“สนธิ” เผยตัวตน “ประชัย เลี่ยวไพรัตน์” นักอุตสาหกรรมอัจฉริยะอันดับต้นๆ ของประเทศ ลงทุนอุตสหกรรมอะไรแล้วต้องประสบความสำเร็จ เพราะก่อนทำจะศึกษาอย่างละเอียด เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ทำออกมาคือ “ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอ” ซึ่งไม่ใช่แค่มูลสัตว์ หรือเศษใบไม้ใบหญ้าอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ แต่เป็นปุ๋ยที่มาจากการค้นคว้าวิจัยขบวนการผลิต จนได้คุณภาพไม่แพ้ปุ๋ยเคมีแต่ราคาถูกกว่าและปลอดภัยกว่า
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึง นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ทีพีไอ โพลีน ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดคำต่อคำดังนี้
ท่านผูู้ชมครับ วันนี้ผมขอพูดถึงคนๆ หนึ่ง ท่านผู้ชมอาจจะเคยได้ยินข่าวของคนๆ นี้ คือคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ทีพีไอ โพลีน ทำไมผมต้องพูดถึงคุณประชัย ? เดี๋ยวผมจะเล่าตอนจบให้ฟัง
คุณประชัย เป็นอัจฉริยะ เรียนเก่งมาก จบ University of California ที่ Berkeley คนละที่กับผม ของผมที่ LA ของเขาที่ Berkeley จบทางด้านฟิสิกส์ ในแวดวง วงการ ยอมรับว่าคุณประชัย เป็นคนเก่งมาก และหลายอย่างที่คุณประชัย ทำ คุณประชัย เคยพูด ไม่ได้พูดเล่นนะ เขาพูดจริง เขาบอกว่าโรงไฟฟ้านี่เหรอ (ขอโทษครับ) ผมใช้ตีนทำก็ทำได้ ง่ายๆ ไม่ยากหรอก คุณประชัย บอกว่า ชีวิตเขา ถ้าเขาทำธุรกิจอะไรที่ไม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม เขาเจ๊งทุกอัน แต่ถ้าเขามาจับอุตสาหกรรมแล้ว ไม่มีอุตสาหกรรมไหนที่เขาทำไม่ได้ และไม่มีอุตสาหกรรมไหนที่ไม่ประสบผลสำเร็จ
คุณประชัย ได้พิสูจน์ชัดเจนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์ไกลมาก ตั้งแต่สมัยที่เขามาทำกิจการปิโตรเคมิคัล ท่านผู้ชมอาจจะไม่ทันหรือไม่รู้ ท่านผู้ชมจำบริษัท ไออาร์พีซี ได้ไหม ? ที่ ปตท. ไปยึดเขามา ไออาร์พีซี คือต้นแบบที่คุณประชัย เริ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมิคัลทางต้นน้ำ แล้วก็กระจายมาถึงปลายน้ำ มาเป็นเม็ดพลาสติก เป็นโน่นเป็นนี่ มาจากมันสมองของคุณประชัย
รัฐบาลมีท่าเรือที่แหลมฉบัง คุณประชัย สร้างท่าเรือน้ำลึกที่ระยอง เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ไกลมาก
เผอิญ ปี 2540 วิกฤติต้มยำกุ้ง ทำให้บริษัท ทีพีไอ มีหนี้สินเยอะ ก็เลยเกิดกระบวนการยึดทรัพย์สินของคุณประชัย แล้วหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังนี้ ก็เป็นคุณทักษิณ ชินวัตร เช่นกัน โดยได้รับความร่วมมือจาก ปตท. เพราะคุณประชัย นั้น ถ้าไม่ยึดไออาร์พีซีมา คุณประชัย จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาและจะเป็นอันตรายต่อ ปตท. เพราะว่าวิธีคิดของคุณประชัย กับวิธีคิดและวิธีทำงานของ ปตท. นั้น มันคนละรูปแบบ ว่ากันว่าตอนนี้พนักงานเก่าของไออาร์พีซี ที่เคยอยู่กับคุณประชัย ทำงานคนละแบบกับพนักงาน ปตท. เพราะพนักงาน ปตท. ทำงานแบบข้าราชการประจำ แต่พนักงานเก่าของไออาร์พีซี ของคุณประชัย ทำงานแบบเถ้าแก่ เพราะว่าเถ้าแก่จะสั่งงาน สั่งโน่น สั่งนี่ สั่งนั่น
ผมมีหลานคนหนึ่งซึ่งไปทำงานเป็นที่ปรึกษาของบริษัท ไออาร์พีซี อย่าให้เอ่ยชื่อเลยครับ เขาไม่ชอบให้ผมเอ่ยชื่อเขาสักเท่าไร เขาบอกว่าอาชอบเอ่ยชื่อหนูอยู่เรื่อย อย่าเอ่ยได้ไหม เอาล่ะ เขาเล่าให้ฟังว่า จากการที่เขาได้ไปสัมผัส ในฐานะเป็นที่ปรึกษา เขาเห็นชัดเจนว่าพนักงานไออาร์พีซี ที่เคยอยู่กับคุณประชัย นั้นทำงานดีมาก ตัดสินใจเร็ว เดินหน้าลุยทันทีเลย ไม่มีรีรอ ไม่มีชักช้าเลยแม้แต่นิดเดียว ตรงข้ามกับพนักงานของ ปตท. ซึ่งกลายเป็นข้าราชการประจำ
กระบวนการยึดไออาร์พีซีของคุณประชัยนั้น เป็นกระบวนการทางการเมือง ณ วันนั้น ที่คุณประชัย ทำไออาร์พีซีแล้วขาดสภาพคล่อง เพราะเกิดเหตุการณ์ 2540 คุณประชัย ได้ไปเจรจาทุนจีนมาแล้ว ให้มาปล่อยกู้ให้คุณประชัย เพื่อเอามาเคลียร์หนี้ เพื่อเดินงานต่อ โดยแบ่งหุ้นให้ แต่ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ารัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร นั้น ได้ติดต่อรัฐบาลจีน บอกว่าให้บริษัทการเงินของจีน ที่จะเอาเงินกู้ให้คุณประชัย ให้ถอนตัวออกไป ก็เลยถอยออกไป คุณประชัย ก็เลยต้องสู้คดีในศาล ต่อสู้มาจนในที่สุดแล้วแพ้อำนาจทางการเมือง รัฐบาลคุณทักษิณ ก็ส่ง พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ เข้าไปนั่งไออาร์พีซี คนพวกนี้ทำงานไม่เป็น แต่อาศัยอำนาจทางการเมืองเข้าไป ก็เลยมีเรื่องมีราว เรื่องไปคอร์รัปชันบ้าง ซึ่งผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ว่ามันมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
ทำไมผมต้องเอาเรื่องคุณประชัย มาเล่าให้ฟัง? ที่ผมเล่าเรื่องคุณประชัย ให้ฟังก็เพราะว่า คุณประชัย เป็นมนุษย์อัจฉริยะในเรื่องของการวิจัย ในเรื่องของสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางวิทยาศาสตร์ ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังเพราะว่าผมรู้ว่าเวลาคุณประชัย ศึกษาเรื่องอะไร แกศึกษาอย่างละเอียด อาจารย์ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็สู้ไม่ได้
ที่ผมจะพูดให้ฟังนี้ เดี๋ยวท่านผู้ชมจะหาว่าผมขายของให้คุณประชัย ไม่ใช่ แต่ผมจะเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังของ "ปุ๋ย" ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอ ที่คุณประชัย ทำขึ้นมา แต่ผมจำเป็นต้องเล่าแบ็กกราวนด์ของคุณประชัย ให้ท่านผู้ชมฟังเสียก่อนว่าคนๆ นี้ไม่ใช่คนธรรมดา
คุณประชัย เล่าให้ฟังว่า คนไทยโดนหลอกมาตลอด ยกตัวอย่างเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ แกสนใจ พอแกสนใจเรื่องอะไรแล้ว แกลงไปศึกษาอย่างละเอียด และแกสนใจที่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อต่อต้านปุ๋ยเคมี คุณประชัย บอกว่า คุณรู้ไหมว่า ปุ๋ยอินทรีย์ คุณสนธิ รู้ไหม มีข้อเท็จจริงเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ที่หลายๆ คนยังไม่รู้ และเข้าใจผิด
ปุ๋ยอินทรีย์ นักวิชาการหลายๆ คนเข้าใจผิด ไปอ้างว่านี่คือปุ๋ยคอก ขี้วัว ขี้ควาย เศษใบไม้ใบหญ้า อุจจาระคน อย่างที่คนชาวไร่ชาวนาทั่วไป และข้าราชการบางคน แม้แต่อาจารย์บางคนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ยังเข้าใจผิด ฝังลึกในจิตใจมาตลอด เพราะว่าตกอยู่ภายใต้การครอบงำของพ่อค้าผู้ขายปุ๋ยเคมี และเข้าใจผิดอย่างนี้มาตั้งห้าสิบปีกว่าแล้ว
ความจริงแล้วปุ๋ยคอก มูลสัตว์ อุจจาระ หรือต้นไม้ใบหญ้า คุณประชัย บอกว่าเป็นเพียงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ แต่ไม่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์ ท่านผู้ชมเข้าใจไหมครับ ปุ๋ยคอก มูลสัตว์ อุจจาระ ต้นไม้ใบหญ้า เป็นเพียงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ แต่ไม่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์ จึงไม่มีคุณสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์เลย คุณประชัย ยกตัวอย่างให้ฟังว่า เหมือนหินปูนเป็นวัตถุดิบในการทำปูนซีเมนต์ แต่ไม่ใช่ปูนซีเมนต์ เพราะกระบวนการผลิตของปูนซีเมนต์ ต้องเอาหินมาผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนสูงถึง 1,250 องศาเซลเซียส กว่าจะทำเป็นปูนซีเมนต์ได้
