โบว์ ณัฏฐา ชี้ปมถอนสิทธิเลือกตั้งช่อตลอดไป กม.ไม่ควรถึงขั้นละเมิดสิทธิพลเมือง-การเมืองพื้นฐาน

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ชี้กรณีศาลพิพากษาช่อ พรรณิการ์ ถอนสิทธิลงรับเลือกตั้งตลอดไป ไม่ควรมีบทบัญญัติให้ละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน ถ้าทำผิดให้กฎหมายจัดการ ผิดจริยธรรมก็มีกระบวนการถอดถอนอยู่แล้ว

วันนี้ (21 ก.ย.) เฟซบุ๊ก "โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา - Nuttaa Mahattana" ของ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ อายุ 35 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามกฎหมาย ในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบกรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

โดยบทความดังกล่าวระบุหัวข้อ “รัฐธรรมนูญ 60 กับการละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง” ระบุว่า

เพิ่งได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มซึ่งมีบทสรุปที่การเพิกถอน “สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง” ของคุณช่อ รวมถึงสิทธิในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตลอดไป

สรุปโดยย่อให้เข้าใจง่ายที่สุด ศาลให้เหตุผลว่า การที่คุณช่อในระหว่างเป็น ส.ส. “ไม่ลบ” ภาพและโพสต์ซึ่งมีมาก่อนดำรงตำแหน่งที่แสดงถึงการไม่เคารพเทิดทูนสถาบันฯ นั้น ถือเป็นการละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในส่วนที่เกี่ยวกับการ “พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์”

จึงพิพากษาตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต!

การจะตีความว่าการลบหรือไม่ได้ลบโพสต์ที่มีอายุนานนับสิบปีและจะไม่มีวันหายไปจากโลกออนไลน์ได้ ถือเป็นการพิทักษ์หรือไม่พิทักษ์สถาบันฯ หรือไม่นั้น คงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันได้ แต่คำถามที่สำคัญยิ่งกว่า คือ …

เราควรมีบทบัญญัติที่เป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น “สิทธิในการเลือกตั้ง” หรือ “สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้ง” เช่นนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญหรือไม่?

หากบุคคลใดกระทำผิด ย่อมมีกฎหมายจัดการอยู่แล้ว

หากเป็นการผิดจริยธรรม ก็มีกระบวนการถอดถอนและบทลงโทษของแต่ละองค์กรอยู่แล้ว

ประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรมีบทบัญญัติใดที่เป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐานที่สุดเช่นนี้

เพราะ “สิทธิในการเลือก” ควรเป็นของประชาชน"