"บิ๊กโจ๊ก" เปิดวงจรปิดบ้าน "กำนันนก" พบมีตำรวจแค่ 5 รายช่วยคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ไม่พบ "ผกก.พญาไท" มีส่วนช่วยตามที่กล่าวอ้าง เผยกล้อง 1 ตัวกำนันนกกดปิดเองตั้งแต่ 10 โมงเพื่อไม่ให้เห็นหน้าผู้ร่วมงาน ลั่นพยานหลักฐานชัดเจนว่าสั่งยิง ดิ้นไม่หลุดแน่นอน
วันที่ 15 ก.ย. 2566 เมื่อเวลา 21.56 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงการณ์ความคืบหน้าการกู้ไฟล์ภาพจากเซิร์ฟเวอร์บ้านกำนันนก ว่า ภาพแรกหลังจากเกิดเหตุยิงแล้ว ตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ต.ณรงค์, ด.ต.สราวุธ และ ด.ต.ชนาณัฐ อุ้ม พ.ต.ท.ศิวกร ขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาล ส่วนอีก 2 นายที่เพิ่มมา ร.ต.ท.จตุรวิทย์ และ พ.ต.ท.ภทร ได้ช่วย พ.ต.ท.วศิน ส่งโรงพยาบาล
สิ่งที่สังคมสงสัย ตำรวจนายไหนให้การเท็จ คนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมีแค่ 5 รายนี้เอง นอกนั้นไม่มีตามที่ให้การไว้ ไม่มีใครจับกุมความผิดซึ่งหน้า ตำรวจพวกนี้จะเจอ มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอีกส่วนที่ช่วยคนผิด มีขับรถนำ ขับตาม คุ้มกันกำนันนก อีกส่วนคือนายตำรวจระดับสูงเผ่นแน่บ แล้วบอกว่าช่วย โกหกซะงั้น แย่มาก ซึ่งคณะกรรมการทั้งหมดจะร่วมกันพิจารณาเอาผิดทั้งอาญาและวินัย
ส่วนเรื่องกล้อง จากที่มีทั้งหมด 15 ตัว 13 ตัวกู้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 2 ตัวพยายามกู้แต่กู้ไม่ได้ ตัวที่ส่องมาบนโต๊ะจีน เพิ่งถอดบอร์ดออกมาได้ 2 ตัว ตัวหนึ่งไม่ได้ใช้งานตั้งแต่ 23 ส.ค. อันนี้ตัดไป ส่วนอีกอัน เวลา 10.16 น. ไม่มีภาพหลังจากนี้ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานถอดบอร์ดออกมาได้ กำนันนกกดปิดสวิตช์เอง เพราะคงมีคนมาเตือนตั้งแต่ในช่วงกำลังจัดสถานที่ว่าไม่ควรให้เห็นว่ามีใครมานั่งบ้าง จึงไม่มีการจับภาพตั้งแต่เวลานั้น
พบว่าก่อนยิงมีการกันคนออกไป มีหลักฐานชัดเจนว่ากำนันสั่งยิง หลังเกิดการยิงแล้ว ลูกน้องยืนคุ้มกันทุกจุด แต่ตำรวจต่างคนต่างออก ความผิดซึ่งหน้าไม่จับกุม ส่วนตำรวจที่บอกว่าช่วยคนเจ็บเป็นสิบ แต่ที่จริง 5 ราย
ส่วนจะแจ้งข้อหาใครบ้าง พรุ่งนี้ (16 ส.ค.) พิจารณากัน และจะขยายผลไปเรื่องร่ำรวยผิดปกติ ตรวจสอบเส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ การประกอบธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ 1,500 กว่าโครงการ อภิมหาผิดปกติ ต้องไปตรวจสอบ
นอกจากนี้พบว่าญาติกำนันนก คือต๋องส่งปืนให้เด้ง สื่อว่าเตรียมพร้อมว่าถ้ามีปัญหาก็ต้องยิง เป็นการตระเตรียม ก่อนมีการยิง มีการเอาคนแก่ออกไปก่อน เปิดทางรถเพื่อเตรียมออก วิธีการแบบนี้รู้แล้วว่าต้องมีการยิง กำนันออกมาคุยกับหน่องก่อนมีการยิง มีการส่งสัญญาณ ฉะนั้นจบสนิท พยานหลักฐาน ยังไงก็ไม่รอด
นอกจากนี้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ (ผู้กำกับเบิ้ม) จากภาพไม่พบว่าให้การช่วยเหลือ เพราะกล้องปิดไป แต่มีประจักษ์พยาน และมีภาพปรากฏตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้กำกับการ สน.พญาไท ตามภาพไม่เห็นชื่อ ก็จะไม่มี
ส่วนผู้กำกับการทั้งหมดต้องเรียกมาสอบดูคำให้การเดิม เราดูไว้แล้วต้องแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้าง ต้องแยกทั้งหมดทั้งไม่จับกุมทั้งที่เกิดเหตุซึ่งหน้า และให้การเท็จ
