“สนธิ” วิเคราะห์กบฏรัสเซีย จบง่ายภายใน 48 ชม.จนค่ายตะวันตกพากันงงเป็นไก่ตาแตก ชี้เป็นแผนลับลวงพราง เคลื่อนย้ายกองกำลังแวกเนอร์ไปประจำการตามพรมแดนเบลารุสกับประเทศต่างๆ ที่ซ่ากับรัสเซีย ทั้งโปแลนด์ ลิธัวเนีย ลัตเวีย ซ้ำอยู่ห่างกรุงเคียฟแค่ 100 กม.พร้อมบุกยึดได้ทุกเมื่อ จนนาโตประสาทกิน นั่งไม่ติด
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้วิเคราะห์ถึงเบื้องหลังการก่อกบฏต่อกองทัพรัสเซียโดยกลุ่มทหารรับจ้าง “แวกเนอร์” เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนายเยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลของตัวเองประมาณ 8,000 คน ไปยังเมืองทางใต้ของรัสเซีย ชื่อรอสตอฟ ออนดอน และประกาศว่าจะบุกเข้าไปที่มอสโกเพื่อไปจัดการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีข่าวออกมาก่อนหน้านั้นว่าขัดแย้งกันอย่างหนัก
เป็นที่น่าสนใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่โด่งดังมาก สื่อมวลชนตะวันตกกระโดดตัวยาว รวมทั้งผู้นำของทางตะวันตก นาโต อเมริกา อังกฤษ โปแลนด์ คิดว่าคราวนี้ยูเครนต้องชนะแน่นอน เพราะว่ามีการแตกร้าวภายในรัสเซีย ถึงขั้นพูดว่า นายปูตินจะอยู่ไม่ได้ คงจะหนีออกไปนอกประเทศอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เรื่องเกิดวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พอวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน ทุกอย่างจบนายพริโกซิน ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ แล้วประธานาธิบดีของเบลารุส คือ นายอาเลียกซันดร์ ลูกาแชนกา ก็ประกาศออกมาว่ารู้จักนายพริโกซิน ประมาณ 20 ปีแล้ว ร้องขอต่อนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดี ขอให้นายพริโกซินลี้ภัยมาที่เบลารุสได้ไหม ปูติน ก็โอเค ที่สำคัญที่สุดคือ ยกเลิกข้อหากบฏให้ด้วย ไม่มีข้อหาในเรื่องกบฏแล้ว
ประเด็นมีอยู่ 2-3 จุดที่น่าจะพูดถึง ประเด็นแรกก็คือ เรื่องนี้เป็นลับลวงพรางหรือไม่
จากวันก่อการกบฏ วันที่ 23 มิถุนายน และก้าวเข้าสู่สงครามบริบทใหม่ ปฏิกิริยาของโลกทางตะวันตกจากการเลี้ยงฉลองดื่มแชมเปญ กลายเป็นประสาทรับประทาน เลขาธิการนาโตถึงกับตัวสั่นงันงก ย้ายกำลังกันเละเทะไปหมด
ทำความรู้จักกองกำลัง “แวกเนอร์”
กองกำลังแวกเนอร์ เป็นทหารรับจ้าง ก่อตั้งขึ้นมาสิบกว่าปีแล้ว อเมริกา อังกฤษก็เคยมีทหารรับจ้าง ในทศวรรษที่ 1990 หลังสหภาพโซเวียตล่ม ยุคต่อต้านผู้ก่อการร้าย เหตุโศกนาฏกรรม 9/11 (11 กันยายน 2544) อเมริกาก็มีกองกำลังลับของตัวเอง ชื่อ BLACK WATER มี Executive Outcome บริษัทของแอฟริกาใต้ Sandline International ของอังกฤษ
