อดีตหัวหน้า ศรภ.ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกระแสปมดรามา เครื่องแบบนักเรียน ยกข้อดีหลายข้อ เช่น ทำให้แยกครูกับนักเรียนออก หรือไม่ต้องเสียเวลาเลือกชุดเสื้อผ้า พร้อมยกคำกล่าวของนักวิชาการญี่ปุ่นที่ระบุว่า หากนึกย้อนไปยังความทรงจำถึงโรงเรียนเก่า หรือชุดนักเรียนเชยๆ ถือเป็นการพักผ่อนสมองซีกซ้าย
วันนี้ (21 มิ.ย.) เฟซบุ๊ก “พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์” หรืออดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นปมดรามาชุดนักเรียน โดยระบุข้อความว่า “ครอบครัวพวกเราแต่งชุดนักเรียนไปเรียนกันมาตั้งแต่รุ่นปู่จนมาถึงรุ่นเหลนแล้ว ทุกคนก็มีความสุขกับเครื่องแบบนี้มากครับ เพื่อนๆ ก็รักกันมาจนทุกวันนี้ ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน เดือดร้อนแทนกันได้ ก็เพราะมีความทรงจำดีๆสนุกสนานในวัยเด็ก ซึ่งมีเครื่องแบบนักเรียนนี้เกี่ยวข้องอยู่ด้วยเป็นส่วนใหญ่
จนถึงปัจจุบันนี้ เครื่องแบบนักเรียน ยังเป็นสิ่งที่ระบุความเป็นพวกเดียวกัน เชื่อมโยงผูกพันพวกเราเข้าหากัน เป็นศิษย์ร่วมสถานศึกษาเดียวกันอย่างเต็มภาคภูมิ แม้บางครั้งจะทำนอกเหนือกฎระเบียบไปบ้าง เช่น การร่วมกันแอบครูสูบบุหรี่ รวมกลุ่มไปมีเรื่องกับนักเรียนโรงเรียนอื่นเพื่อแย่งตำแหน่งราชันขาสั้น หรือการซ่อนสูตรคณิตศาสตร์เวลาเข้าสอบไว้ใต้ขากางเกง เวลาจะดูก็แค่พับขึ้นมา แล้วยังมีความถนัดในการเตะบอลพลาสติก ขณะเดียวกันก็สามารถเข้าเรียนได้ทันทุกที เป็นต้น
ส่วนนักเรียนหญิง ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาเลือกชุดเสื้อผ้าตอนตื่นเช้าเพื่อไม่ให้ซ้ำกับเมื่อวานนี้ ซึ่งถ้าไม่แต่งเครื่องแบบ ก็ต้องมีองค์ประกอบของชุดที่ใส่ตามมาอีกมาก เช่น กระเป๋า รองเท้า สร้อยคอ สร้อยคอมือ สร้อยข้อเท้า ฯลฯ
ในขณะที่ความสะดวกอย่างหนึ่งของ “การไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียน” ที่เด็กกลุ่มหนึ่งต้องการน่าจะเป็นเรื่องที่ สามารถไปเที่ยวต่อได้เลย ก็เท่านั้นเอง
เครื่องแบบนั้น ที่ทำให้รู้ว่า คนไหนเป็นครู คนไหนเป็นนักเรียน ที่สำคัญคือ เป็นการเตือนให้เรารู้ว่า เรากำลังทำหน้าที่อะไรอยู่ และเป็นการเรียนรู้ที่จะเคารพกติกาของการอยู่ร่วมกัน รวมทั้งกติกาของสังคมที่เราต้องออกไปเผชิญในอนาคตอีกด้วย
นักวิชาการญี่ปุ่นคนหนึ่งกล่าวว่า การนึกถึงโรงเรียนเก่า หรือเรื่องที่เกิดขึ้นจากการใส่เครื่องแบบเชยๆ นั้น ถือเป็นการพักผ่อนสมอง (ซีกซ้าย) ที่เรามักจะใช้มันทำงานอย่างหนักมาเกือบทุกวัน โดยให้สมองซีกขวา ซึ่งเป็นสมองส่วนของ ความสุข ได้ทำงานบ้าง อ่านแล้วลองจินตนาการทำดูซิครับ”