แกะรอยเบียร์ยี่ห้อที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ระยองจำหน่าย ผลิตจากโรงงานที่ปราจีนบุรี จัดจำหน่ายผ่านทางห้างหุ้นส่วนจำกัด พบหุ้นส่วนมีแต่ "นาคหิรัญ" นามสกุลเดียวกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล แต่ไม่มีชื่อ พงศธร อีกด้านพบจดชื่อบริษัท อนาคตระยอง ทุนจดทะเบียน 5 ล้าน แต่ไม่ส่งงบการเงิน พ่อตาอ้างแค่นำสุราก้าวหน้ามารู้จัก ไม่มีรายได้มากมาย
วันนี้ (30 ส.ค.) จากกรณีที่บนโซเชียลฯ แชร์และวิจารณ์กรณีที่นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดระยอง ออกประกาศ ซึ่งนายพงศธรชี้แจงว่า ตนมีรายได้ไม่ถึง 220,000 บาทต่อปี จึงยื่นใบรับรองตัวเองว่ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ต่อมาพบว่ามีชาวเน็ตขุดภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพงศธร ขณะที่เจ้าตัวกำลังจะส่งผลิตภัณฑ์เบียร์ยี่ห้อหนึ่ง โดยขนใส่รถยนต์เป็นลังๆ รวมถึงการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในลักษณะหรูหรา ทำให้นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2562 นายพงศธรทำหน้าที่เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว น.ส.เบญจา แสงจันทร์ มีรายได้ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ไม่เกิน 180,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขไม่เกินที่กฎหมายกำหนดให้จ่ายภาษี ส่วนกรณีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายพงศธรได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนจริง แต่รายได้ไม่ถึงปันผลจนถึงปัจจุบัน จึงไม่เคยยื่นเสียภาษีในกรณีนี้
อ่านประกอบ : โซเชียลฯ แฉพงศธร ผู้สมัครก้าวไกลระยอง เคยถูกแจ้งความคดียักยอก ขุดชีวิตหรูหราหลังระบุไม่เคยเสียภาษี
ก้าวไกลแจง “โย พงศธร” มีรายได้แค่เดือนละ 15,000 ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี โวยโดนสาดโคลน
ขุดคิวอาร์โค้ดขายเบียร์ โอนเข้าบัญชีผู้สมัครก้าวไกลระยอง เจ้าตัวซ่อนโพสต์เก่าหมดเกลี้ยง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับผลิตภัณฑ์เบียร์ที่นายพงศธรเป็นผู้จัดจำหน่ายนั้น (ขอสงวนยี่ห้อ) ภาพจากโซเชียลฯ ระบุว่าบนฉลากผลิตโดย บริษัท นิวส์ เวิร์ล อู๋ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลไผ่ชะเลือด อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี จัดจำหน่ายโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด มังกรปราจีน ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 ตำบลบ้านพระ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท นิวส์ เวิร์ล อู๋ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2545 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท มีนายอู๋ อิ้ง เจี๋ย และนายรักเกียรติ แซ่หวง เป็นกรรมการบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการนำเข้า ข้าวมอลต์บาร์เลย์ เพื่อเป็นวัตถุดิบสุราแช่ทุกประเภทและไวน์ทุกประเภท ส่วนวัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ผลิตสุรา ข้อมูลงบการเงินย้อนหลังพบว่ามีกำไรสุทธิในปี 2561 และขาดทุนสุทธิติดต่อกันตั้งแต่ปี 2562-2565 ดังนี้
ปี 2565 มีรายได้รวม 12,937,515.74 บาท ขาดทุนสุทธิ 15,425,070.96 บาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 15,072,894.77 บาท ขาดทุนสุทธิ 15,862,313.33 บาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 16,730,419.49 บาท ขาดทุนสุทธิ 15,110,848.04 บาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 18,385,965.54 บาท ขาดทุนสุทธิ 11,389,837.56 บาท
ปี 2561 มีรายได้รวม 72,834,826.51 บาท กำไรสุทธิ 40,142,845.76 บาท
ที่น่าสนใจก็คือ สัดส่วนการลงทุนจำแนกตามสัญชาติ พบว่ามีคนไทย 3 ราย รวม 51 ล้านบาท ไต้หวัน 1 ราย รวม 49 ล้านบาท รวมทุกสัญชาติ 4 ราย 100 ล้านบาท
