เฟซบุ๊กส่วนตัวของแฟนสาว "สิริน สงวนสิน" ส.ส.ก้าวไกล ไม่ติดใจเอาความคดีทำร้ายร่างกาย ระบุวันเกิดเหตุแค่แย่งมือถือในรถจนกระแทกหน้า เผลอล้มข้างรถจนเกิดแผล เจ้าตัวและครอบครัวอ้างไม่ได้ตั้งใจ สำนึกผิดและขออภัยแล้ว แต่ที่แจ้งความเพื่อให้สำนึก หวังได้รับบทเรียนใช้อารมณ์เหนือเหตุผล สังคมไม่ยอมรับ
วันนี้ (3 ก.ค.) จากกรณีที่หญิงรายหนึ่งวัย 26 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ เหมือนพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้ดำเนินคดีต่อนายสิริน สงวนสิน อายุ 27 ปี ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ และทำให้เสียทรัพย์ หลังก่อเหตุต่อยใบหน้า ดึงศีรษะลากลงจากรถ แย่งโทรศัพท์มือถือโยนทิ้งข้างถนนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบนถนนสาย 331 พนมสารคาม-สัตหีบ หมู่ 3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. หลังจากไปรับที่สนามกอล์ฟพัฒนาสปอร์ตคลับ โดยหญิงคนดังกล่าวได้คบหาเป็นแฟนมา 1 เดือนเศษ
หลังเป็นข่าวสะพัดโลกโซเชียลฯ นายสิรินโพสต์ข้อความขออภัย เสียใจที่ได้ทำลงไป จากนี้ยินดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และการสอบสวนวินัยจากพรรคก้าวไกล พร้อมน้อมรับผลที่ตามมาจากการกระทำที่ปราศจากความยั้งคิด ขอแสดงความสำนึกผิดและขออภัยต่อผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ตำรวจ สภ.บ่อวินได้เรียกตัวนายสิรินพร้อมผู้เสียหายมาที่โรงพักเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ไม่พบทั้งสองฝ่าย ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยพรรค เตรียมนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะกรรมการวินัยฯ พร้อมให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
ล่าสุดเฟซบุ๊กส่วนตัวของแฟนสาวนายสิริน ผู้เสียหาย โพสต์ข้อความหัวข้อ "ข้อเท็จจริงกรณีระหว่างดิฉันและคุณสิริน สงวนสิน ส.ส.พรรคก้าวไกล" ระบุว่า "ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างดิฉันและคุณสิริน สงวนสิน ส.ส.พรรคก้าวไกล กลายเป็นข่าวที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา และถูกนำเสนอไปในหลายทิศทาง โดยเฉพาะการนำเสนอของสื่อหลายช่องที่นำเสนอข่าวเกินจริง มีข้อมูลบางประการไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อตัวดิฉันเป็นอย่างมากและขัดต่อสิ่งที่ดิฉันต้องการจากการตัดสินใจแจ้งความต่อคุณสิริน
ก่อนอื่นดิฉันขอชี้แจงข้อเท็จจริงในวันเกิดเหตุ ในวันนั้นเรามีปากเสียงกันและเกิดการยื้อแย่งโทรศัพท์กันในรถ คุณสิรินใช้กำลังยื้อแย่งโทรศัพท์จากดิฉัน จนทำให้โทรศัพท์มากระแทกหน้าดิฉันอย่างแรง ภายหลังที่มีการพูดคุย ทำให้ทราบว่าเป็นการกระทำโดยมิได้ตั้งใจ และยังมีเหตุการณ์ยื้อฉุดกันบริเวณข้างรถ ทำให้ดิฉันเผลอล้มกระแทกลงจนเป็นเหตุให้เกิดบาดแผล อีกทั้งคุณสิรินยังใช้คำพูดและอารมณ์ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันจึงตัดสินใจไปแจ้งความเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง และต้องการให้คุณสิรินได้สำนึกว่าตนเองทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
หลังจากดิฉันไปแจ้งความ คุณสิรินและครอบครัวได้ติดต่อมายังดิฉัน และคุณสิรินกับครอบครัวได้แสดงความสำนึกผิด อีกทั้งตระหนักว่าตนเองกระทำผิดต่อดิฉัน และได้ขออภัยดิฉันอย่างจริงใจแล้ว ทำให้ดิฉันและครอบครัวไม่ติดใจเอาความต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ดิฉันต้องการได้บรรลุผลแล้ว นั่นคือให้บทเรียนกับคุณสิริน และทำให้เขาตระหนักว่าต้องไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้กับดิฉันหรือบุคคลใดๆ อีก
ดิฉันขอแจ้งให้ทราบตรงนี้ว่า ดิฉันไม่ติดใจเอาความคุณสิริน และหวังว่าบทเรียนที่เขาได้จากสังคม จากการถูกแจ้งความ รวมถึงบทลงโทษที่เขากำลังจะได้รับจากพรรคก้าวไกล จะเพียงพอทำให้คุณสิริน และนักการเมืองทุกคนตระหนักว่าการใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ไม่ว่าต่อเพศใด โดยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม เป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ และผู้กระทำผิดจะต้องได้รับผลจากการกระทำนั้นค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ"