จตุรงค์ สุขเอียด อดีต บก.ไอทีวี โพสต์หลังเกิดดรามา 2 คนดังเกิดวิวาทะกันบนโลกออนไลน์ เจ้าตัวเผย การทำข่าวไม่ว่าจะออนไลน์ ออฟไลน์ ต้องลงสนามจริง ไม่ใช่แค่นำเรื่องของชาวบ้านเขามาตัดต่อและลงเอาผลงานตัวเอง ลั่น “ก๊อปข่าวคนอื่นผมไม่ทำ เพราะผมอาย”
หลังเกิดกระแสดรามาเดือด เมื่อ อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรชื่อดัง เจ้าของเพจที่ชื่อว่า Off Chainon ออกมาโพสต์ข้อความทำนองว่าเพจของตนไม่ได้ก๊อปข่าวมาลง แต่เป็นการสรุปข่าว โดยน้องๆ ในทีมจะเรียบเรียง (รีไรต์) ใหม่ เขียนใหม่ด้วยตัวเอง แต่ใส่ลิงก์สำนักข่าวต่างๆ
จากนั้นทำให้นักข่าวภาคสนามชื่อดัง แยม-ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอตเตอร์ ออกมาสั่งสอนว่า อ๊อฟ ชัยนนท์ “เราอาจจะเข้าใจหลักการวิชาชีพข่าวกันผิดไหม!!! การเอาของคนอื่นมาสรุปข่าว แล้วรีไรต์ใหม่ ไม่ใช่การก๊อปข่าว แล้วใส่ลิงก์สำนักข่าวที่ไปเอาข่าวมาแปะเพื่อให้อ่านยาวๆ อย่างนั้นเรียกอะไรคะ! เผื่อแผ่, เมตตา? ถ้าแบบนี้เอามาฟรีหรือจ่ายเงินคะ!! Off Chainon วอนน้องคิดใหม่”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เฟซบุ๊ก “จตุรงค์ สุขเอียด” อดีตบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า “มีคนถามผมเรื่อยทำไมไม่ทำเพจข่าวขึ้นมาบ้าง มีคนติดตามเยอะ
ผมว่า การทำข่าวไม่ว่าจะออนไลน์ ออฟไลน์ หรือไลฟ์ในห้องอัด เราต้องลงสนามจริง ดูสภาพจริง ถามจากคนในข่าวด้วยตัวเองจริงหรือด้วยทีมงานของเราเองจริงบ้าง จึงจะสามารถนำเสนอข่าวได้อย่างถูกต้องด้วยตา ด้วยหู และการบันทึกเสียงหรือภาพมาเพื่อยืนยันว่า เราไปทำข่าวนั้นมานำเสนอจริง
ถ้าไปฟังเขามาบอกต่อ โดยไม่ใช่ทีมของเรา ตัวเอง หรือแหล่งข่าวของเรา ถ้าอยากจะเล่ากับเขาบ้าง ก็ต้องบอกก่อนว่า คือฟังเขาเล่ามาว่า..... ผมยังไม่มีกำลัง แม้ทุกวันนี้มีคนติดตามอยู่แล้ว 2 แสนกว่าคน แต่ก็ไม่เคยคิดเอาเปรียบเขาด้วยการตัดต่อเรื่องของชาวบ้านเขามาลงเอาผลงานตัวเอง ผมเคยบอกว่า เดี๋ยวนี้คนคิดว่า เป็นนักข่าวมันง่าย ใช่มันง่ายก็เพราะคิดว่ามีมือถือกับเงินเติมอินเทอร์เน็ต แล้วท่องเว็บได้เลยมีข่าวอยู่ในนั้น
นั่นมันข่าวที่มาจากคนอื่นแชร์มาลงก่อนแล้วทั้งสิ้น ไม่ได้เกิดจากเรา เรามันพวกทำซ้ำของคนอื่นเขาหรือไม่ พบอันไหนถูกจริตก็ก๊อปมาลง กลัวเขาว่าก็แก้คำเชื่อม และ ซึ่ง เป็น หรือ เสียหน่อย ก็คิดว่านี่เป็นผลงานชิ้นใหม่ของตนแล้ว มันจึงง่ายมากๆ แบบนี้ผมจึงไม่ทำ เพราะอาย ที่ว่าจะเป็นนักข่าว เพจข่าวทั้งที ทำได้แค่นี้หรือ ถึงตอนนี้ น้องๆ พี่ๆ หลายคนมีสำนักเพจข่าวเป็นของตัวเองไปหลายคนแล้ว ผมยังพอใจอยู่กับวิธีคิดเดิมๆ คือ เป็นนักข่าว ต้องลงสนามด้วยนะครับ
ถึงตรงนี้ 2 เพจนี้ใครทำซ้ำใครหรือไม่ เข้าใจไม่ตรงกันอย่างไร ก็ลองตรองดูเอาครับ เพราะสื่ออยู่ได้หรือไม่ได้ คนดูเป็นกรรมการที่ดีเสมอมาครับ”