ส่วนข้อมูลจากเว็บไซต์ JOBTHAI ระบุว่า บริษัท นิวส์ เวิร์ล อู๋ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีทุนจดทะเบียน 100,000,000.00 บาท มีพื้นที่ 43,200.00 ตารางเมตร หรือประมาณ 402 ไร่ โรงงาน บริษัท นิวส์ เวิร์ล อู๋ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2550 และดำเนินการผลิตในปี พ.ศ. 2553 มีกำลังการผลิต 9 ล้านขวด/ปี โดยงานก่อสร้างได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP อย่างเข้มงวด บริษัท นิวส์ เวิร์ล อู๋ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต บริษัท วิกอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้จำหน่ายในประเทศ
ส่วนห้างหุ้นส่วนจำกัด มังกรปราจีน ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2561 ผู้เป็นหุ้นส่วน ได้แก่ นายธนัชพงศ์ นาคหิรัญ ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 100,000.00 บาท และนางกาญจนา นาคหิรัญ ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 100,000.00 บาท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน การขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ส่วนวัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด จำหน่ายสุรา ข้อมูลงบการเงินย้อนหลังพบว่าดังนี้
ปี 2565 มีรายได้รวม 9,145,505.28 บาท กำไรสุทธิ 270,362.90 บาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 9,382,070.65 บาท กำไรสุทธิ 109,400.44 บาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 11,480,449.43 บาท กำไรสุทธิ 264,450.22 บาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 10,194,246.62 บาท กำไรสุทธิ 287,539.56 บาท
อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่านายพงศธร ลงหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนแต่อย่างใด แตกต่างจากที่ก่อนหน้านี้ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า นายพงศธรได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่การประกอบธุรกิจดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่นำไปสู่การปันผลจนถึงปัจจุบัน เมื่อไม่ได้รับปันผลก็ไม่เคยต้องไปยื่นเสียภาษีในกรณีนี้ ดังนั้น รายได้ของนายพงศธรในช่วงเวลาที่ผ่านมา มาจากการทำหน้าที่ตำแหน่งผู้ชำนาญการ ส.ส.เท่านั้น
ถึงกระนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้เป็นหุ้นส่วน ได้แก่ นายธนัชพงศ์ นาคหิรัญ และนางกาญจนา นาคหิรัญ มีนามสกุลเดียวกับ นายไพฑูรย์ นาคหิรัญ อดีตนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี เขต 1 พรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ซึ่งพบว่าได้คะแนนมาเป็นอันดับสอง 31,197 คะแนน รองจากนายอำนาจ วิลาวัลย์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 35,641 คะแนน
อีกด้านหนึ่ง พบว่านายพงศธรมีชื่อจดทะเบียน บริษัท อนาคตระยอง จำกัด โดยจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2561 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลแกลง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง มีนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นกรรมการบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน การขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต แต่พบว่าไม่เคยส่งงบการเงินเลยแม้แต่ปีเดียว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ที่อยู่ที่ใช้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท อนาคตระยอง จำกัด เป็นบ้านของพ่อตานายพงศธร ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ เป็นบ้านชั้นเดียว แต่อ้างกับผู้สื่อข่าวที่ไปลงพื้นที่ว่า เป็นการนำสุราและเบียร์ก้าวหน้ามาแนะนำให้รู้จัก ไม่ได้จำหน่ายมากมาย จึงไม่มีรายได้ ลูกเขยเข้าไปทำงานการเมือง จึงมีรายได้ทางเดียว ก่อนหน้าก็เป็นเซลส์ขายสินค้า ส่วนภรรยาเป็นพยาบาล