สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความ ชำแหละจุดอ่อนเงินดิจิทัล ชี้ อุตส่าห์ออกแบบมาวุ่นวาย ใครรวย ใครได้ประโยชน์ คิดเองครับ
จากกรณีนายกฯ แถลงบทสรุปแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากรวมน้อยกว่า 5 แสนบาท ให้ใช้จ่ายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ภายในเขตอำเภอ ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น ไม่สามารถซื้อของออนไลน์ เริ่ม พ.ค.ปีหน้า ใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท จากการออก พ.ร.บ.กู้เงิน พร้อมจัด e-refund ลดหย่อนภาษี 5 หมื่น ให้ผู้ไม่มีสิทธิร่วมโครงการ
อ่านข่าวประกอบ - เคาะแจกเงินดิจิทัลให้คนเงินเดือนน้อยกว่า 7 หมื่น-เงินฝากต่ำกว่า 5 แสน เริ่ม พ.ค.ปีหน้า ใช้งบฯ 5 แสนล้านจากการออก พ.ร.บ.กู้เงิน
ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ระบุถึงจุดอ่อนของระบบซื้อขายด้วยเงินดิจิทัล โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"ร้านทั่วไปในอำเภอรับเงินดิจิทัลได้ แต่ร้านที่จะไปขึ้นเงินรัฐบาลต้องเป็นร้านในระบบภาษี คือ มีการจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีถูกต้อง
แปลความว่า ประชาชนเอาเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไปซื้อหมูปิ้งริมถนนได้ แต่ต้องซื้อในอำเภอตามบัตรประชาชน
ส่วนแม่ค้าหมูปิ้ง เอาเงินดิจิทัลไปแลกเงินรัฐบาลไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในระบบภาษี ต้องเอาเงินดิจิทัลที่รวบรวมได้ ไปซื้อเนื้อหมู กระเทียม พริกไทย หรือสินค้าอื่นอะไรก็ได้ จากห้างร้านในจังหวัดไหนๆ ในไทยก็ได้ หรือจะซื้อออนไลน์ก็ยังได้
กระบวนการซื้อขายขั้นต้น จะไม่สามารถตรวจสอบว่ามีการซื้อขายจริง
จะมีไหม ที่คนได้เงินดิจิทัล อยากซื้อหมูปิ้ง เพื่อไปเลี้ยงทั้งซอยคราวละ 2,000 บาท จากร้านหมูปิ้งทิพย์ แล้วไม่เอาหมูแต่ขอเงินคืน 1,500 แทน
จะมีไหมที่จะซื้อข้าวสาร อาหารแห้งทีละ 10,000 จากร้านที่ไม่อยู่ในระบบภาษี แล้วบอกว่า ขายคืนในราคา 7,000
ร้านหมูปิ้งทิพย์ ร้านค้านอกระบบภาษี ก็อาจรวบรวมเงินดิจิทัลที่ได้ ไปซื้อของจากห้างร้านใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษีอีกที ซึ่งไม่มีข้อจำกัดเรื่องต้องซื้อในอำเภออีก จะซื้ออะไรก็ได้ หรือจะซื้อออนไลน์ก็ได้ ก่อนที่ห้างร้านใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษีจะไปแลกคืนจากรัฐบาลในรูปเงินบาท
อุตส่าห์ออกแบบมาวุ่นวาย ใครรวย ใครได้ประโยชน์ คิดเองครับ"