ในทางการเกษตร ชาวไร่ ชาวนา นักวิชาการการเกษตรยังฝังจิตฝังใจว่ามูลสัตว์ ใบไม้ ใบหญ้า เป็นปุ๋ย ทำให้ทุกคนไม่อยากใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพราะเวลาเอาสารอินทรีย์ เช่น ใบไม้ ใบหญ้า ปุ๋ยคอก ขี้ไก่ ขี้หมู ขี้วัว ใส่ต้นไม้ จะไม่ทำให้ต้นไม้เติบโต เพราะมันมี Germination Index หรือ ดัชนีการงอกและเติบโต สารอินทรีย์ต่ำ ส่วนปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำตามหลักการที่ถูกต้อง ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่คุณประชัย ไปศึกษามา คุณประชัย เรียกนักวิชาการมาประชุมร่วมกัน ค้นคว้ากัน
พืชและผลไม้ที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์จริงๆ จะเจริญเติบโต จะมีสารอาหารพร้อมที่จะให้ดูดซึมเข้าไปในลำต้น ทำให้พืชเจริญเติบโตงอกงามได้ดีกว่าปุ๋ยเคมี มิหนำซ้ำราคายังถูกกว่าปุ๋ยเคมี มีประสิทธิผลได้เร็วเท่ากัน และได้ผลดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าในปุ๋ยอินทรีย์มีทั้งธาตุอาหารหลักและอาหารรอง พร้อมจุลธาตุและมีจุลินทรีย์ และฮอร์โมนต่างๆ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของพืช จุลินทรีย์ที่อยู่ในปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำตามกระบวนการที่ถูกต้องนั้น มันจะช่วยย่อยธาตุอาหารในดินให้กลายเป็นธาตุอาหารเพิ่มขึ้น ธาตุอาหาร ฮอร์โมนต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ได้ผลิตผลมากขึ้น ไม่ได้ช่วยให้ดินเสีย นอกจากนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลง นี่คือเคล็ดลับ
ปุ๋ยอินทรีย์ที่คุณประชัย คิดค้นขึ้นมา คุณประชัย คิดค้นขึ้นมาจากความเป็นอัจฉริยะของตัวเอง ถ้าใช้แล้วไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง เพราะว่าแมลงไม่ลง คุณประชัย แนะนำ ใบไม้ ใบหญ้า ปุ๋ยคอก ขี้ไก่ ขี้วัว ขี้หมู ไม่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์ ท่านผู้ชมอย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์ เป็น "สารอินทรีย์" ที่ต้องนำมาเข้ากระบวนการก่อนถึงจะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพไม่แพ้ปุ๋ยเคมี แต่ถูกกว่า ปลอดภัยกว่า ซึ่งคุณประชัย ก็ได้ทำปุ๋ยมา
ท่านผู้ชมอาจจะคิดว่าคุณสนธิ มาโฆษณาขายปุ๋ยให้คุณประชัย ไม่ใช่ จะพูดถึงเรื่องปุ๋ยที่คุณประชัยทำนั้น ต้องเล่าที่มาที่ไปของตัวตนที่แท้จริงของคุณประชัย ว่าแกเป็นคนอย่างไร แกเพี้ยนหรือเปล่า แกอัจฉริยะไหม แกปากพูดจาไม่เข้าหูคน แต่สิ่งที่แกพูดนั้นเป็นความจริงหมด คุณประชัย ก็เลยผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นมา ชื่อ "ปุ๋ยทีพีไอ"
ผมมีบ้านอยู่เชียงราย ผมทำการเกษตร ปลูกข้าว ปลูกพืช ทำไร่ เลี้่ยงควาย มีพ่อบ้านดูแล ล่าสุดก็มาเล่าให้ผมฟังว่า ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผมใช้ ซึ่งคุณประชัย ให้มา ย่อยธาตุอาหารในดินให้กลายเป็นธาตุอาหารเพิ่มขึ้น ได้ผลิตผลมากขึ้น ไม่ทำให้ดินเสีย นอกจากนั้นแล้ว พ่อบ้านผมบอกว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงซึ่งเป็นอันตรายกับร่างกายชาวไร่ ชาวนา ผู้บริโภค
ท่านผู้ชมครับ การที่อธิบายถึงปุ๋ยนี้มาอย่างไร เป็นอย่างไร ต้องอธิบายถึงนิสัยใจคอของคนที่ทำปุ๋ยนี้ด้วย พฤติกรรมของเขา บุคคลิกของเขา ความรู้ความสามารถของเขา และเขาก็เป็นคนที่ทำอะไรที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม เขาไม่เคยพลาด เขาเคยไปทำเหล้าขาย แล้วเขาเจ๊ง แต่เขาทำอุตสาหกรรมอะไรก็ตาม เขาเจริญเติบโตหมดทุกอย่าง และท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ เขาคือต้นแบบในการสร้างอุตสาหกรรมปิโตรเคมิคัล ปตท. วันนี้เจริญเติบโตมาทุกวันนี้เพราะฝีมือของไออาร์พีซี ไม่ใช่ด้วยตัว ปตท. เอง
ท่านผู้ชมครับ นี่ล่ะคือสิ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังครับ