"เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" หน.เสรีรวมไทย ชี้พรรคก้าวไกลหลงตัวเอง คิดว่าได้ที่หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ทั้งที่โดยมารยาทประกาศตัวได้ต่อเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้วเท่านั้น รอบข้างตัวมีแต่คนเกลียดแต่ไม่พูด ชี้จุดตายคดีรื้อ 112 ล้มล้างการปกครอง ระบุมีพฤติกรรมอื่นแอบแฝง หวั่นต่อไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง
วันนี้ (5 ส.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการเล่าข่าวข้น ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ระบุว่า พรรคก้าวไกลหลงตัวเอง คิดว่าได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เที่ยวประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ไปนัดประชุมองค์กรนั้นองค์กรนี้ ไปสั่งสอนข้าราชการอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งไม่ใช่ เพราะยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลย ถ้าคุณได้เป็นก็ยังโอเค แต่คุณไม่ได้เป็น โคตรขายหน้าเลย เพราะยังไม่รู้ว่าความถูกต้องเหมาะสมเป็นยังไง จะประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต่อเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้วเท่านั้น
สมมติพรรคเพื่อไทยเขาโหวตผ่าน สมมติเขาเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน คุณเศรษฐายังประกาศตัวว่าเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เลย ขนาดโหวตผ่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วนะ ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ เสียก่อน นี่อะไร ยังไม่มีอะไรเลย เลือกตั้งเสร็จกูก็จะเป็นนายกฯ แล้ว แล้วก็ไปประกาศทั่วไปเลย จังหวัดโน้นจังหวัดนี้ เพื่ออะไร ปลุกระดมมวลชน ผมเข้าใจการไปขอบคุณที่เขา (ประชาชน) สนับสนุนมา โอเค ทำได้ ก็ต้องในเชิงจริงๆ ว่าขอบคุณ แต่ไม่ใช่ไปประกาศตนเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ใช่ไหม นี่ก็หมายความตู่จะยึดเอาเป็นของตัวเอง
"รอบข้างตัวมีแต่คนเกลียดตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครเอาก้าวไกลเลยนะ ผมไม่อยากจะพูดนะ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลถูกร้องเรียน รวมถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ถูกร้องเรียน แล้วคดียังอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีความพยายามในการแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ว่า "ตอนนี้มีผู้ร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลจะล้มล้างการปกครอง ผมก็คิดว่ามันน่าจะโดนนะ พูดตรงๆ นี่ไม่ได้รังเกียจรังงอน เราพูดกันตรงๆ ดูจากข้อเท็จจริงอะไรต่างๆ แล้วก็กฎหมายก็น่าจะโดน
อย่างเรื่องการแก้กฎหมาย แก้ไขมาตรา 112 ที่คนอื่นเขาไม่เอา หรือจะโดนศาลรัฐธรรมนูญชี้ พี่ก็มีความเห็นให้แก้ไขมาตรา 112 ได้ เพราะมันเป็นกฎหมายอาญาทั่วไป เคยแก้ไขมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่การนำเสนอของพี่ เป็นการนำเสนอที่มีประโยชน์ทั้งพระมหากษัตริย์ มีประโยชน์ทั้งประชาชน แต่ของก้าวไกลเดิมยกเลิก ต่อมามาเห็นพี่อภิปราย ก็คงจะเข้าใจพี่มากขึ้น ก็เปลี่ยนมาแก้ไข แต่แก้ไขประเด็นมันก็ไม่ใช่อย่างพี่ คนอื่นเขาถึงรับไม่ได้เลย ของพี่ทำไมเขารับได้ เพราะพี่ไม่มีพฤติกรรมอื่นแอบแฝงอยู่ เราบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา แต่นั่นมีพฤติกรรมแอบแฝง เขาถึงกลัวว่าต่อไปจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง"