xs
xsm
sm
md
lg

ร่วมมือหลากหลาย ดูแลครบวงจร โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนจับมือกับกระทรวงสาธารณสุข จัดงานเวิร์กช็อปการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระยะยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ซ้ายไปขวา) อรวรรณ์ คูหา นักวิชาการสาธารณสุขชํานาญการ, นายแพทย์เฉินอวิ้นไท่ แผนกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน, นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, นายแพทย์หวังเหวินฝู่ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนสาขาลู่กัง, ดร. นีน่า เกา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ภารกิจทางการแพทย์ต่างประเทศ โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน
วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนร่วมกับกองการพยาบาล และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน “เวิร์กช็อปการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระยะยาว” (Workshop of Dementia Long-term Care for Thai Community Nurses) ขึ้น เน้นการประเมินผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ และการดูแลด้วยการแพทย์อัจฉริยะ เพื่อกระชับความร่วมมือทางการแพทย์ระหว่างไต้หวันและไทย ภายในงานได้เชิญบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวันและไทยมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ซึ่งนอกจากบุคลากรด้านสาธารณสุขจะได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังได้สัมผัสประสบการณ์หน้างานที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระหว่างวัน เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุอีกด้วย 


จากข้อมูลสถิติของธนาคารโลก (World Bank) ในปี 2565 สัดส่วนของประชากรไทยอายุ 65 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 15.2% ซึ่งแตะถึงเกณฑ์สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) แล้ว ทั้งนี้ สหประชาชาติได้คาดการณ์ว่าในปี 2573 สัดส่วนผู้สูงอายุของไทยจะพุ่งสูงถึง 20%และเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super-aged society) ดังนั้น การผลักดันนโยบายการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว นโยบายที่เป็นมิตรและส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างมาก

ในปี 2560 ไต้หวันได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และได้ก่อตั้งระบบดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร โดยไต้หวันได้เล็งเห็นถึงความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญเกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันทางรัฐบาลไทยก็ได้พยายามพัฒนาธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนจึงได้ร่วมกับกองการพยาบาล และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยของพยาบาลในชุมชน และหวังที่จะสามารถนำแพทย์แผนไทยและการนวดแผนไทยเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ ยังหวังให้บุคลากรทางการแพทย์ไต้หวันและไทยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการวางแผนยุทธศาสตร์การดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้ พร้อมช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุในไทย


ในเวิร์กช็อปครั้งนี้ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวันและไทยมาร่วมบรรยาย ได้แก่ นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นผู้บรรยายเปิดงาน แนะนำการประยุกต์ใช้แพทย์แผนไทยและการนวดแผนไทยในการดูแลผู้สูงอายุ นายแพทย์หวังเหวินฝู่ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนสาขาลู่กัง นายแพทย์เฉินอวิ้นไท่ แผนกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน มาแบ่งปันวิธีการใช้เทคโนโลยีการแพทย์อัจฉริยะในการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุระยะแรก และการประยุกต์ใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมแบบใหม่ในไต้หวัน แพทย์หญิงบุษกร โลหารชุน มาแบ่งปันเกี่ยวกับนโยบายสาธารณสุขการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุในไทย และดร.รติอร พรกุณา หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ โรงพยาบาลขอนแก่น มาบรรยายการประยุกต์ใช้วิธีการรักษาและยารูปแบบใหม่ในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในโรงพยาบาลขอนแก่น


เวิร์กช็อปครั้งนี้จัดทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีบุคลากรด้านสาธารณสุขกว่า 100 ท่านเข้าร่วม อาทิ ศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลกรุงเทพ ในเครือBDMS, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลขุนหาญ และโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อช่วยให้ประเทศไทยสามารถเตรียมรับมือการดูแลผู้สูงอายุในอนาคตได้

ยิ่งไปกว่านั้น ในงานเวิร์กช็อปครั้งนี้ นอกจากไต้หวันจะได้แชร์ประสบการณ์ทางการแพทย์แล้ว ยังหวังที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไต้หวันและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านความร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านการแพทย์อัจฉริยะเพื่อการดูแลผู้ป่วยระยะยาวจากไต้หวัน ซึ่งจะสามารถตอบรับความต้องการในส่วนนี้ของประชาชนชาวไทยได้มากขึ้น อีกทั้งยกระดับความสามารถของพยาบาลชุมชน และลดความกดดันในการดูแลได้


กำลังโหลดความคิดเห็น