ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด โดยภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญ์ณัฐ ภพพัชญาพันณ์ ผกก.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 1 ตท. เป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย เข้าร่วมงานแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด Fredy Pratama พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวอินโดนีเซีย จากการปฏิบัติการร่วมกันระหว่าง
1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย INP
2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย RTP
3. สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไทย
4. กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดไทย
5. ตำรวจสากลกรุงเทพฯ 6. DEA สหรัฐฯ
7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเลเซีย RPM
8. ศุลกากร อินโดนีเซีย
การปฏิบัติการครั้งนี้ทางการไทยได้จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายนาย Fredy Pratama ได้ 3 รายที่หลบหนีเข้าไทย และเจ้าหน้าที่ทางการของประเทศมาเลเซียจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ร่วมกับทางการอินโดนีเซีย จับกุม รวมแล้วกว่า 40 ราย รวมถึงการขยายผลผู้ต้องสงสัของเครือข่ายนี้ในประเทศอินโดนีเซียที่อยู่ระหว่างการขยายผลอื่นๆ อีกกว่า 800 ราย ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในไทยได้ถูกส่งตัวกลับไปยังอินโดนีเซียแล้ว ทั้งนี้ การปฏิบัติการร่วมในครั้งนี้สามารถยึดยาเสพติดได้ถึง 20 ตัน และทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมยาเสพติดที่กระทำโดยผู้ต้องหาเป็นจำนวนเงินกว่า 700 ล้านบาท