แพทย์หญิงโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของตนเองจากแพทย์ที่ตั้งใจทำงาน รับราชการมา 13 ปี ต้องกลายเป็น “นักโทษหนีคดี” วอนขอความยุติธรรม
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "スカイライン ギッブ" ซึ่งเป็นแพทย์หญิงโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวของตนเองจากแพทย์ที่ตั้งใจทำงาน รับราชการมา 13 ปี ต้องกลายเป็น “นักโทษหนีคดี” โดยเล่าว่า "หมอทำงานโดยสุจริต ก็มีสิทธิ์ติดคดี โดนหมายจับได้!? เราเป็นแพทย์ประจำ รพ.ประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในเขตปริมณฑล รับราชการมานาน 13 ปี ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และที่อยากจะพูดเลยคือ ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเที่ยวแบบใครๆเขา อย่างปีใหม่ที่ผ่านมานี้ ถึงไม่ได้อยู่เวร ก็ยังต้องไปสแตนด์บายงานราชการนอกสถานที่ ก็ยินดีไปนะเพื่อช่วยราชการ
แต่แล้ว เราก็มีโอกาสพาครอบครัวได้ไปเที่ยวกับเขาบ้าง .. โดยอาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์ พอเรามีแผนที่จะได้ไป ก็หาเวลาไปทำพาสปอร์ตของคุณแม่ เราและลูกๆ จองทัวร์ จ่ายเงินเรียบร้อยทุกอย่างผ่านฉลุย จนวันเดินทางวันที่ 13 เมย 66ที่ผ่านมา เราและครอบครัวไปเจอที่จุดนัดพบของกลุ่มทัวร์ แล้วจึงเข้าเช็คอินกับสายการบิน จากนั้นจึงไปที่ด่าน ตม. แล้วก็ต้องเจอเรื่องช๊อกค่ะ!! ติด ตม.เว้ย!!! มีหมายจับจากศาลแพ่งธนบุรี หน้านี่ลงไปเหลือสองนิ้ว ความภาคภูมิใจในวิชาชีพ ความมั่นใจในความสามารถ ลงไปกองกับคุกกับตาราง!!? อับอายต่อกลุ่มทัวร์ และคนผ่านไปผ่านมาขนาดไหนไม่ต้องพูดถึง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พึ่งเคยเข้าใจคำว่าอยากแทรกแผ่นดินหนีจริงๆ ลูกๆเราก็ผิดหวังมากนะก็ไม่ได้เที่ยวต่างประเทศมาตั้งแต่ 2019 และสุดท้ายทริปเราก็ล่มลง แล้วมันเกิดขึ้นได้ไง?
หมายจับที่ว่า มาจากการถูกออกหมายเรียกเพื่อเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี หมายแรกมาที่ รพ. และเราได้ทำหนังสือขอเลื่อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะติดภาระกิจไปไม่ได้จริงๆและการจะทิ้งงานเพื่อไปตอบคำถามประกอบคดีเรายินดีทำนะ ทำมาตลอดนั่นแหล่ะ บ่อยด้วย หนังสือเลื่อนศาลท่านก็ได้รับอยู่ในสำนวนด้วย
หมายที่สอง ส่งไปที่บ้านเราเฉยเลย ทั้งที่หมายแรกก็ติดต่อเราได้นี่นา ตอนนั้นก็งง แต่เค้าก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย เออ!!กระบวนการยุติธรรม
หมายที่สามเนี่ยสิ ส่งไปที่เดิม แต่เรามีการย้ายบ้านไปก่อนหน้านั้นแล้วเป็นเดือนเลยนะ แล้วส่งไปหาใครล่ะ? แต่สรุปว่าเราก็โดนหมายจับไง โดนพร้อมกับหมออีกคน แถมส่งไปที่บ้านเก่าด้วย ใบคดีเราเขียนให้เพียบ คนไข้คดีก็ตรวจให้หมดไม่เคยเกี่ยง หมายศาลก็เพียบ เพราะเราเชื่อมั่นในความยุติธรรม จากประสบการณ์การขึ้นศาลทำให้เรารู้สึกว่า ผู้พิพากษา อัยการ และทนายทุกคนต่างเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และใจรักในความยุติธรรมทั้งสิ้นต่างคนต่างตั้งใจทำในบทบาทของตนเองอย่างเต็มความสามารถ เราเชื่อเสมอว่าถ้าเราอยู่ข้างความถูกต้อง เราก็ไม่ต้องกลัวอะไร ทำให้เราไม่กลัวการขึ้นศาลและยินดีให้ความร่วมมือมาตลอด
เราเป็นคนเคารพวิชาชีพตัวเองมากนะ ทุกอย่างเราทำด้วยความตั้งใจเสมอมา ไม่มีสักนิดที่คิดไว้ว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องนิติเวชเราๆที่ต้องขึ้นศาลกันบ่อยกว่าขึ้นเครื่องไปต่างประเทศแล้ว คิดเห็นประการใดบ้าง
ที่ทำให้เราอยากออกมาเล่า เพราะเรามองว่าเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นกับหมอคนไหนก็ได้ รวมไปถึงอาจจะเกิดขึ้นกับเราอีกเมื่อไหร่ก็ได้เช่นเดียวกัน อยากให้หมอๆและทุกคนระวังเอาไว้จะได้ไม่เสียหายเหมือนเรา
ปล. ในส่วนที่งงคือผู้ใหญ่วันที่เราไปขึ้นศาลกล่าวว่า หมายจับที่ส่งไปที่อยู่เก่าเรา เขาก็ชอบออกหมายกันแบบนี่แหละ ไม่จำเป็นต้องออกถูกที่ ไม่งั้นผู้ร้ายก็จะหลบหนี จริงดิ จากหมอกลายเป็นนักโทษหนีคดี ก็ได้เหรอ
ส่วนตัวที่ออกมาเล่าเพราะยังเชื่อมั่นในความยุติธรรมนะ แม้สิ่งที่เราเจอมันจะเฮงซวย! แต่เชื่อและอยากพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่าความยุติธรรมมันจะยังมีอยู่จริง มาถึงจุดๆนี้คำขอโทษ ไม่ขอรับปากเปล่า หรือตัวอักษรแล้วนะคะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้รับสักคำ ขอรับเป็นค่าดำเนินการ ค่าเสียศักดิ์ศรี ค่าถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ค่าเสียหาย แล้วกันนะคะ แต่มันประเมินค่าได้ยากนะคะ ปล.2 ศาลที่ไปคือศาลแพ่งธนบุรี เป็นคดีความแพ่งค่ะ "