ใครสกรีนเสื้อขายโปรดอ่าน กรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้ เอาชื่อเพลงหรือเนื้อเพลงมาสกรีนเป็นลายเสื้ออาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ แนะขออนุญาตผู้แต่งเนื้อเพลงหรือเจ้าของลิขสิทธิ์เสียก่อน
วันนี้ (9 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "กรมทรัพย์สินทางปัญญา" โพสต์ข้อความหัวข้อ "การนำเอาชื่อเพลงหรือเนื้อเพลงมาสกรีนเป็นลายเสื้อ ละเมิดลิขสิทธิ์ไหม ??" ระบุว่า "ชื่อเพลง-เนื้อร้อง และทำนองเพลงที่คุ้นหู มักจะถูกพูดถึงกันเป็นวงกว้าง และมักถูกนำมาต่อยอดโดยการนำเอามาสกรีนลงบนเสื้อยืดเพื่อนำไปจำหน่าย แล้วการนำชื่อเพลง-เนื้อเพลงเหล่านั้นมาสกรีนถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อผู้สร้างสรรค์ผลงานหรือไม่ ?? วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกัน
ในการนำเนื้อเพลงที่เป็นส่วนสำคัญของเพลง หรือเป็น "Keyword" ที่เมื่อร้องหรือพูดคำนั้นออกมาก็จะทำให้นึกถึงเพลงที่มีคำคำนั้นขึ้นมาทันที ในอดีตได้มีคำพิพากษาฎีกาที่อาจนำมาเทียบเคียงได้ ก็คือ กรณีพิพาทที่มีผู้นำเนื้อเพลง "สายชล" เพียง 2 ประโยคสั้นๆ ไปใช้ในภาพยนตร์ซึ่งออกฉายในโรงภาพยนตร์และมีการจัดทำเป็น VCD และ DVD จำหน่ายในเวลาถัดมา ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นการใช้โดยที่วัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางการค้า จึงไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามมาตรา 32 (คำพิพากษาฎีกาที่ 5469/2552)
ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าการนำเนื้อเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของคนอื่นมาใช้ แม้จะเป็นแค่เพียง 2 ประโยคสั้นๆ แต่ถ้าเป็นส่วนสำคัญของเพลงที่จะทำให้นึกถึงได้ว่าเป็นเพลงอะไร ก็อาจจะเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยและตัดสิน และเมื่อเทียบเคียงในกรณีลายเสื้อ เพื่อความปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ทำก็ควรขออนุญาตผู้แต่งเนื้อเพลงหรือเจ้าของลิขสิทธิ์เสียก่อน หรือไม่ก็นำเอาส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญของเพลงมาใช้แทน หรือที่ปลอดภัยที่สุดก็อาจจะใช้คำคม คำขวัญ สโลแกน หรือวลีสั้นๆ ที่เก๋ๆ เท่ๆ ที่คิดขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองมาใช้แทน ซึ่งนอกจากจะทำให้ขายดีแล้ว อาจจะทำให้สินค้ากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย"