xs
xsm
sm
md
lg

โดนอีกราย ยูทูปเบอร์สายมโน อ้าง “สนธิ” ยืมเงิน“ทักษิณ” ไม่ได้ คือต้นตอความวุ่นวายของประเทศ เจอกันแน่ที่ศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” เตรียมดำเนินคดียูทูปเบอร์ “NailName” ทำคลิปมั่วข้อมูลอ้างต้นเหตุความวุ่นวายประเทศ มาจาก “สนธิ” ยืมเงิน “ทักษิณ” เพื่อนรัก แล้วทักษิณไม่ให้ จึงปลุกม็อบออกมาต่อสู้ เป็นต้นเหตุความวุ่นวายจนทุกวันนี้ ลั่นเสียแรงเรียนจบวิทยาศาสตร์ ปั้นเรื่องราวเป็นตุเป็นตะยาว 15 นาที ไร้หลักฐานอ้างอิง เจอกันที่ศาลแน่นอน



ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณียูทูปเบอร์สาวรายหนึ่งพูดถึงเรื่องของตนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แบบฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด

“เอาข้อมูลเท็จขึ้นมาหลอกคนดูในยูทูป คนที่เกิดไม่ทัน หรือพูดแบบตรง ๆ ก็คือ เด็กเมื่อวานซืน ยูทูปเบอร์คนนี้ก็เด็กเมื่อวานซืน อายุแค่ 30 ปี ตอนที่ผมสู้กับทักษิณ ผมออกมาประท้วงนั้น เด็กคนนี้อายุแค่ 12 ขวบ พออายุมากขึ้น 30 ปี ดันทะลึ่งหาเรื่องอยากดังเป็นยูทูปเบอร์

“ตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง ไม่เคยผ่านเหตุการณ์ทางการเมือง หรือ เคยผ่านบางเรื่องแล้วก็นึกว่าตัวเองรู้ดี เมื่อไปอ่านข้อมูลนั้น ฟังคอมเมนต์นี้ เสร็จแล้วก็มามโนเป็นคลิปวีดีโอ”


นายสนธิ กล่าวต่อว่า ยูทูปเบอร์คนนี้เป็นผู้หญิง ใช้ชื่อช่องว่า NailName# เป็นช่องสรุปข่าว มีผู้ติดตามอยู่ประมาณ 570,000 กว่าคน คลิปวีดิโอที่พูดถึงตนกับนายทักษิณนั้น อัปโหลดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ตนออกรายการสัปดาห์ที่แล้วไปในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566

“ประเด็นก็คือ คลิปนี้กล่าวถึงผม แล้วใช้คำพาดหัวคลิปว่า #สนธิ VS ทักษิณ ตำนานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงิน จุดเริ่มต้นสงครามเหลืองแดง ความยาว 15 นาที 15 วินาที

“ตั้งแต่วันที่อัปโหลดคลิปขึ้นยูทูป ถึงช่วงเย็นวันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา 4 วันมีผู้เข้าไปชมคลิปแล้วประมาณ 311,000 คน มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นประมาณ 1,400 ความเห็น”


นายสนธิกล่าวว่า ประเด็นต่อมาก็คือ มีข้อมูลอยู่หลายจุดซึ่งไม่รู้ว่า ยูทูปเบอร์หญิงคนนี้ซึ่งเมื่อไปสืบค้นแล้วก็พบว่า มีชื่อเล่นว่า “เนม” ชื่อจริงคือ น.ส.รติศา วิเชียรพิทยา ไปเอามาจากไหน มาเล่าแบบเป็นตุเป็นตะเรื่องตนกับนายทักษิณได้ถึง 15 นาที แบบปั้นน้ำเป็นตัวในหลาย ๆ เรื่อง ที่เห็นได้ชัดคือ

หนึ่ง ประเด็นพาดหัวคลิปว่า “ตำนานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงิน” แล้วใช้รูปผมกับ คุณทักษิณ ... คุณเนมครับ ผมไปยืมเงินคุณทักษิณตั้งแต่สมัยไหน? คุณต้องพิสูจน์ให้ดู ว่าผมยืมเงินคุณทักษิณตอนไหน ผมไม่เคยยืม แล้วตัวคุณเองก็อุตส่าห์แต่งชุดเป็นเสื้อเหลืองแล้วโพกหัวว่า “กู้ชาติ” เพื่อติดแฮชเท็ก หิวแสงมาก อยากโปรโมตช่องตัวเอง คุณทำช่องไม่เป็นไรไม่มีใครว่า แต่ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว คุณอย่าโกหกตอแหล นี่คุณทำช่องยูทูปแล้วพูดถึงผมแบบโกหก ปั้นน้ำเป็นตัว


สอง ผมให้คนถอดคำพูด และเนื้อหาของคลิปทั้งหมดดูแล้วพบประโยคที่ คุณเนม รติศา พูดแล้วนำไปพาดหัวคลิปนี้ดังนี้คือ

“... ทฤษฎีที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่เชื่อ เขาบอกว่า (คุณไปอ้างชาวเน็ตส่วนใหญ่เชื่อ ศาลเขาไม่ฟังคุณหรอก ไปถามทนายคนไหนก็ได้ อ้างคำนี้ไม่มีสิทธิ ไม่หลุดหรอกครับหมิ่นประมาท) คุณสนธิ ทำสื่อแล้วล้มละลายก็เลยมาขอยืมเงินคุณทักษิณ แต่คุณทักษิณน่าจะช่วยจนเหนื่อยแล้ว (คุณทุกษิณไม่เคยช่วยอะไรผมเลย ไม่เคย) ทำอย่างไรก็ล้มอยู่ดี ก็เลยไม่ช่วย คุณสนธิ ก็เลยแค้น แล้วใช้ความที่เป็นสื่อมาสู้กับคุณทักษิณ

“ในวันที่ก้าวไกลประกาศว่าจะส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล แล้วเพื่อไทยบอกว่าจะมีการคุยกับพลังประชารัฐ คุยกับรวมไทยสร้างชาติ มันก็เลยมี Quote หนึ่งที่ถูกแชร์กันเยอะ Quote นั้นก็คือ Quote ที่ว่า "ความวุ่นวายทั้งหมดในประเทศนี้ เริ่มจาก เพื่อนกันขอยืมเงินแล้วไม่ให้" แต่ใดๆ ก็ตาม ทฤษฎีที่ว่าขอยืมเงินแล้วไม่ให้ เราก็ยังไม่เคยเห็นหลักฐานที่เป็นจริงเป็นจังนะ มันก็เหมือนเป็นแค่ข่าวเมาท์มอยในวงการการเมืองเท่านั้นแหล่ะ (อ๋อ แค่เมาท์มอยในวงการเมือง คุณก็เอามาลงแล้วใช่ไหม ถ้าเขาเมาท์มอยเรื่องของคุณในทางเสียๆ หายๆ แล้วบอกว่าเป็นข่าวที่เมาท์มอยในหมู่ยูทูปเบอร์กัน แล้วทำให้คุณเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงโดนประชาชนที่อ่านแล้วฟังแล้วดูถภูกเหยียดหยาม แล้วคนที่ดูถูกเหยียดหยามคุณก็บอกว่าเป็นการเมาท์มอยกันในแวดวงยูทูปเบอร์) อาจจะเป็นข่าวเมาท์มอยที่เป็นตำนานหน่อย เพราะว่าการต่อสู้เหลือง-แดง เป็นจุดกำเนิดของอะไรหลายๆ อย่างในปัจจุบันนี้ แค่นั้น ...”

“คุณเนม รติศา คุณจบคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ภาควิชาจุลชีววิทยา คุณถูกฝึกอบรมมาทางวิทยาศาสตร์ แล้วคุณจู่ ๆ คุณก็ตั้งสมมติฐาน หยิบทฤษฎีมั่วซั่วมา แล้วก็มโน เมาท์มอย เรื่องคนโน้นคนนี้แล้วไปกล่าวหาเขาว่า เขาขอยืมเงินกันแล้วไม่ให้ ก็เลยมาต่อสู้กับเขา


“ผมก็ต้องถามคุณกลับว่า ในฐานะคุณเรียนทางวิทยาศาสตร์คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร? หลักฐานคุณอยู่ตรงไหน? ถ้าคุณอ้างว่าหลักฐานคือ คนเขาเมาท์มอยพูดกันมา ถ้าคุณเอาคำพูดเขาเมาท์มอยแล้วเอามาลง ผมว่าเขาฟ้องคุณตายโหงตายห่าแล้วงานนี้

