อว. - เอ็นไอเอ กระชับความสัมพันธ์การทูตนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส ติดสปีดความร่วมมือกระทรวงอุดมศึกษาและวิจัยฝรั่งเศส ดันธุรกิจนวัตกรรมไทยให้โตในโกลบอล พร้อมตั้งเป้าดึงการลงทุนสู่ไทย

กรุงเทพฯ 27 ตุลาคม 2566 - สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เข้าร่วมหารือทวิภาคระหว่างนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และศาสตราจารย์ซิลวี เรอไตโย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแถลงการณ์แสดงเจตจำนงของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่าง ไทย-ฝรั่งเศส เนื่องในปีแห่งนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และหารือประเด็นการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านนวัตกรรมระหว่างไทยและฝรั่งเศส กับศาสตราจารย์ซิลวี เรอไตโย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อส่งเสริมและสร้างให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรมที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพทั้งสองประเทศ รวมถึงโอกาสการลงทุนผ่านกลไกการทูตนวัตกรรม


ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในการดำเนินงานตามแผนปีแห่งนวัตกรรมไทย – ฝรั่งเศส 2566 (Franco-Thai Innovation Year 2023) ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และกลไกที่ทันสมัยสำหรับยกระดับเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการและกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถของทั้งสองประเทศให้ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ โดยมี NIA เป็นหน่วยงานหลักที่เชื่อมความสัมพันธ์ด้านนวัตกรรมผ่านกรอบแนวคิด "การทูตนวัตกรรม (Innovation Diplomacy)” บนพื้นฐานความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานต่างประเทศที่มีศักยภาพทางนวัตกรรมทั่วโลกเพื่อยกระดับความเป็นสากลของระบบนวัตกรรมแห่งชาติของไทย ตลอดจนผลักดันการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่การเป็น "ชาตินวัตกรรม"








ภายใต้เป้าหมาย 3 ด้าน คือ การสร้างเครือข่ายนานาชาติในกลุ่มองค์กรรัฐและองค์กรนานาชาติ การเชื่อมโยงกับนักลงทุนที่สนใจการทำธุรกิจนวัตกรรมกับภาคเอกชนไทย และการเพิ่มพูนศักยภาพในการแข่งขันระดับสากลให้แก่ภาคธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยที่ผ่านมา NIA มีการดำเนินงานร่วมกับฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบนิเวศด้านอุตสาหกรรมอวกาศและอากาศยานของไทยผ่านโครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอวกาศและอากาศยาน หรือ F1 ที่นำไปสู่การพัฒนา “เศรษฐกิจอวกาศ” การพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศและอากาศยานระดับอุตสาหกรรม การจัดสัปดาห์นวัตกรรมและสตาร์ทอัพฝรั่งเศส - ไทย ณ กรุงปารีส ความร่วมมือกับ France's Public Investment Bank (Bpifrance) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเงินและการลงุทนแก่สตาร์ทอัพและผู้ประกอบการทั้งไทยและฝรั่งเศสในการพัฒนาธุรกิจด้านเทคโนโลยีเชิงลึก รวมถึงการส่งเสริมและสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพโดยมี Station F แคมปัสสำหรับสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในกรุงปารีส เป็นต้นแบบที่น่าสนใจ ฯลฯ






“สำหรับการหารือร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสในครั้งนี้ NIA ได้นำเสนอการดำเนินงานที่ผ่านมา เช่น เครื่องมือการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมของไทย การจัดตั้งศูนย์กลางสตาร์ทอัพระดับโลกทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค เพื่อรองรับสตาร์ทอัพและนักลุงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติให้สามารถดำเนินธุรกิจและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสรุปกิจกรรมที่จัดร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรเพื่อเฉลิมฉลองปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส - ไทย รวมถึงแนวทางการพัฒนากิจกรรมเพื่อกระชับความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างสองประเทศในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอแผนการดำเนินธุรกิจ (pitching) ของสตาร์ทอัพไทยและฝรั่งเศสในหลากหลายสาขาธุรกิจ ซึ่งเป็นการแสดงศักยภาพสตาร์ทอัพไทยที่พร้อมเติบโตและขยายความร่วมมือสู่เวทีระดับนานาชาติ โดยสตาร์ทอัพไทยที่เข้าร่วมการนำเสนอครั้งนี้มี จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1) บริษัท ไฮฟ์กราวนด์ จำกัด เทค เป็นสตาร์ทอัพด้านธุรกิจหุ่นยนต์และโดรนโซลูชัน 2) บริษัท บีจีเอฟ แพลนท์ทริกซ์ จำกัด สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีชีวภาพผู้พัฒนาพืชเพื่อการผลิตเภสัชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค และ 3) บริษัท เอ็มเค อควาเทค จำกัด ผู้นำการเลี้ยงปูสมัยใหม่ด้วยแนวทางที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน”