“หมอโอ้” ลูกชาย ส.ว.ดิเรกฤทธิ์ แจงเหตุพ่อไม่มาโหวตนายกฯ ลั่น "ยืนตรงกลางยากกว่ายืนซ้ายหรือขวามาก"

นพ.ชนุดม ลูกชาย ส.ว.ดิเรกฤทธิ์ แจงสาเหตุพ่อไม่มาโหวตนายกฯ ทั้งที่ออกสื่อบอกจะโหวตพิธา ลั่น "ยืนตรงกลางมันยากกว่ายืนซ้าย หรือยืนขวามากครับ" ล่าสุดพบทัวร์ลงเพจคลินิกเสริมความงามอย่างหนัก

จากกรณีหลังเสร็จสิ้นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรอบแรก วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ผลปรากฏว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้คะแนน 324 เสียง ไม่ถึง 375 เสียง (จากเดิม 376 เสียง แต่ ส.ว.ลาออก 1 คน) ทำให้ไม่ผ่านการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยในรอบแรก และนัดประชุมสภาอีกครั้งวันที่ 19 ก.ค.นี้ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (14 ก.ค.) เฟซบุ๊ก “chanudom janekrongtham” หรือ หมอโอ้ นพ.ชนุดม เจนครองธรรม ลูกชายของ ส.ว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ยืนยันว่าจะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันโหวตจริง นายดิเรกฤทธิ์กลับไม่มา ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “ขอให้ตั้งสติ เพราะผมก็ผิดหวังไม่น้อยกว่าพวกคุณ ประเด็นคุณพ่อไม่เข้าร่วมการโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่มีใครหรอกอยากจะเอาตัวเองออกมาขนาดนี้ แล้วสุดท้ายเรียกทัวร์มาลง 2 เดือนที่ผ่านมา คุณพ่อออกสื่อและให้สัมภาษณ์แทบทุกวัน ตอบคําถามข้อสงสัยทุกคําถาม และมีแนวทางที่ประนีประนอมเพื่อช่วยให้การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ผ่านไปได้ด้วยดี จุดยืนของคุณพ่อชัดเจนเสมอ บันได 3 ขั้นที่ท่านวางไว้

1. ต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
2. ต้องไม่ติดคดีหรือมีคุณลักษณะต้องห้าม
3. ต้องมีความสามารถในการขับเคลื่อนนโยบายในการนําพาประเทศได้

ข้อแรก ผ่าน ประเด็นคือข้อที่ 2 ที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสื่อ ตั้งแต่เมื่อวาน ถึงเมื่อเช้าก่อนประชุมสภา ให้เลื่อนวาระนี้ เพราะคําพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งไม่เป็นธรรมถ้าสภาจะมีวาระโหวตในวันนี้

1. ไม่เป็นธรรมต่อคุณพิธา เพราะคนที่จะโหวตให้เขาก็อาจจะไม่โหวต หรืองดออกเสียง เนื่องจากคุณสมบัติยังไม่ชัดเจน
2. ไม่เป็นธรรมต่อสมาชิกรัฐสภาที่จะทําการโหวต เนื่องจากอาจโดนข้อหารู้อยู่แล้วว่า ขาดคุณสมบัติ แล้วยังโหวต 
3. ไม่เป็นธรรมต่อชาติบ้านเมือง สมมติโหวตผ่าน คุณพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมีคําพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญทีหลัง ต้องถอดถอนออกจากตําแหน่งนายกฯ บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ แล้วเสียหายขนาดไหนทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่คุณพ่อยืนยันยืนกรานว่าควรที่จะเลื่อนวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป ซึ่งได้พยายามเสนอผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงในที่ประชุมวุฒิสมาชิก แต่ไม่มีคนเห็นด้วย

ก็จะมีคําถามว่า ก็บันได 3 ขั้นของท่าน ศาลยังไม่ตัดสิน ก็ต้องไม่กลืนน้ำลายตัวเอง ข้อ 2 ถือว่าผ่าน ก็ต้องโหวตไหม? ผมก็จะขอให้กลับไปอ่านเหตุผลข้อที่ 3 มันจะเสียหายต่อประเทศ ถ้าแต่งตั้งนายกฯ แล้วไปสอยทีหลัง และคุณพ่อก็ไม่ได้โหวตเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง แต่เป็นการเสนอให้เลื่อนวาระแทน จึงเลือกขอไม่ลงความเห็นเลย อันนี้อาจจะผิดหรือไม่ก็พร้อมรับคําวิจารณ์ แล้วถ้าถามว่าเรื่องขอเลื่อนประชุมสภาทําไมบอกแต่สื่อ แต่ไม่อภิปรายในที่ประชุม ก็จะขอบอกโควตจากคําพูดของท่าน "ขอเข้าคิวแล้ว ประเด็นพ่อไม่ใช่ประเด็นสนับสนุนหรือค้านการเป็นนายกฯ และเขาถามว่าทําไมไม่ให้ฝ่ายที่จะเสียหายยกขึ้นมา พ่อเลยไม่ได้เวลา"

อย่าลืมความจริงที่ว่า "โหวตไม่ผ่านแล้ว โหวตใหม่ได้นะครับ ทุกอย่างไม่ได้จบวันนี้" ตราบใดที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชี้ชัด ให้ความเป็นธรรมกับคุณพิธา ให้ความชอบธรรมของการโหวตแก่สมาชิกรัฐสภา วันนั้นก็ค่อยโหวตได้นี่ครับ

ข้อสังเกตยังมี ส.ว.อีกหลายท่านที่งดออกเสียง นั่นอาจแปลว่า รอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนอีกเยอะนะครับ เป็นนายกฯ ที่ไม่มีมลทิน เข้ารับตําแหน่ง กองเชียร์ฉลองได้อย่างสง่างาม จะดีกว่าไหมครับ

สิ่งที่คุณพ่อทํา อาจจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และที่มายืนตรงนี้ ก็ต้องพร้อมรับคําวิจารณ์อยู่แล้ว วิจารณ์ได้ถูกผิดว่ากันครับ แต่ขอให้เคารพกัน ไม่มีใครไม่หวังดีกับประเทศ ไม่มีใครอยากให้ทัวร์ลงหรอกครับ เพราะยืนตรงกลางมันยากกว่ายืนซ้าย หรือยืนขวามากครับ และทุกการกระทํามีเหตุผลอธิบายได้ เพราะถ้าทําไปอย่างไร้เหตุผล ผมคนหนึ่งที่จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นครับ ลองคิดในมุมเลวร้ายนะครับ มันง่ายมากที่จะโหวตคุณพิธา ทัวร์ก็ไม่ลง ไม่มีคนมาด่า แถมโหวตไปยังไงก็ไม่ถึง 376 เสียงอยู่ดี แต่ท่านเลือกทางนี้เพราะท่านมีเหตุผลจริงๆ และยอมโดนด่า (ซึ่งรู้อยู่แล้วคาดเดาไม่ยากเลยครับ)

เวลาที่ยากลําบากนี้ กับสิ่งที่พ่อทํามาตลอด ใครไม่เห็นแต่ลูกเห็น วันนี้อาจจะไม่ใช่วันที่ดี แต่ลูกๆ และครอบครัวจะเป็นกําลังใจให้เสมอ ขอบคุณที่อ่านจนจบ นะครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่หวังดีและเข้าใจนะครับ”