“นอกจากนี้จู่ ๆ คุณก็พูด และเขียนอ้างว่าผมเคยเป็นเพื่อนรักกับคุณทักษิณ คุณเอาข้อมูลมาจากไหน ว่าผมเป็นเพื่อนรักคุณทักษิณ แหล่งอ้างอิงคุณมีไหม คุณเป็นนักวิทยาศาสตร์ Reference คุณมีไหม Citation มีไหม คุณเป็นนักวิทยาศาสตร์นี่ แสดงให้ดูหน่อย

“แต่เอาล่ะ เมื่อคุณได้แต่พูดฉอด ๆ อยู่คนเดียวในคลิป ไม่ได้ใส่ข้อมูลอ้างอิง ไม่ได้ระบุแหล่งที่มาข้อมูลที่คุณเอามาเล่า ไหน ๆ คุณก็ออกมาพูดถึงผมแล้ว ผมจะขอแหล่งอ้างอิงของคุณด้วย แต่ผมจะไม่ขอคุณตรง ๆ ผมจะขอคุณผ่าน “ศาลสถิตย์ยุติธรรม”

“คุณเจอผมในศาลแน่นอน คุณคงยังไม่เคยโดนฟ้อง คุณมันเด็กเมื่อวานซืน อายุเพิ่ง 30 เอง ทะลึ่งทำยูทูปแล้วเที่ยวเอาข่าวคนโน้นมา ข่าวคนนี้มา ข่าวที่คุณเอามาพูดมันก็ไม่ใช่ข่าวที่คุณทำเอง คุณไปขอข่าวเขามา ดึงข่าวจากอันโน้นจากอันนี้ คุณเสียค่าลิขสิทธิ์หรือยัง คุณขออนุญาตเขาหรือยัง

“นอกจากคุณโกหกพกลมแล้ว สิ่งที่คุณพูดเอาไว้ถึงผม ผมเก็บข้อมูล ผมถอดเทปคำพูดของคุณไว้หมดแล้ว ผมส่งทนายให้ร่างคำฟ้องแล้ว อีกไม่นานหมายศาลคงไปแปะที่หน้าบ้านคุณ ข้อมูลที่อ้างอิงพูดมาก็ แล้วแต่คุณเอามาจากที่ไหน คุณอ้างมาสิ เพราะว่าทนายผมจะซักคุณให้เห็นชัดเจนว่าคุณเอาข้อมูลมาจากไหน เชื่อถือได้หรือไม่ ศาลจะเป็นคนพิจารณา



“คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเรียนจบวิทยาศาสตร์มา อยากเป็นนักวิจัย แต่งานนักวิจัยในประเทศนี้หายาก จึงมาทำงานอยู่บริษัทเกมออนไลน์, จากนั้นทำงานตามบริษัทต่างๆ, เป็นเออี, เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ ไปทำงานอยู่ออสเตรเลีย 7 เดือน ด้วยการเป็นเด็กเสิร์ฟ ทำงานในครัว ทำงานร้านนวด ก่อนจะมาจบที่การเป็นยูทูปเบอร์ เล่าข่าวในยูทูปแล้วเกิดโด่งดังขึ้นมาในช่วงโรคโควิดระบาดนี่เอง”

ประเด็น คือ ตอนปี 2548-2549 ผมประท้วงคุณทักษิณ ก่อตั้งพันธมิตรฯ อยู่ คุณเนมน่าจะเพิ่งเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมต้น น่าจะ ม.1 ไม่ประสีประสาอะไร เรื่องที่เล่าก็น่าจะไปฟังคนโน้นมาคนนี้มา หยิบเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้วมามโน เป็นทฤษฎีของตัวเอง แล้วมาพูดเป็นตุเป็นตะ สุภาษิตเขาเรียกว่า ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด

“ผมไม่รู้ว่าครอบครัวของคุณเนมเป็นอย่างไร ผมก็ฝากไปถึงครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ด้วยแล้วกันว่า พอได้หมายศาลแล้วก็อย่าตกใจ คุณเนม ถ้าคุณริอยากจะก้าวเท้าเข้าสู่แวดวงสื่อมวลชน ซึ่งผมอยู่มาแล้ว ร่วม 50 ปี อยู่ ๆ จะกล่าวถึงผู้อื่น กล่าวหาผู้อื่น โดยไม่เป็นความจริง ไม่มีหลักฐานอ้างอิงนั้น คุณเนมครับ คุณทำไม่ได้หรอก คุณเจอผมในศาลแน่นอน เจอแน่นอน แล้วงานนี้ยาวแน่”
นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น