xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : เจ็บนี้รสปูอัด | เศรษฐารับจบดิจิทัลวอลเล็ต | แบนเที่ยวเกาหลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com

(สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ต.ค. - 5 พ.ย. 2566)


อันดับ 1 : เจ็บนี้รสปูอัด สส.ก้าวไกลขับแจ้แต่อุ้มไชยามพวาน คุกคามทางเพศ เจ้าตัวไม่ลาออก ต๋อมเล็งโหวตขับทิ้ง

ข่าวฉาวก้าวเข้ามาดับรัศมีพรรคก้าวไกล เมื่อมี สส.2 รายถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศ หลังถูกโซเชียลฯ ออกมาแฉและกระแสสังคมกดดัน ที่สุดแล้วที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและ สส.พรรคก้าวไกล ที่รัฐสภา เมื่อเย็นวันที่ 1 พ.ย. ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง มีมติขับออกจากพรรค นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือแจ้ สส.ปราจีนบุรี ส่วนนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด สส.กทม. เขตจอมทอง เสียงโหวตไม่ถึง ขับออกไม่ได้ จึงให้คาดโทษไว้ก่อน ทำให้นายวุฒิพงศ์ไม่พอใจ อ้างว่าตนเป็น สส.ภูธร ไม่มีเพื่อนการเมือง ยอมรับว่าผิดบางส่วน แต่เหตุเกิดขึ้นกลางปีที่แล้ว มาร้องตอนตนมีตำแหน่ง และคนพามาร้องอยู่ในพรรค

ด้านนายไชยามพวาน แถลงข่าวอ้างว่าผู้ร้องทั้งสามสนิทกัน ไม่ได้คุกคามทางเพศแค่แตะเนื้อต้องตัวธรรมดา เคารพการตัดสินใจของมติพรรค และไม่ลาออก อ้างว่าให้ กกต.ชี้ขาด และยังอ้างว่าสวมเสื้อสูทที่พ่อผู้ร้องมอบให้ ทำให้นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แฉว่าไม่ได้สำนึก ไม่ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ แฉว่าล่วงเกินทางเพศผู้เสียหายในสภาพมึนเมา ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ ส่วนรายที่สองถูกชักชวนไปต่างจังหวัดสองต่อสอง ไม่เกี่ยวกับงาน และรายที่สามถูกเข้าหาที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคามทางเพศ จนต้องขอลาออก ซึ่งจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคหารือ หากผิดจริงจะประชุมขับออกจากพรรคต่อไป

ขณะที่ผู้เสียหายผิดหวัง สส.พรรคก้าวไกล 22 คนที่ลงมติไม่ขับออกนายไชยามพวาน ยังไม่ตระหนักถึงความรุนแรง เพิกเฉยต่อผู้กระทำที่ไม่รับผิดชอบ ถามว่ายังยืนยันจะเข้าข้างเพื่อน ปล่อยให้ผลประโยชน์ส่วนตัวกลืนกินจิตสำนึกหรือไม่


อันดับ 2 : เศรษฐารับจบดิจิทัลวอลเล็ต รับปาก 10 พ.ย.แถลงทุกอย่าง อดใจรอหลังข่าวกระจาย ลือเลื่อน ก.ย.67

