วันที่ 29 ก.ย.2566 นายวัฒนะชัย ยะนินทร อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมทั้งตัวแทนจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีแรม จำกัด บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) และมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมปูพื้นกระเบื้องอาคารอเนกประสงค์ และปรับปรุงเปลี่ยนรางน้ำใหม่ รวมถึงมอบอุปกรณ์เครื่องเขียน น้ำดื่ม ขนม ให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองน้อย ม.7 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พ.ต.อ.อภิรัตน์ เปี่ยมพูล ผกก.1 (รบพิเศษ ) กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ รอง ผกก.1 รบพิเศษ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และคณะผู้อำนวยโรงเรียน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน และนักเรียนให้การต้อนรับ และร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันอย่างอบอุ่น
นายวัฒนะชัย กล่าวว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ เป็นองค์กรเสริมสร้างความเป็นเอกภาพในองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชนในการทำหน้าที่นำเสนอข่าวไปสู่ประชาชนในสังคมแล้วยังมีส่วนส่งเสริมโรงเรียนถิ่นทุรกันดารในการช่วยเหลือนักเรียนให้ได้รับโอกาสในการศึกษา และพัฒนาอย่างเท่าเทียมสามารถนำความรู้นั้นไปพัฒนาตน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม และประเทศชาติต่อไปในอนาคต
จึงมีการสำรวจโรงเรียนที่ขาดแคลนเห็นว่า ร.ร.ตชด.บ้านคลองน้อย มีบทบาทด้านการศึกษาพัฒนาเด็กเยาวชนในชุมชนห่างไกล เพื่อให้เด็กเหล่านี้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ทั้งยังมีบทบาทในการจัดบริการด้านต่าง ๆ แก่นักเรียน คณะครู บุคลากร รวมถึงผู้ปกครองนักเรียน และหน่วยงานในท้องถิ่นเข้ามาใช้บริการสถานที่อาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียน แต่ด้วยสภาพอาคาร และภูมิทัศน์โดยรอบยังพบว่าพื้นอาคารไม่เรียบร้อย
อนุกรรมการฝ่ายสวัสดิการฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้มีการปรึกษากับคณะครูต่างมีความคิดเห็นตรงกันในการจัดทำโครงการปูพื้นกระเบื้องอาคารอเนกประสงค์ที่โรงเรียนควรจะได้ดำเนินการใช้ในกิจกรรมต่างๆ เอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการปรับปรุงบริเวณอาคารเอนกประสงค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดครั้งนี้ สุดท้ายนี้หากมีโอกาสเราจะยังมีการจัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ด้าน ร.ต.ต.สุชาติ ราศรี ผู้ช่วยครูใหญ่ฝ่ายงานโครงการพระราชดำริฯ ร.ร.ตชด.บ้านคลองน้อย บอกว่า โรงเรียนแห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2541 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยม ร.ร.ตชด.นเรศวรห้วยผึ้ง ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และราษฎรบ้านคลองน้อย ได้ยื่นถวายฎีกาขอรับพระราชทานความช่วยเหลือด้านการเรียนการสอน และด้านสุขภาพอนามัยแก่เด็ก และราษฎร จึงทรงมีพระราชกระแสให้ครูใหญ่ ร.ร.ตชด.นเรศวรห้วยผึ้งดูแล และให้การช่วยเหลือ
ดังนั้นกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 รับสนองพระราชกระแสโดยสำรวจข้อมูลสภาพปัญหา ทางด้านการเมือง สังคม และด้านเศรษฐกิจของชุมชน พบว่าบ้านคลองน้อยตั้งอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลการคมนาคม ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทย มีสัญชาติไทย มีอาณาเขตด้านทิศตะวันตกติดชายแดนประเทศพม่า ประชาชนมีปัญหาด้านการศึกษา เด็กไม่ได้รับการศึกษาตามวัย โรงเรียนของรัฐอยู่ห่างไกล และฐานะยากจน ราษฎรเสนอความต้องการให้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นในหมู่บ้านคลองน้อย และก่อตั้งร.ร.ตชด.ขึ้นปี2542โดยใช้ชื่อว่าโรงเรียนบ้านคลองน้อย (สาขา ร.ร.ตชด.นเรศวรห้วยผึ้ง) และเปลี่ยนชื่อเป็น ร.ร.ตชด.บ้านคลองน้อยมีเนื้อที่ 20 ไร่ โดยการบริจาคของคุณนิพนธ์ คุณรพีพรรณ เมธานพคุณ
ปัจจุบันจัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 และฉบับแก้ไข พ.ศ.2560 เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัยถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 มีนักเรียนชั้นปฐมวัย 46 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 จำนวน 99 คน รวมทั้งหมด 145 คน มีครูตชด.จำนวน 7 นาย ครูคู่พัฒนาจำนวน ๑ คน (สาระภาษาอังกฤษ) ผู้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนจำนวน 2คน โรงเรียนฯ ได้ดำเนินงานโครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 8โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน 2.โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา 3.โครงการฝึกอาชีพ 4.โครงการนักเรียนในพระราชนุเคราะห์ 5.โครงการส่งเสริมสหกรณ์ 6.โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน 7.โครงการส่งเสริมโภชนาการสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร 8.โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงงานในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองน้อย จำนวน 4 ครั้ง และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2563
สุดท้ายนี้คณะครู นักเรียน กรรมการสถานศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองนักเรียน ต้องขอขอบคุณสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีแรม จำกัด บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) และมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษา และคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ที่ได้มอบเงินเพื่อสนับสนุนโครงการปูกระเบื้องอาคารอเนกประสงค์แห่งนี้เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท และมอบเงินในการปรับปรุงรางน้ำฝนที่ชำรุดอีก 15,000 บาท รวมทั้งสิ้น 115,000 บาท โดยสถานที่แห่งนี้ได้ใช้ประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่นการจัดกิจกรรมของหน่วยงานสนองโครงการพระราชดำริฯ กิจกรรมไหว้ครู ตลอดถึงกิจกรรมการประชุมผู้ปกครองนักเรียน สถานที่ตรงนี้เคยได้ใช้เป็นพื้นที่ในการถวายรายงานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชมารี ในกิจกรรมการแปรรูปอาหาร และกิจกรรมในโครงการฝึกอาชีพของโรงเรียนที่จักได้ใช้พื้นที่แห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด