเงินในโครงการ SML โดยทางอำเภออ้างว่า ประมาณปี พ.ศ. 2548-2549 รัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) เพื่อแก้ไขปัญหาในหมู่บ้านและชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายสำคัญของโครงการ คือ การให้งบประมาณแก่ประชนชนเพื่อแก้ไขปัญหา สร้างประโยชน์ส่วนรวมของหมู่บ้านและชุมชน เพื่อเอื้อต่อการมีอาชีพและการมีงานทำของส่วนรวม รัฐบาลจึงจัดทำโครงการนี้เพื่อให้เงินอุดหนุนโดยตรงสู่ประชาชน โดยอ้างว่าชุมชนหมู่ 9 (ที่ตั้งศาลา) ได้รับเงินในโครงการ SML จำนวน 200,000 บาท และหน่วยงานรัฐได้ส่งมอบเงินจำนวนนี้ให้แก่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 9 (ที่ตั้งศาลา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ตนพบข้อพิรุธในการเบิกจ่ายเงินเพราะไม่มีหลักฐานรายงานการประชุมเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการโครงการกองทุนหมู่ที่ 9 (ที่ตั้งศาลา) และไม่มีหลักฐานการส่งมอบเงินจำนวน 200,000 บาท โดยนายอำเภอ หรือนายกเทศมนตรี หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามรับรอง และไม่พบหลักฐานที่ทางอำเภอแจ้งต่อสำนักงาน SML เพื่อขออนุมัติเงินจากคณะกรรมการ SML เพื่อโอนเงินงบประมาณดังกล่าวลงไปในพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะในชุมชนหมู่ที่ 9 นั้นไม่ปรากฏหลักฐานว่าคณะกรรมการชุมชนหมู่ที่ 9 ได้แจ้งทางอำเภอให้โอนเงินจำนวน 200,000 บาทไปเข้าบัญชีธนาคารใดและผู้รับเงินคือใคร แต่ที่แน่ๆ คือ เงินจำนวน 200,000 บาท สร้างศาลาได้เพียงมีเสาสี่ต้นและหลังคา แต่ไม่มีผนัง จึงไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้เลยจากเงินหลวงจำนวน 200,000 บาทนี้

ในวันนี้ผู้เสียหายต้องการล้อมรั้วในที่ดินซึ่งได้มีการรังวัดสอบเขตโดยเจ้าหน้าที่รังวัด โดยจะล้อมรั้วภายในขอบเขตที่ดินซึ่งได้มีการรังวัดโดยถูกต้องแล้ว ส่วนตัวศาลาดังกล่าวผู้เสียหายจะไม่ล้อมรั้วปิดกันเพราะกำลังมอบหมายให้ตนฟ้องขับไล่บุคคลที่อ้างตนว่าเป็นผู้ใช้เงินหลวงมาสร้างศาลา และตนจะต้องสืบให้ได้ว่า การใช้เงินจำนวน 200,000 บาทมาสร้างศาลาดังกล่าวมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร

"นอกจากนี้ จะต้องสืบหาบริเวณอื่นๆ ในอำเภอบางปะกงด้วยว่ามีการนำเงินในโครงการ SML หรือโครงการรัฐอื่นๆ ไปใช้โดยมิชอบ ผิดระเบียบและไม่โปร่งใสหรือไม่" ทนายกฤษฎากล่าวทิ้งท้าย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายกฤษฎาได้ทำหนังสือลงทะเบียนแจ้งให้ทางอำเภอบางปะกงทราบว่าวันเวลานี้จะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินบริเวณที่ตั้งศาลาประชาคม ที่ระบุว่าเป็น “ศูนย์บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์” ชื่อหมู่บ้านปลายคลอง หมู่ 9 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เบอร์โทร. 08-19444-9952 เมื่อสื่อมวลชนโทร.ไปติดแต่ไม่มีคนรับสาย และระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมีรถปิกอัพ ข้างประตูมีตรากรมการปกครองขับผ่านมาถ่ายรูปขณะเจ้าของที่ดินพาช่างก่อสร้างมาปักเสากันรั้วที่ดินตามที่เขตปักหมุดที่ดินรังวัดพื้นที่ไว้ โดยเว้นที่ดินบริเวณที่มีปัญหาศาลาประชาคมกินพื้นที่เข้ามาครึ่งหนึ่งไว้

ท้ายนี้ ทนายกฤษฎาแจ้งเพิ่มเติม หากพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรือข้อกฎหมายอื่นใด สามารถขอความช่วยเหลือมาที่ตนได้ตลอดเวลา ที่สำนักกฎหมายกฤษฎา อินทามระ โทร. 08-5339-9255 ยินดีให้ความช่วยเหลือ










กำลังโหลดความคิดเห็น