ยังคงไม่มีคำตอบที่แน่ชัดสำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่มีการเสนอทางเลือกแจกเฉพาะกลุ่ม แทนที่จะแจกถ้วนหน้า รวมทั้งการเลื่อนเวลาโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จากเดือน ก.พ. 2567 ไปเป็นเดือน ก.ย. 2567 ตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีระบุ ที่สุดแล้วนายเศรษฐา กล่าวว่า มีการให้ข้อมูลกันกระจัดกระจายจากหลายคน ขอความกรุณาให้อดใจรอ ข้อมูลทั้งหมดจะออกมาในเร็วๆ นี้ ขอชี้แจงในครั้งเดียว จะได้ไม่มีข้อสงสัย เมื่อทุกอย่างสะเด็ดน้ำแล้ว จะแถลงเองพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายเศรษฐา กล่าวว่า วันที่ 10 พ.ย. จะรู้เรื่องทุกอย่าง มีขั้นตอนไทม์ไลน์ กฎกติกาที่ชัดเจน และต้องให้เกียรติคณะกรรมการด้วย อยากให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะจะเกิดความสับสน อาจจะมีความเห็นต่างบ้าง ต้องยอมรับว่าจะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากใครมีข้อเสนอแนะก็รับฟังตลอด และขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะดีกว่า ส่วนโพลบางสำนักเห็นว่าเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเป็นสิ่งสำคัญ ดิจิทัลวอลเล็ตก็เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ยังย้ำว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีความคิดที่จะถอยหลัง จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้คนได้รับผลประโยชน์สูงสุด และให้แอปพลิเคชันเป๋าตังมีส่วนร่วม


อันดับ 3 : แบนเที่ยวเกาหลีเจอ ตม.เลือกปฏิบัติ ทางการเสียใจ เข้มงวดแค่ จนท.บางคน แต่ต้องแก้ปัญหาเข้าเมืองผิด กม.

กระแสแบนเที่ยวเกาหลีเกิดขึ้นมาจากในช่วงที่ผ่านมา บนโซเชียลฯ แชร์กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก ถูกตรวจคนเข้าเมืองสาธารณรัฐเกาหลีใต้ปฎิเสธการเข้าประเทศ ทั้งที่หลายคนเคยมาเที่ยวหลายครั้ง มีหน้าที่การงาน ลงทะเบียน K ETA ถูกต้องทุกอย่าง แต่กลับเจอคำถามจาก ตม. ที่ไม่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น หน้าโรงแรมที่จองไว้มีต้นไม้กี่ต้น เมื่อตอบไม่ได้ก็ปฏิเสธเข้าประเทศ โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยต้องจ่ายค่าเดินทางกลับเอง ทำให้ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พักไปฟรีๆ เป็นที่วิจารณ์ว่าอาจเป็นผลพวงมาจากมีแรงงานไทยหลายคนหลบหนีเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่าผีน้อย

ที่สุดแล้วในการประชุมประจำปีระหว่างปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยและเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้แสดงความเสียใจ ไม่ประสงค์ให้ปัญหานี้มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงต่อมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ย้ำว่าเกาหลีไม่มีนโยบายปฏิเสธนักท่องเที่ยวไทยเข้าเมือง การตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดอาจเป็นเรื่องเฉพาะของเจ้าหน้าที่ ตม.บางคนเท่านั้น แต่รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาคนไทยทำงานอย่างผิดกฎหมายที่มากขึ้น ซึ่งจะประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด


อันดับ 4 : คดีลุงพล-ป้าแต๋นเลื่อนไปเป็น 20 ธ.ค. ตรวจสำนวนและคำพิพากษาไม่เสร็จ แม่น้องชมพู่ครวญเป็นผู้ถูกกระทำ

คดีที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ก่อนพบเป็นศพเปลือยกายอยู่ในป่าห่างจากบ้าน 2 กิโลเมตร เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา หลังนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น สองสามีภรรยา ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ฟ้องลุงพลข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา พรากเด็ก ทอดทิ้งเด็ก และร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ ส่วนป้าแต๋นเจอข้อหาร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ศาลจังหวัดมุกดาหารเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีไปเป็นวันที่ 20 ธ.ค. เนื่องจากอยู่ระหว่างสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตรวจร่างคำพิพากษา

