เผยตั้งแต่ 1 ก.ย. การรถไฟฯ ลดค่าตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ 8 ขบวน แต่ไม่มีบริการแจกอาหารและเครื่องดื่ม และไม่มีพนักงานต้อนรับให้บริการบนขบวนรถ หลังที่ผ่านมาเปิดประมูลไปแล้วรอบหนึ่ง ราคากลาง 199 ล้านบาท แล้วไม่มีใครสนใจ ก่อนหน้านี้ปุ้มปุ้ยรับสัมปทานตั้งแต่ปี 63-66
วันนี้ (27 ส.ค.) เฟซบุ๊ก "สถานีรถไฟอุบลราชธานี" โพสต์ข้อความระบุว่า "ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2566 ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 ออกต้นทางสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 06.10 น. และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 22 ออกต้นทางอุบลราชธานี เวลา 14.50 น. จะไม่มีบริการแจกอาหารและเครื่องดื่ม และจะไม่มีพนักงานต้อนรับให้บริการบนขบวนรถ
การรถไฟฯ จะปรับราคาตั๋วโดยสารลงเท่ากับรถชั้น 2 ปรับอากาศ ที่ไม่มีบริการแจกอาหารและเครื่องดื่ม จากเดิม 579 บาท ลดลง 80 บาท คงเหลือราคาค่าโดยสารจากอุบลฯ ปลายทางสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ในราคา 499 บาท ท่านผู้โดยสารโปรดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปรับประทานด้วยนะครับ ขออภัยในความไม่สะดวก
สำหรับท่านผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าที่รวมค่าอาหารไว้แล้ว ให้พนักงานตรวจตั๋วสลักไว้ในตั๋ว รับเงินคืนที่สถานีปลายทาง (80 บาท) ท่านผู้โดยสารที่มีความประสงค์ยังต้องการอาหารและเครื่องดื่มสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ขบวนรถ ให้จัดอาหารตามสั่งให้ผู้โดยสารได้ และไม่มีบวกเพิ่มค่าบริการใดๆ"
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สาเหตุที่ไม่มีบริการแจกอาหารและเครื่องดื่ม และพนักงานต้อนรับให้บริการบนขบวนรถ เนื่องจากอยู่ระหว่างการประกาศประกวดราคาการจัดจ้างบริการอาหารและเครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถ โดยการประกวดราคา ครั้งที่ 1 ไม่มีผู้เสนอราคา และอยู่ในช่วงเชิญชวนประกวดเสนอราคา ครั้งที่ 2
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า สำหรับขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ที่จะไม่มีการแจกอาหารรวมถึงพนักงานต้อนรับ และลดราคาตั๋วจากราคาปกติ 80 บาท มีทั้งหมด 8 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7 กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 8 เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 22 อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 39 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุราษฎร์ธานี, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 40 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุราษฎร์ธานี และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 44 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์ โดยมีแนวทางปฏิบัติก็คือ หากผู้โดยสารต้องการอาหารและเครื่องดื่ม ให้แจ้งพนักงานขบวนรถเพื่อสั่งซื้อที่สถานีที่สามารถซื้ออาหารได้ไปพลางก่อน โดยห้ามพนักงานขบวนรถเรียกเก็บเงินค่าบริการใดๆ เพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยกำหนดราคากลางที่ 199 ล้านบาท และเปิดให้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในวันดังกล่าวไม่มีผู้ยื่นเสนอราคา ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องประกาศยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับที่ผ่านมา บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือปุ้มปุ้ย เคยได้รับสัมปทานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้เป็นผู้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 โดยสัญญาสัมปทานการขายอาหาร-เครื่องดื่มบนรถไฟครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2563 สิ้นสุดสัญญาเมื่อเดือน มี.ค. 2566 โดยมีบริการอาหารหลากหลายรูปแบบ เช่น ข้าวสวยหอมมะลิ กับแกงมัสมั่นไก่ แกงฉู่ฉี่ปลา หรือหอยลายผัดกระเทียม เป็นต้น