“สนธิ” เผย 3 เรื่องที่ทำให้ยอมรับพรรคก้าวไกลไม่ได้ 1.แก้ ม.112 ที่ตนมีจุดยืนคัดค้านมาตลอด 2.เปิดประตูให้อเมริกาเข้ามาแทรกแซงประเทศ และ 3.หัวหน้าพรรคชอบโกหก เมื่อวานพูดอย่างวันนี้พูดอย่าง หากแก้ 3 เรื่องนี้ได้ก็ไม่มีปัญหา
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงปัญหาเรื่องความจำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่ยังเป็นคนหนุ่มอายุเพียงแค่ 42 ปี แต่ที่ผ่านมารู้สึกว่ามีปัญหาสั้น หรือ ขี้หลงขี้ลืมตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะหลาย ๆ กรณีพิสูจน์ให้เห็นว่า นายพิธาตั้งแต่ลงเล่นการเมืองก็เริ่มจะเบลอ เมื่อวานพูดอย่าง วันนี้พูดอีกอย่าง พรุ่งนี้พูดไปอีกอย่าง
ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องการยกเลิก/แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องครอบครัวนายข้อเท็จจริงในปี 2549 เกี่ยวกับการรัฐประหาร และ เรื่องการเดินทางกลับมาร่วมงานศพของพ่อ เรื่องความเห็นและนโยบายกัญชา ที่ปี 2562 พูดอย่าง ปี 2566 พูดอีกอย่าง
ล่าสุด มีเรื่องที่นายพิธาอ้างว่าได้แก้หนี้บริษัทของครอบครัว 100 ล้านบาท แต่ความจริงเป็นตรงกันข้ามกับที่นายพิธาพูด และทราบมาไม่เป็นทางการว่ากลุ่มอาๆ เกลียดนายพิธามาก และเงินของบริษัทที่นายพิธาดูแลอยู่นั้นหายไป 100 กว่าล้านบาท วันหลังจะเอารายละเอียดมาเล่าให้ฟัง
นายพิธา อาจจะเป็นคนที่เอาใจคนเก่ง สามารถพลิกลิ้น เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความนิยม
กรณีล่าสุด งานบางกอกไพรด์ 2023 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นเวทีสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองกลาย ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ไปร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์บางกอกไพรด์ 2023 โดยขบวนของพรรคก้าวไกลประกอบด้วยธงสีรุ้งขนาดใหญ่ แผ่นป้ายนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ อาทิ สมรสเท่าเทียม sex worker ถูกกฎหมาย รับรองทุกเพศสภาพ คำนำหน้านามตามสมัครใจ
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ ตนก็พร้อมจะเข้าไปสนับสนุนสมรสเท่าเทียม การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ และสวัสดิการเพื่อความเสมอภาคทางเพศ และบอกด้วยว่า มั่นใจว่ากฎหมายทั้งสมรสเท่าเทียมและ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ทั้ง 2 ฉบับจะผ่านได้ภายใน 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน
โดยในวันนี้ นายพิธา มาในเสื้อสีรุ้ง ได้ใจชาว LGBTQ ซึ่งหมายถึงกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไปเต็มๆ
อย่างไรก็ตาม หากไปย้อนดูเหตุการณ์ในอดีต สมัยที่นายพิธามีเรื่องมีราวกับ ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ นักแสดงที่เคยเป็นอดีตภรรยา เมื่อตอนไปออกรายการ Thairath Talk วันที่ 11-12 มิถุนายน 2562 ซึ่งต่ายให้สัมภาษณ์ไว้ชัดเจนเลยว่า นายพิธาที่เป็นสามีในตอนนั้น มีข้อบังคับหลังแต่งงาน โดยบอกว่า
“คุณทิมขอไม่ให้คบเพื่อนที่เป็นเกย์ หรือทอม หรือคนที่ลักษณะภายนอกไม่ใช่ผู้หญิง ไปคุยด้วยหรือไปอะไรด้วยก็ไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่ามันไม่เหมาะ ที่ผ่านมาเวลาเขาขออะไร เราจะไม่ถามหาเหตุผลว่าทำไม ถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เราก็จะทำ เพื่อให้ชีวิตคู่มันไปต่อได้ ”
นี่เป็นสิ่งที่ “ต่าย” ภรรยานายพิธา ให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปี 2562 แต่พอมาวันนี้นายพิธากลายเป็นคนที่เปิดกว้าง เข้าอกเข้าใจเพศทางเลือกได้อย่างดีไปเสียแล้ว
“คุณพิธาครับ เรื่องแนวคิด LGBTQ นี้ก็เหมือนทุกเรื่องที่ผมเคยทักท้วงกับคุณ ที่ออกมาพูดนี้ ผมก็ได้แต่หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ของคุณมันเกิดขึ้นจากมโนสำนึกในจิตใจของคุณพิธา จริง ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงการแสดงเพื่อเรียกคะแนนเสียง และแรงเชียร์จากแฟนคลับ หรือ ด้อมส้มเท่านั้น” นายสนธิกล่าว
3 ข้อที่รับ “ก้าวไกล” ไม่ได้