ด้าน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า รู้สึกสูญเสียแต่ถูกกระทำ ครอบครัวถูกมองว่าใส่ร้ายจำเลยมาโดยตลอด ทั้งที่ตนมีสิทธิ์ที่จะสงสัยว่าใครเป็นคนทำลูกเรา แต่เรากลับถูกกระทำ ย้ำว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพรางจะมีคนร้ายและผู้ตาย ถ้าดีเอ็นเอของผู้ร้ายไม่มาพัวพันกับผู้ตายจะต้องมีหลักฐานอะไรบางอย่างที่ผู้ตายไปพัวพันกับคนร้าย ส่วนลุงพลและป้าแต๋นก็แถลงข่าว กล่าวว่า อยากจะทักทายกับแม่น้องชมพู่และพูดคุยกันเหมือนเดิม แต่ด้วยสถานการณ์ทำให้ต้องห่างกันสักพัก ขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองก่อน แต่ทั้งสองครอบครัวความสัมพันธ์แตกหักแล้ว จะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องของอนาคต

ขณะที่นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เหตุที่เลื่อนอ่านคำพิพากษาเพราะอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตรวจสำนวนและคำพิพากษา ยืนยันไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะกระบวนการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว


อันดับ 5 : อวสานรถเมล์ ขสมก.5 สายหยุดเดินรถทับซ้อนเอกชน ประชาชนด่าขรมรถน้อยขาดระยะรถแน่นขึ้นไม่ได้

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. รถประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 5 เส้นทาง ยุติให้บริการ ได้แก่ ปอ.8 สะพานพระพุทธยอดฟ้า-เคหะชุมชนร่มเกล้า, ปอ.34 รังสิต-หัวลำโพง, ปอ.39 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ปอ.140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน) และ ปอ.517 หมอชิต 2-ศูนย์การค้าเทิดไท หลังกรมการขนส่งทางบกมีหนังสือแจ้งให้ยุติเดินรถที่ทับซ้อนกับเอกชน ส่งผลทำให้รถน้อยขาดระยะ เสียเวลาเดินทางเพิ่ม โดยเฉพาะสาย 140 ต้องรอรถนานมากขึ้นกว่าเดิม รถแน่นจนขึ้นโดยสารไม่ได้ หลายคนไปทำงานสาย บางคนต้องเปลี่ยนไปขึ้นสายอื่นแล้วต่อรถไฟฟ้าแทน

ด้าน บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ประกอบการเดินรถเอกชนที่ได้ใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ได้แก้ปัญหารถน้อยขาดระยะ โดยเฉพาะสาย 140 ด้วยการกำหนดให้ปล่อยรถออกให้บริการทุก 5-7 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงเช้า ตั้งแต่ 04.30-08.30 น. และช่วงเย็น 16.00-20.00 น. ส่วนช่วงปกติกำหนดปล่อยรถออกจากอู่ต้นทางเฉลี่ยทุก 10 นาที อีกด้านหนึ่ง ขสมก. ได้เปิดเส้นทางใหม่ สาย 4-7E หรือสาย 21E วัดคู่สร้าง-จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ทางด่วน) โดยขึ้นทางด่วนที่ด่านสุขสวัสดิ์ ลงทางด่วนที่ทางลงสาทร เพิ่มจากเส้นทางปกติไปทางถนนสุขสวัสดิ์ วงเวียนใหญ่ และหัวลำโพง


อันดับ 6 : งานเข้านักร้อง อ๊อฟ ศุภณัฐ แฉสนั่นทำสาวท้องแล้วไล่ไปทำแท้ง ธัญญ่าฟาดคบซ้อน ส่วนเจ้าตัวยังนิ่ง

กลายเป็นดรามาโยงกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อักษรย่อ อ. แฉสนั่นโลกออนไลน์ว่าทำสาวท้องแล้วไล่ไปทำแท้ง พอสาวตกเลือด บอกสาวให้กินน้ำเยอะๆ แล้วบล็อกหายไป อีกทั้งฝ่ายชายยังมีโลก 4 ใบ เรื่องนี้ น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) เปิดเผยผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 ว่า รู้จักนักร้องชายเวทีประกวดชื่อดังที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่ามีแฟนอยู่แล้ว เมื่อตกเป็นข่าวพยายามปฏิเสธ อ้างว่าเป็นคอนเทนต์จนเชื่อใจยอมมีเพศสัมพันธ์จนตั้งครรภ์ ฝ่ายชายกลับบอกว่าไม่ใช่ความสุขของเขาอีกแล้ว เกลี้ยกล่อมให้ไปทำแท้ง ยุติการตั้งครรภ์เพื่ออนาคต พอตกเลือดกลับบอกว่า กินน้ำเยอะๆ ดูแลตัวเองดีๆ แล้วบล็อกหายไป

