xs
xsm
sm
md
lg

จีนยกชั้นไฮเทค “สี จิ้นผิง” สั่งทุ่มเทสรรพกำลังปฏิวัติเทคโลยี-อุตสาหกรรมรอบใหม่ สร้างนวัตกรรมพึ่งพาตัวเองได้เต็มรูปแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” เผยจีนกำลังก้าวไปอีกขั้น “สี จิ้นผิง” สั่งทุ่มเทสรรพกำลังปฏิวัติเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์รอบใหม่กำหนดทิศทางประเทศไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง เปลี่ยนจากการรับจ้างผลิตมาเป็นผู้นำในภาคเศรษฐกิจไฮเอนด์ สร้างนวัตกรรม ความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานลดความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อมในอนาคตพึ่งพาตัวเองได้ในทุกภาคส่วน



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงการพัฒนาประเทศของจีนที่กำลังก้าวไปอีกขั้น โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2566 สื่อของทางการจีนคือ Global Times ได้เผยแพร่ข่าว ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเน้นย้ำถึงความสำคัญในการสร้างเทคโนโลยีชั้นสูงและอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาประเทศจีนสู่ความทันสมัย

โดยประธานาธิบดีสี กล่าวกับแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์ ถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ของจีน (New Industrialization)ว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการนำพาประเทศจีนสู่ความทันสมัย เพื่อสร้างประเทศให้เข้มแข็ง และฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของชาติในยุคสมัยใหม่ จากอุตสาหกรรมเดิมที่เน้นในเรื่องอุตสาหกรรมรับจ้างทำของ วันนี้จีนบอกว่ารับจ้างทำของก็ทำไป แต่จะมีอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมาคืออุตสาหกรรมที่เป็นนวัตกรรมของจีนเอง


ผู้นำจีนเรียกร้องให้ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อปรับตัวและสร้างบทบาทนำใน “การปฏิวัติเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์รอบใหม่” และ “การเปลี่ยนผ่านทางอุตสาหกรรม” ซึ่งจะเป็นยุคของเศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสาร

ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ และวันเสาร์ที่ผ่านมา คือ วันที่ 22 และ 23 กันยายน จีนได้กำหนดทิศทางการของประเทศไปสู่การพัฒนาที่
1.มีคุณภาพสูง
2.การสร้างนวัตกรรม, สร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทาน
3.สนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (high value-added items)และ
4.เทคโนโลยีล้ำสมัย (Cutting-edge technologies)
เหมือนอย่าง Huawei Mate 60 Pro ที่ล้ำสมัยกว่า iPhone 15 Pro

โดย จีนจะเปลี่ยนจากการ “รับจ้างผลิต” เป็น “โรงงานของโลก” มาเป็นผู้นำในภาคเศรษฐกิจชั้นนำ หรือ High-End Sectors


ผู้เชี่ยวชาญของจีนระบุว่า ถึงแม้ประเทศจีนจะเป็นผู้นำของโลกในเรื่องธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ และการชำระเงินออนไลน์แต่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวมยังถือว่าต่ำกว่าในมุมมองของทั่วโลก โดยในปีที่แล้ว ปี 2565 เศรษฐกิจดิจิทัลของจีนคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของ GDP

ซึ่งสัดส่วนดังกล่าว ถือว่ายังต่ำกว่าประเทศชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของประเทศจีน โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยและอุตสาหกรรมยุคใหม่ ซึ่งจะทำให้ประเทศจีนสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่เคยเป็นแค่ความฝันในทุกวันนี้ ให้เป็นจริงขึ้นได้


จีนตั้งยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศโดยนวัตกรรม ซึ่งที่ผ่านมา ในปี 2555 จีนทุ่มการลงทุนใน R&D มากกว่า 1 ล้านล้านหยวน จากนั้น ในปี 2562 เพิ่มเป็น 2 ล้านล้านหยวน และ ในปีที่แล้ว 2565 งบประมาณด้าน R&D เพิ่มเป็น 3 ล้านล้านหยวน

งานวิจัยของจีนที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำของโลกก็เพิ่มขึ้นเป็น 16,349 ชิ้น แซงหน้าผลงานวิจัยของสหรัฐเป็นครั้งแรก

ประธานาธิบดีสี ระบุว่า มีการแข่งขันอย่างรุนแรงในบางอุตสาหกรรม ที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งพยายามปิดล้อมจีน และสร้างกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อกีดกันจีน


การเปิดตัวสมาร์ทโฟน Huawei Mate 60 Proที่ได้เล่าให้ฟังอย่างละเอียดไปแล้วสองตอนเป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ที่สามารถฝ่าข้ามการกีดกันทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้

การพัฒนาไมโครชิปของจีนนั้นมีความก้าวหน้ามากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประมาณการณ์ว่า ในปี 2566 นี้ จีนจะใช้ชิปที่ผลิตได้ในประเทศจีนเองถึง 25% เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่จีนผลิตชิปได้เองแค่ 5%


จีนใช้เวลาไม่กี่ปีทำในสิ่งที่ประเทศอื่น ๆ ต้องใช้เวลาทำถึง 20 ปี

การคว่ำบาตรทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ใช้กับจีนถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่มีน้ำยา ส่วนคำขู่ล่าสุดของสหภาพยุโรป ที่จะสอบสวนว่า รถยนต์พลังงานใหม่ หรือ EV ของจีนทำผิดกฎเรื่องการปกป้องทางการค้า ขายในราคาถูกกว่าปกติเพราะได้รับการสนับสนุนจากทางการจีนนั้น ก็ยิ่งจะกระตุ้นห้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้ล้ำหน้ามากขึ้นไปอีก


อุตสาหกรรมใหม่ของจีน ที่มีรากฐานอยู่บนเทคโนโลยีใหม่ คือปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)และข้อมูลมหัต (บิ๊กดาต้า) จะขยายตัวครอบคลุมทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทาน และลดความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อมในอนาคต

นอกจากนี้ จีนจะระดมนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นหัวหอกในการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่


แม้แต่ ภาคการเกษตร ก็จะได้รับประโยชน์จากการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่เช่นเดียวกัน พยากรณ์อากาศจะแม่นยำมากขึ้น, ใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อติดตามแมลงศัตรูพืช และโรคระบาด รวมทั้งใช้เทคโนโลยีปรับปรุงสายพันธุ์พืชให้ดียิ่งขึ้นด้วย

“นี่คือเส้นทางเดิน หรือ Roadmap หรือ แผนกลยุทธ์ของ การปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ของจีน ที่ถูกเปิดเผยออกมาล่าสุด ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการไปกีดกัน ไปแซงก์ชัน หรือ ทำลายประเทศอื่น ๆ แต่คือ ใช้หลักการของพระพุทธเจ้า อัตตาหิ อัตโน นาโถ พึ่งพาตัวเอง สร้างตัวเองให้ดีขึ้น ให้เข้มแข็ง ให้แข็งแกร่ง และพึ่งพาตัวเองได้ในทุกภาคส่วน ซึ่งผมเห็นว่าหนทางนี้คือ หนทางที่ถูกต้องและควรจะเป็นแนวทางของการพัฒนาประเทศไทยเช่นเดียวกันครับ”
นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น