นายสนธิ กล่าวต่อว่า สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น ตนยอมรับว่านโยบายต่างๆ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ใช้ได้ เช่น การกระจายอำนาจ การปฏิรูปตำรวจ ตนไม่ได้มีปัญหากับเรื่องพวกนี้ แต่ที่รับไม่ได้ 3 เรื่อง คือ 1. นโยบายยกเลิก/แก้ไขมาตรา 112 เป็นจุดยืนของตนที่พูดมานาน รวมทั้งเชื่อว่า 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลด้วย จำนวนมากเลือกเพราะเบื่อรัฐบาลลุง แต่ไม่ได้อ่านนโยบายในรายละเอียด
2. นโยบายต่างประเทศ ที่เปิดประตูให้อเมริกาเข้ามา ตามที่ระบุในนโยบายของพรรคก้าวไกลเอง เช่น การเข้าไปแทรกแซงเรื่องในพม่าที่เป็นหมากการเมืองระหว่างโลกตะวันตกกับรัสเซียและจีน การเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับสหรัฐเอเมริกาที่กำลังต่อต้านจีน เพิ่มทรัพยากรการฝึกคอบร้าโกลด์กับกองทัพสหรัฐฯ เป็นต้น
นายสนธิ กล่าวว่า เพราะ 2 นโยบายนี้จะทำให้ประเทศพังโดยที่ไม่สามารถแก้ไขกลับคืน ตนปล่อยให้ก้าวไกลลิดรอนอำนาจสถาบันกษัตริย์ไม่ได้ สถาบันกษัตริย์ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับสังคมไทย มีแต่สร้างประโยชน์ให้าังคมไทย เช่น โครงการพระราชดำริต่างๆ แต่ก็มีความพยายามด้อยค่า ปล่อยข่าวลือเพื่อทำลายสถาบันกษัตริย์ เช่น
หาว่ากษัตริย์จะเอาที่สนามม้านางเลิ้ง จริงๆ ไม่ใช่เลย ที่สนามม้านางเลิ้ง ใช้ก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะ รวมทั้งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะให้ประชาชนสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่
หาว่ากษัตริย์จะเอาที่เขาดิน ไปสร้างวัง แต่ความจริงที่ตรงนั้นจะสร้างโรงพยาบาล ส่วนสวนสัตว์ดุสิตใหม่ที่ย้ายไป ก็เป็นที่ดินที่พระราชทานให้กับองค์การสวนสัตว์จำนวนกว่า 300 ไร่ เพื่อสร้างสวนสัตว์ บริเวณคลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่เดิมถึง 3 เท่า ทั้งหมดใช้เงินทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งนั้น
“ส่วนนโยบายอื่นๆ ของก้าวไกลผมไม่ก้าวล่วง เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง และตัวผมเองก็ไม่ได้ชอบรัฐบาลนายกประยุทธ์ ผมเบื่อระบบราชการเดิมๆ และควรประกาศวางมือจากการเมืองได้แล้ว” นายสนธิกล่าว
3. เรื่องสุดท้ายที่ยอมรับพรรคก้าวไกลไม่ได้ คือนายพิธา หัวหน้าพรรคชอบโกหก จนเป็นนิสัย วันนี้พูดอย่างอีกวันพูดอีกอย่าง แต่ก็ดันถูกจับโป๊ะได้ทุกเรื่อง
ที่ไล่เรียงมาอย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พระพุทธเจ้าเคยตรัส “คนโกหกไม่ทำชั่วไม่มี” การโกหกเล็กๆ จะนำไปสู่การโกหกใหญ่ แค่เปิดมาแค่นี้ ยังมีเรื่องให้จับผิดยิบย่อยเต็มไปหมด
“เรื่องที่คุณโกหกนั้น ผมขอให้คอนด้อมส้มทำใจเสียหน่อย คุณพิธาที่คุณรัก เทิดทูนว่าเป็นบุรุษประเสริฐ ดีที่สุด คุณพิธาไม่ใช่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อีกต่อไปแล้ว เพราะกำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถ้าเรามีคนที่เป็นผู้นำและจะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วโกหกพกลมตลอดเวลา ท่านผู้ชมทำใจให้เป็นกลาง ติ่งส้มครับ คอนด้อมส้มครับ คุณวางตัวเป็นกลางสักนิด ผู้นำประเทศโกหกพกลมตลอดเวลา คุณรับได้หรือ
“ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ อย่าโกรธผม เพราะผมพูดในหลักการ 3 ข้อที่ผมก้าวข้ามไม่ได้ ผมไม่ได้มีอะไรเป็นส่วนตัว ถ้าคุณพิธามีสติปัญญา หรือคนที่เป็นติ่งคุณพิธา หรือคอนด้อมส้ม มีสติปัญญา หยุดคิดสักนิดว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า ไม่ว่าข้อที่หนึ่ง สถาบันกษัตริย์ยังมีความจำเป็นต่อประเทศชาติ ข้อที่สอง คุณกำลังชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน แล้วไม่ได้พูดโดยลอยๆ เหมือนที่พวกคุณใส่ร้ายผม บางคนก็ทะลึ่งหาว่าผมสร้างหนังมาอีกเรื่องหนึ่ง ก็ไปดูในนโยบายของพรรคคุณสิ คุณเขียนไว้อย่างนี้จริงหรือเปล่า คุณเขียนไว้อย่างนี้จริงๆ คุณเขียนไว้เหมือนกับที่ผมพูด แล้วเรื่องที่สามคือเรื่องว่าที่นายกรัฐมนตรีโกหกเป็นนิจ พูดจาปลิ้นปล้อน สับปลับ แล้วผมจะรับคุณเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ผมถึงรับพรรคก้าวไกลไม่ได้ใน 3 ข้อนี้ ถ้าคุณแก้ 3 ข้อนี้ได้หมด ผมก็พร้อมจะสนับสนุนคุณเช่นกัน” นายสนธิกล่าว