ปรากฎว่า “ธัญญ่า อาร์สยาม” นักร้องสาวที่มีข่าวว่าเคยคบกับ “อ๊อฟ ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ” นักร้องจากเวทีเอเอฟ ก็ออกมาเรียกร้องให้ฟ้ายอมรับตรงๆ ว่าคบซ้อน จับได้ว่าไปหากันตอนตี 1 ถึงเลิกกัน รอบแรกให้อภัย แต่ทำพฤติกรรมซ้ำอีกจนทนไม่ไหว ตัดสินใจเลิก ส่วนอ๊อฟก็ยอมรับว่านอกใจไปมีคนอื่น ผิดสัจจะที่ให้ไว้ อย่างไรก็ตาม น.ส.ฟ้ายืนยันว่าจะดำเนินคดีกับอ๊อฟให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้เขาทำกับคนอื่น อีกด้านหนึ่งชาวเน็ตจับตามองว่า เมื่อเดือน ก.ย. อ๊อฟกำลังคบกับไฮโซโบว์ ซึ่งไฮโซโบว์ยอมรับว่าคุยกับอ๊อฟจริงในฐานะเพื่อน อยากศึกษาดูใจกันไปก่อน โอกาสพัฒนาก็ปล่อยให้เป็นเรื่องอนาคต

อย่างไรก็ตาม คนที่ดูแลคิวงานให้กับอ๊อฟ ศุภณัฐ เปิดเผยกับสำนักข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า ตอนนี้อ๊อฟเดินทางไปยุโรป คุยกันล่าสุดคือวันที่ 20 ต.ค. ซึ่งอ๊อฟไม่ได้บอกว่าจะกลับเมื่อไหร่ คาดว่าอ๊อฟยังไม่รู้เรื่องนี้ ส่งลิงก์ข่าวไปก็ยังไม่ได้อ่านแต่อย่างใด


อันดับ 7 : ศาลอุทธรณ์ยืนศาลชั้นต้น ยกฟ้องคดีพันธมิตรฯ ชุมนุม 7 ตุลา 51 ชี้อัยการพยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 21 คน คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรณีเคลื่อนการชุมนุมจากทำเนียบรัฐบาล ไปปิดล้อมรอบอาคารรัฐภา ช่วงวันที่ 5-7 ต.ค. 2551 ไม่ให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประชุมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่า จำเลยทั้งหมดก่อความวุ่นวายและชุมนุมไม่ชอบ พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนัก รับฟังได้ว่าจำเลยทั้งหมดกระทำผิดตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายกฟ้อง

ด้านนายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในจำเลยเปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาจากตำรวจใช้กำลังและแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม โดยที่ผู้ชุมนุมไม่ทันตั้งตัวและไม่ได้เตรียมการมาเพื่อก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นการชุมนุมก็เป็นไปด้วยความสงบไม่ได้เกิดความวุ่นวายแต่อย่างใด อีกทั้งการสลายการชุมนุมไม่ได้มีการประกาศเตือน เจรจา หรือใช้รถน้ำ ส่วนอัยการโจทก์จะยื่นฎีกาต่อหรือไม่นั้น ก็อยากขอความเป็นธรรมไปยังอัยการสูงสุด เพื่อขอให้พนักงานอัยการไม่ยื่นฎีกา สำหรับจุดยืนทางการเมืองนั้นปัจจุบันแกนนำพันธมิตรฯ ได้สลายตัวกันไปหมดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น