ทหารรับจ้างที่เรียกกันว่า Mercenary นั้น เป็นเรื่องที่มีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว เป็นร้อยเป็นพันปี ประเทศไทยในอดีตสมัยอยุธยาก็มีทหารรับจ้างโปรตุเกส เราเคยจ้างทหารโปรตุเกสมาต่อสู้ นำปืนใหญ่ ยุทธวิธีการสงคราม เข้ามาสู่อยุธยาในครั้งแรก ไม่ใช่เรื่องใหม่
ไม่กี่สิบปีก่อนโลกยังตกอยู่ในยุคสงครามเย็นระหว่างอเมริกา และสหภาพโซเวียต มีบริษัทเอกชนที่ประกอบกิจการด้านทหารรับจ้าง รับจัดหาทหารรับจ้าง เข้าปฏิบัติการภารกิจทั่วโลก มีการแยกแยะความแตกต่างระหว่างทหารรับจ้าง ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Mercenary กับ PMC (Private Military Company)
ทหารรับจ้างทั้งสองประเภทนี้เป็นธุรกิจที่ทำงานเกี่ยวกับการทหารเหมือนกัน เพียงแต่ขอบเขตการทำงานและการเปิดเผยนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
PMC ของพริโกซิน ทำงานอยู่ภายใต้การรับรองของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการจัดจ้างในลักษณะบริษัทถูกรับรองโดยประเทศที่เป็นเจ้าของบริษัท บางบริษัทรับเฉพาะด้านงานอารักขา ที่ปรึกษา บางบริษัทก็รับในเรื่องการจัดตั้งกองกำลังทหาร
ส่วน Mercenary นั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การรับรองของประเทศ แต่เป็นการจัดจ้างในระดับบริษัทกับประเทศว่าจ้าง เขารับคนที่เป็นอดีตทหาร นักเลงข้างถนน มาเฟียหนีคดี แม้กระทั่งการเข้าไปจัดหาในประเทศที่มีข้อพิพาท บางเจ้าจัดกำลังแบบกองพลได้เลย
สรุปแล้ว ประเภทกิจการ PMC ของนายพริโกซิน นั้น คือบริษัททหารรับจ้างที่จดทะเบียนถูกต้อง เสียภาษีถูกต้อง ทำงานโดยความเห็นชอบของประเทศเจ้าของ แต่ Mercenary เป็นมือปืนรับจ้าง ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน ไม่จำเป็นต้องเสียภาษี ทำงานโดยไม่ผ่านความเห็นของประเทศใดๆ นอกจากประเทศผู้ว่าจ้าง
แวกเนอร์ ของนายพริโกซิน จัดว่าเป็น PMC คือเป็นบริษัททหารรับจ้าง จดทะเบียนถูกต้อง เสียภาษีถูกต้อง ทำงานโดยความเห็นชอบของประเทศเจ้าของ แต่กฎหมายประเทศรัสเซียนั้นไม่อนุญาตให้มีทหารรับจ้าง จึงต้องไปตั้งสำนักงานใหญ่นอกประเทศรัสเซีย โดยมีสาขาอยู่ในรัสเซีย ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
แวกเนอร์กรุ๊ป มีเจ้าหน้าที่ของรัสเซียเก่า กองกำลังพิเศษ GRU เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย หน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย คล้ายๆ CIA เป็นผู้บังคับบัญชา
ทั้่งหมดนี้เป็นงานที่รัสเซียจ้างทหารรับจ้าง ไปใช้งานนอกประเทศรัสเซีย ส่งแวกเนอร์กรุ๊ปไปปฏิบัติการในซีเรีย เพื่อสนับสนุนกองกำลังของประธานาธิบดีบาซาร์ อัล อัสซาด ซึ่งรัสเซียหนุนหลังอยู่ คุ้มกันบ่อน้ำมันต่างๆ
ลิเบีย แวกเนอร์กรุ๊ป เคลื่อนไหวในลิเบียตั้งแต่ปี 2559 สนับสนุนกองกำลังที่ภักดีต่อ พล.อ.คาลีฟา ฮาฟาตาร์ มีทหารรับจ้างของแวกเนอร์อยู่ 1,000 คน ในการบุกรัฐบาลที่กรุงตริโปลี
แอฟริกากลาง เชิญกลุ่มแวกเนอร์เข้าไปคุ้มกันเหมืองเพชรหลายแห่ง แล้วก็ไปคุ้มกันเหมืองทองในซูดานด้วย
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า กลุ่มแวกเนอร์ของนายพริโกซิน ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันให้กับบริษัทเหมืองหลายแห่ง เช่น เอ็มอินเวสต์ ลาโบเยอินเวสต์
ประเทศมาลี แอฟริกาตะวันตก เชิญกลุ่มแวกเนอร์เข้าไปรักษาความปลอดภัยจากกลุ่มติดอาวุธอิสลามต่างๆ
คิริล มิโคฮอฟ คนของแวกเนอร์กรุ๊ป ยืนยันด้วยว่า นักรบเงามีศักยภาพในการรบที่เหนือชั้นกว่ากองทัพเอกชน หรือนักรบรับจ้างของประเทศตะวันตกหลายต่อหลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BLACK WATER ของอเมริกา
“พริโกชิน”จากคนขายฮอตด็อก สู่มหาเศรษฐีคนสนิทปูติน และกบฎรัสเซีย
นายพริโกซิน เป็นคนเชื้อสายยิว อาชีพดั้งเดิมขายฮอตดอก แล้วต่อมาก็มาทำงานการจัดเลี้ยง (Catering) งานจัดเลี้ยงที่เครมลินทุกเจ้า นายพริโกซิน เป็นคนจัดหมด อาหารการกิน เขาเลี้ยงประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เขาเลี้ยงผู้นำประเทศต่างๆ จนต่อมากลายเป็นเพื่อนสนิทของวลาดิมีร์ ปูติน
วลาดิมีร์ ปูติน ไม่สามารถจะส่งกองทัพรัสเซียออกไปต่อสู้ให้กับหลายๆ ประเทศได้ ก็เลยจัดงบประมาณเพื่อจ้างบริษัทแวกเนอร์ ซึ่งนายพริโกซิน ตั้งขึ้นมา พวกนี้ก็คือทหารรับจ้างของรัสเซียนั่นเอง
ในสงครามยูเครนนั้น กองกำลังของแวกเนอร์เจริญเติบโตมาก มีถึง 50,000-60,000 หรือ 70,000 คน การกบฏในครั้งนั้น นายพริโกซิน พาทหารไป 8,000 คน จากจำนวนทั้งหมด 25,000 คน แล้วภายใน 24 ชั่วโมง เกิดขึ้นวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 จบสิ้นลงวันเสาร์ที่ 24 เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
หลังจากนั้น นายพริโกซิน นั่งเครื่องบินไปลงที่เมืองมินสก์ ประเทศเบลารุส ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่รัสเซียก็ยกลิกข้อหากบฏทิ้งไปเลย ก็คือยังเป็นเพื่อนกันอยู่
ประเด็นอยู่ที่ไหน? พอเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 23 สื่อตะวันตกกระดี๊กระด๊า ประโคมข่าวกันใหญ่โตว่ามีการรัฐประหารรัสเซีย เป็นการเปลี่ยนแปลงการเมืองครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี ปูตินจบแล้ว ระบอบเผด็จการจบ
ข้อมูลข่าวสารพวกนี้มันเป็นจิ๊กซอว์ของสงครามข้อมูลข่าวสารที่ตะวันตกจงใจปั่น ไม่เว้น ไม่ว่าจะเป็น CNN. CNBC, BBC, Washington Post, New York Times และสื่อตะวันตกอีกหลายต่อหลายแห่ง ซึ่งสื่อตะวันตกพวกนี้ก็คือบรรดาสื่อมวลชนหลัก ทีวีช่องหลัก รวมทั้งนักวิเคราะห์หลัก ไม่ว่าจะเป็น สุทธิชัย หยุ่น หรือใครก็ตาม ลอกเลียนข่าวของตะวันตกมาหมด
พอตะวันตกบอกว่า ปูติน จบสิ้นแล้ว ปูติน หนีไปแล้ว เพจ Drama-Addict บอกว่า ปูติน ขึ้นเครื่องบินหนีไป คือเอาข่าวมาจากหนังสือพิมพ์ Daily Mail ตัวเองไม่มีปัญญาที่จะวิเคราะห์ข่าวที่แท้จริง น่าเห็นใจ เพราะในหลายรอบเดือนที่ผ่านมา รัสเซียถล่มยูเครนจนกระทั่งกลุ่มพวกที่โปรตะวันตกพากันพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
แม้กระทั่งสุทธิชัย หยุ่น พอเห็นข่าวเรื่องนี้ก็เนื้อเต้น ไม่หลับไม่นอน ทวีตแชร์ข้อมูลจากฝรั่งผ่านโซเชียลมีเดียแบบไม่หยุดไม่หย่อน ไปกระตุ้นต่อมเกลียดรัสเซีย โปรฝั่งตะวันตกของอินฟลูเอนเซอร์อีกจำนวนไม่น้อยให้เฮโลตามไปมโนถึงขั้นว่า ปูติน กำลังจะถูกเช็กบิล ประเทศรัสเซียล่มสลาย แตกออกเป็นเสี่ยงๆ อเมริกา ยูเครน เซเลนสกี ก็ได้รับชัยชนะแล้ว
ลองดูก็แล้วกัน The Sun หนังสือพิมพ์อังกฤษ พาดหัวข่าวว่า Putin at the Brink ใกล้จบแล้ว New York Post ก็เล่นงานไป Washington Post, New York Times, Wall Street Journal, Reuters, AP (Associate Press)
“สมัยหนุ่มๆ ผมทำงานข่าวอยู่ที่อเมริกา กลับมาทำหนังสือพิมพ์ที่เมืองไทย หนังสือพิมพ์สื่อตะวันตกพวกนี้ผมถือว่าเป็นต้นแบบสื่อสารมวลชน แต่มาวันนี้ไม่ใช่แล้ว เป็นเครื่องมือรับใช้โลกขั้วเดียวของตะวันตก ก็คืออเมริกา และอียู ทุกวันนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด สิ่งที่เคยได้รับความน่าเชื่อถือ น่ายกย่อง กลายเป็นเครื่องมือของตะวันตก ของนายทุน และกระบวนการปฏิบัติสงครามพันทาง รับใช้มาทุกเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดโควิด เรื่องวัคซีน สงครามในยูเครน การทำลายความน่าเชื่อถือของรัสเซีย และจีน แทรกแซงการเมืองในประเทศต่างๆ ประเด็นจีน ไต้หวัน อินเดีย รวมไปถึงเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของคนไทยด้วย” นายสนธิ กล่าว
เหตุการณ์การก่อกบฏของนายพริโกซิน คนใกล้ชิดปูติน สิ้นสุดลงภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ทางตะวันตกกำลังลิงโลด รินแชมเปญกัน ปรากฏว่า 48 ชั่วโมงจบแล้ว นายพริโกซิน ลงเครื่องบินที่เบลารุส เมืองมินสก์ แล้วข้อหากบฏก็ถูกยกเลิกไป ทุกอย่างกลายเป็นความงุนงงในช่วงท้าย แล้วบทสรุปนี้จบอย่างรวดเร็ว จนพูดได้ว่าเป็นการปฏิวัติรัฐประหาร การกบฏที่สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์โลกก็ว่าได้ บรรดาพิธีกร อินฟลูเอนเซอร์ที่โปรตะวันตกของประเทศไทย ไปไม่ถูก ออกทะเลไป หาฝั่งกลับไม่ได้แล้ว
ลับ ลวง พราง กบฏแวกเนอร์
จากวันศุกร์ที่ผ่านมา วันศุกร์ที่ 23 ถึงวันศุกร์นี้ (30 มิ.ย.) บรรดาสื่อตะวันตกยังคงตั้งข้อสังเกตถึงความลึกลับซับซ้อน ความขัดแย้ง ระหว่างกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ กับกองทัพรัสเซีย ว่า เป็นการทะเลาะกันภายในจริงๆ เป็นความขัดแย้งรุนแรงขั้นก่อกบฏจริงๆ หรือว่าเป็นเพียงละครฉากหนึ่งระหว่าง ปูติน กับ พริโกซิน ที่มีวัตถุประสงค์บางอย่าง
ในขณะเดียวกัน สื่อตะวันตกก็ตั้งข้อสงสัยว่า รายละเอียดการเจรจาระหว่างลูกาแชนกา ผู้นำเบลารุส กับนายพริโกซินนั้น เงื่อนไขใดที่ทำให้หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ยอมหยุดความเคลื่อนไหว ท่ามกลางสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังดำรงอยู่
ถ้าเราสังเกตเข่าวให้ดีๆ จะเห็นได้ว่า นายพริโกซิน นำกองกำลังทหารแวกเนอร์ 8,000 คน เข้าไปที่เมืองรอสตอฟ ใน 8,000 คนนั้นคือส่วนแรก
กองกำลังแวกเนอร์นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่สองสลายตัวไปแล้ว สลายไปอย่างไร ? สลายไปเงียบๆ ลับๆ ไปประจำการในประเทศที่ยังมีภารกิจของกลุ่มแวกเนอร์อยู่
กองกำลังที่สามคือกองกำลังที่ติดตามนายพริโกซิน ไปประจำการอยู่ที่เบลารุสแล้ว ไปอย่างเงียบๆ เบลารุส มีพรมแดนติดกับยูเครน รัสเซีย โปแลนด์ ลิทัวเนีย และ ลัตเวีย
ที่น่าสนใจ ประเทศเบลารุส ที่นายพริโกซิน เข้ามาอยู่ ตอนนี้มีกองกำลังแวกเนอร์ มีการสร้างค่ายทหาร เอากองกำลังแวกเนอร์มาตั้งตรงพรมแดนยูเครน ห่างกรุงเคียฟ แค่ 100 กิโลเมตรใช้รถถังวิ่งไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว
โปแลนด์ ลิทัวเนีย และ ลัตเวีย จู่ๆ ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเจอกองกำลังแวกเนอร์อยู่ชายแดนหมดแล้ว พูดง่ายๆ ว่ากองกำลังแวกเนอร์สามารถจะบุกเข้าไปในโปแลนด์ได้ หรือบุกเข้าไปที่เคียฟได้ โดยรัสเซียตีขึ้นไปจากอีกทาง และยึดเคียฟในที่สุด
ทั้งนี้ นายพริโกซิน เมื่อย้ายไปอยู่ที่เบลารุส ตามคำเชิญของประธานาธิบดีลูกาแชนกา ก็ประกาศรับคนที่เป็นกองกำลังแวกเนอร์เพิ่มเติมในเบลารุส โดยที่เบลารุสไม่รู้ไม่ชี้่ บอกว่านี่เป็นกองกำลังส่วนตัว ทหารเบลารุสไม่เกี่ยวข้อง คุณจะโจมตีก็เรื่องของคุณ
มิหนำซ้ำแล้ว รัสเซียส่งอาวุธหนักเข้าไปในเบลารุสเยอะไปหมด เอาไปให้ใคร ? ให้กองกำลังแวกเนอร์
ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น รัสเซียได้ไปตั้งขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์ที่เบลารุสแล้ว ตั้งอยู่แถวพรมแดนลิทัวเนีย และโปแลนด์ ขีปนาวุธนิวเคลียร์ ด้วยจรวดนำวิถีที่เร็วกว่าเสียง ไฮเปอร์โซนิค ชื่อ Kinzhal ที่ใช้ยิงยูเครน และเป็นขีปนาวุธที่ทางตะวันตกและนาโตกลัวที่สุด
เนื่องจากกองกำลังนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศไหน แล้วฐานที่ตั้งขีปนาวุธที่ตั้งอยู่ใกล้พรอมแดน วันดีคืนดีกองกำลังแวกเนอร์เข้าไปยึด แน่นอนที่สุด รัสเซีย และเบลารุสใช้ แต่ปัดความรับผิดชอบ เหมือนที่โปแลนด์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย ใช้พื้นที่ประเทศตัวเองเป็นพรมแดนเพื่อส่งอาวุธเข้าไปที่ยูเครนเพื่อสู้กับรัสเซีย แล้วพวกนี้ก็อ้างว่าไม่ได้ส่งไปนะ แค่ให้อาวุธผ่านแดนไปเฉยๆ
เรื่องของเรื่องก็คือว่า รัสเซียเอาคืนแล้วคราวนี้ พูดง่ายๆ ว่า กำลังสร้างเรื่องทะเลาะกับพริโกซิน แล้วก็ให้พริโกซิน เพราะจู่ๆ จะย้ายทหารแวกเนอร์ไปหลายพันคน หรือใกล้ๆ หมื่นคน จากที่เคยรบอยู่ในยูเครน แล้วย้ายเข้าไปที่เบลารุส มันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลถ้าไม่มีเรื่องเกิดขึ้น ตอนนี้ก็เลยสร้างเรื่องว่าทะเลาะกัน เมื่อทะเลาะกันแล้ว นายพริโกซิน อ้างว่า จะไปอยู่เบลารุส ตามคำเชิญของประธานาธิบดีลูกาแชนกา เพราะฉะนั้นกองกำลังทยอยส่งไปที่เบลารุสแล้ว ใครใบ้รับประทานล่ะ ? นาโตใบ้รับประทาน โปแลนด์ใบ้รับประทาน ลิทัวเนียใบ้รับประทาน และลัตเวียใบ้รับประทาน
จากเดิมพรมแดนประเทศเหล่านั้นที่ติดกับเบลารุสไม่มีใครเลย ก็มีกองทัพแวกเนอร์มาอยู่ ส่วนพรมแดนเบลารุสกับยูเครนอยู่ห่างจากเคียฟ 100 ไมล์ เพราะฉะนั้นหากเดาไม่ผิด กองกำลังตรงนี้คือกองกำลังที่้จะตีเคียฟจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้ามา รัสเซียตีเข้ามาจากข้างล่าง เพื่อยึดกรุงเคียฟ
NATO ผวา แผน “ลับ-ลวง-พราง” กบฏรัสเซีย
นาโตตอนนี้กลายเป็นผวา รู้แล้วว่าเป็นแผนลับลวงพราง เพราะว่าการกบฏจบเร็วเกินไป 48 ชั่วโมง มิหนำซ้ำแล้ว นายพริโกซิน ยังถูกยกเลิกข้อหากบฏทิ้งไป นั่งเครื่องบินไปลงเบลารุส แล้วยังมีทหารของฝ่ายแวกเนอร์เข้าไปอีกเยอะแยะไปหมด
หลังจากการรักบฏจบสิ้นลงไปในวันที่ 24 มิถุนายน นายเย็นส์ สต็อลเดินบาร์ก เลขาธิการนาโต ประกาศปากสั่นเลยว่า พร้อมปกป้องตนเองจากภัยคุกคามใดๆ จากมอสโก หรือมินสก์ หลังเบลารุสเปิดประเทศต้อนรับเยฟกินี พริโกซิน เลขาฯ นาโตพูดเลยว่า นาโตเห็นพ้องต้องกันในการยกระดับการป้องกันตนเอง โดยการส่งทหารเข้าไปประจำในประเทศที่มีพรมแดนติดเบลารุส
แม้กระทั่ง กิตานัส เนาเซดา ประธานาธิบดีลิทัวเนีย ประเทศที่ซ่า ยังตกอกตกใจและพูดว่า ที่แวกเนอร์เข้ามาอยู่ในเบลารุสมันอันตรายมากกับลิทัวเนีย
ปรากฏว่าอาวุธที่รัสเซียส่งผ่านเบลารุสเข้าไปหากลุ่มแวกเนอร์นั้น ข้อมูลออกมาแล้ว กองทัพบัลแกเรีย ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน บอกว่าเครื่องบินรบความเร็วเหนือเสียง SU-34 ส่งเข้าไปแล้ว เครื่องบินรบรัสเซียมีเทคโนโลยีสูง เปรียบเสมือนเครื่องบินที่ล่องหนได้ อาวุธปืนใหญ่อัตราจรก็เข้าไปเยอะแยะไปหมดแล้ว
“ผมวิเคราะห์ว่ารัสเซียกำลังส่งหมากรุกมาหลอนให้ยุโรปตะวันออกบริเวณทะเลบอลติก คือ โปแลนด์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย ฟินแลนด์ และสวีเดน ซึ่งซ่ากับรัสเซียมาก แล้วเขาส่งเครื่องบิน SU-34 ทำทีบินเครื่องบินรบซ้อมยิงขีปนาวุธผสมกับซ้อมรบทางเรือยิงขีปนาวุธ ไม่อาจรู้ได้ว่าวันใดหัวร้อนจัดและจะยิงอาวุธจริงๆ” นายสนธิกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีค่ายนักรบแวกเนอร์สาขาเบลารุสมาสร้างใหม่ กระจายไปทั่วชายแดนประชิดชาตินาโตในย่านทะเลบอลติก
ที่แปลก กองทัพรัสเซียนอกจากเพิ่งจะติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ในเบลารุสแล้ว ยังขนอาวุธยุทโธปกรณ์หนักให้กองทัพเบลารุสเป็นทางผ่านไปให้นักรบแวกเนอร์อีกที
“วันใดเกิดมีคนจะเข้าไปกดปุ่มอาวุธนิวเคลียร์ถล่มพวกประเทศที่อยู่ใกล้ๆ ลิทัวเนีย ลัตเวีย โปแลนด์ รัสเซียกับเบลารุสก็จะบอกว่าไม่รู้เรื่องนะ เพราะนี่คือกองกำลังเอกชนซึ่งฉันควบคุมไม่ได้ แล้วมันเข้าไปยึดฐานปฏิบัติการ ขับไล่เจ้าหน้าที่ซึ่งคุมการยิงอาวุธนิวเคลียร์ออกไป แล้วเผอิญก็อาจจะมีคนทำรหัสยิงตกแถวๆ นั้น พวกนี้ก็หยิบรหัสยิงขึ้นมา ใช่นี่หว่า กดปุ่มไปเลย
“นี่ถ้านิวเคลียร์ถล่ม ลิทัวเนีย ลัตเวีย หายหมดแล้ว ลูกาแชงกา กับปูติน ก็จะบอกว่าไม่เกี่ยวนะ ไม่รู้เรื่องนะ ไม่เกี่ยวนะ ก็เหมือนที่พวกแกไม่รู้เรื่อง แต่แกใช้ดินแดนแกส่งอาวุธผ่านเข้ามาที่ยูเครน มารบกับรัสเซีย แล้วแกบอกว่าแกไม่ได้ยุ่งนะ แกทำเป็นทางผ่าน รัสเซีย กับเบลารุส ก็พูดได้เช่นกัน”
นี่คือเกมหมากรุกที่รัสเซียตัดสินใจรุกคืบนาโตแล้วคราวนี้ ไม่ใช่รัสเซียล่มสลายเหมือนอย่างที่สุทธิชัย หยุ่น พูด หรือบรรดาเพจ Drama-addict พูด นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และเป็นข้อเท็จจริงที่เลขาธิการนาโตก็ยอมรับแล้ว ถ้าไม่ยอมรับจะรีบส่งทหารส่วนกลางนาโตเข้ามาประจำตามพรมแดนของประเทศ อย่างเช่น โปแลนด์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย ประเทศที่ซ่ากับรัสเซียทำไม
“พอมีข่าวในรัสเซีย บางคนเป็นเพจของประเทศไทย โคตรโปรตะวันตกแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ออกมาถามเชิงเยาะเย้ยผม วิเคราะห์ แล้วเยาะเย้ยคนที่วิเคราะห์ข่าวฝั่งผม อย่างเช่น คุณทนง ขันทอง คุณโสภณ โองการณ์ บอกว่าระบอบปูติน ล่มสลาย รัสเซียกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อีกรอบ กรณีอย่างนี้ทำไมพวกผม กับคุณทนง ถึงเงียบ ไม่ออกมาวิเคราะห์กันบ้าง แต่พอเช้าวันอาทิตย์ พอพริโกซิน และกลุ่มแวกเนอร์ ประกาศถอนกำลัง ย้ายไปเบลารุสแทน สถานการณ์ในรัสเซียคลี่คลาย ไม่มีแล้ว นักคอมเมนต์ที่ด่าผม ตำหนิติเตียน แดกดันคุณทนง ขันทอง โสภณ โองการณ์ ก็งงเป็นไก่ตาแตก บอก อิหยังวะ หน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่มโนกันเอาไว้ พังทลายไปในพริบตา
“ตอนนี้ผมจะเตือนนะครับ คุณจะคอนเมนต์ สนใจสงครามในยูเครนและรัสเซีย และนาโต กับรัสเซีย ถึงคุณจะเป็นใครก็ตาม ถึงคุณจะเป็นสุทธิชัย หยุ่น ก็ตาม คุณแหกตาดูให้ดีๆ ว่าตอนนี้สงครามระหว่างรัสเซีย กับนาโต กำลังเปลี่ยนผ่านสู่บริบทใหม่แล้ว” นายสนธิกล่าว