xs
xsm
sm
md
lg

ธ.เกียรตินาคินภัทรแจ้งเปลี่ยนวงเงินฝากบัญชี Dime! Save 3% เหลือเพดานไม่เกิน 1 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารเกียรตินาคินภัทรแจ้งลูกค้าบัญชี Dime! Save เปลี่ยนแปลงวงเงินฝากและอัตราดอกเบี้ย จากเดิมไม่เกิน 30,000 บาท ได้ 3% เหลือไม่เกิน 10,000 บาท ได้ 3% มีผล 8 ส.ค.เป็นต้นไป

วันนี้ (6 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ได้ส่งอีเมลแจ้งไปยังลูกค้าบัญชี Dime! Save ซึ่งเปิดไว้กับแอปพลิเคชัน Dime! ระบุว่า ธนาคารขอแจ้งเปลี่ยนแปลงวงเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป

โดยพบว่าจากเดิมวงเงินฝากส่วนที่ไม่เกิน 30,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี ลดเหลือส่วนที่ไม่เกิน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี ส่วนวงเงินฝากส่วนที่เกิน 10,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี และวงเงินฝากส่วนที่เกิน 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี


รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ปัจจุบันบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Savings) มีให้บริการหลายธนาคาร ส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี แต่ก็มีบางธนาคารที่ให้มากกว่า แต่จำกัดวงเงินฝากสูงสุด และมีเงื่อนไขในการใช้บริการ บางธนาคารคิดดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได ตามจำนวนยอดเงินฝากแต่ละขั้น

สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงรองลงมา ได้แก่ บัญชี KKP Start Saving ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ซึ่งเปิดไว้กับแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet วงเงินฝาก 1 ถึง 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี แต่ต้องไม่ให้เงินฝากเกิน 50,000 บาท ไม่เช่นนั้นดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 1.55% ต่อปีตั้งแต่บาทแรก

ส่วนบัญชี ttb ME save ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ซึ่งเปิดไว้กับแอปพลิเคชัน ttb touch วงเงินฝาก 1 ถึง 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี แต่มีดอกเบี้ยโบนัสเพิ่มเป็น 2.00% ต่อปี เมื่อมียอดฝากมากกว่าถอนในแต่ละเดือน จึงพบว่ามีลูกค้าบางรายที่เก็บเงินไว้ในบัญชีดังกล่าวและไม่ได้ถอนออก มักจะโอนเงินเข้าบัญชีครั้งละ 1 บาทเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยโบนัส

อนึ่ง สำหรับการฝากเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างกับบัญชีเงินฝากแบบปกติ คือ จะไม่มีสมุดคู่ฝาก แต่จะมีข้อมูลบัญชีอยู่ในแอปพลิเคชัน มีไว้ใช้หลายวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อใช้สร้างวินัยการออม ใช้แบ่งบัญชีตามความต้องการใช้เงินระยะสั้น กลาง ยาว หรือการนำเงินจำนวนหนึ่งไปพักไว้เพื่อรอนำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น นำไปลงทุน

สำหรับดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ว่าจะจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือแบบดิจิทัล หากรวมกันทุกบัญชีแล้วเกิน 20,000 บาทต่อปีจะหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 15 ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
กำลังโหลดความคิดเห็น