นายกสมาคมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ ใบหน้าและศีรษะ แห่งประเทศไทย เรียกร้องลงโทษสูงสุดพ่อทำร้ายร่างกายลูกจนพิการก่อนนำมาเปิดรับบริจาคเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้อีก พร้อมแนะครอบครัวสามารถเข้ารับการรักษากับ รพ.รัฐได้ทุกแห่ง และหากพบผู้พิการดังกล่าวเป็นขอทาน ท่านสามารถแจ้งความต่อสถานีตำรวจ เพื่อประสานงานกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการต่อไป
จากกรณีคดีฆาตกรรมเด็กวัย 2 ขวบโบกปูนในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร จนนำมาสู่การขยายผลนายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม และภรรยาของนายเอ็ม จนพบว่าเคยก่อเหตุฆาตกรรมลูกมาแล้ว 4 ศพ นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีการ "ทรมานลูก" จนตาบอด-ปากแหว่ง ก่อนจะเปิดรับบริจาคตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งมีความผิดเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย. เพจ “Thai cleft” ออกมาโพสต์ประณามพ่อใจบาปที่ทำร้ายลูกจนพิการ โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
“จากกรณีข่าวเหตุสะเทือนขวัญ “เด็กถูกทำร้ายจนมีสภาพปากแหว่ง จมูกขาด และตาบอดทั้งสองข้าง ก่อนนำภาพเด็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อขอรับเงินบริจาค”
สมาคมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ ใบหน้าและศีรษะแห่งประเทศไทย ขอร่วมประณามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่กระทำต่อเด็ก โดยการทำให้เด็กพิการ บาดเจ็บหรือสูญเสียอวัยวะ แล้วนำเด็กไปเป็นขอทานหรือโพสต์ลงสื่อสังคมเพื่อขอรับเงินบริจาค
สมาคมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ฯ ขอเรียกร้องให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างสูงสุด เพื่อป้องกันอาชญากรรม การทำร้ายเด็กและการค้ามนุษย์
และขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า เด็กที่พิการปากแหว่ง เพดานโหว่ ใบหน้าและศีรษะ ทุกราย มีสิทธิการรักษาของรัฐ รวมทั้งมีการช่วยเหลือจากองค์กรมูลนิธิต่างๆ โดยเด็กจะได้รับการดูแลรักษาโดยบุคคลสหสาขาวิชาชีพในทุกด้าน เช่น การผ่าตัด การได้ยิน การฝึกพูด การจัดฟัน ฯลฯ
ทั้งนี้ ครอบครัวผู้ป่วยสามารถรับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยได้ทุกจังหวัด และหากพบเห็นผู้พิการดังกล่าวเป็นขอทาน ท่านสามารถแจ้งความต่อสถานีตำรวจ เพื่อประสานงานกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขอขอบคุณ
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ เฉลิมพงษ์ ฉัตรดอกไม้ไพร นายกสมาคมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ ใบหน้าและศีรษะ แห่งประเทศไทย
https://meeting.thaicleft.org/
24 กันยายน 2566