xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : ตลาดทุนผวาศิริกัญญา | บ้านบังคับคดีเลือด | ส่วยสติกเกอร์สะเทือนผู้การทางหลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com

(สรุปข่าวประจำวันที่ 28 พ.ค. - 4 มิ.ย. 2566)


อันดับ 1 : ตลาดทุนผวาศิริกัญญา รีดภาษีนักลงทุนปั้นรัฐสวัสดิการ ประธานกองทุนยกเลิกทุกนโยบายเขียวทั้งกระดานทันที

หลังจากที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง นอกจากตลาดหุ้นไทยร่วงลงอย่างรุนแรงแล้ว ยังมีความไม่เชื่อมั่นของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ที่เสนอตัวเป็น รมว.คลังในการจัดตั้งรัฐบาล พบว่าจากการไปออกรายการต่างๆ โดยเฉพาะรายการช่องลงทุนแมน ถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายนโยบาย เช่น การเรียกเก็บภาษีจากนักลงทุนหลายอย่างและขึ้นภาษีนิติบุคคล เพื่อนำไปทำเป็นรัฐสวัสดิการ ซึ่งจะกระทบต่อการลงทุนในประเทศ รวมทั้งกรณีที่นโยบายค่าแรง 450 บาทจะทำให้แรงงานตกงาน ก็ตอบว่าต้องดูการตึงตัวของแรงงาน แต่ถ้าต้องตกงานก็จ่ายเงินชดเชยประกันสังคม

นอกจากนี้ยังมีเสียงวิจารณ์จาก นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง แนะว่า ทำอย่างไรหุ้นถึงจะขึ้น ยกเลิกทุกนโยบายของว่าที่รัฐบาล เขียวทั้งกระดานทันที ทำให้แฟนคลับพรรคก้าวไกลไม่พอใจ แต่นางวรวรรณก็ดึงสติว่าการแสดงออกเชิงลบทำลายศรัทธาของพรรคลง ภายหลัง น.ส.ศิริกัญญา ยอมรับว่าสื่อสารผิดพลาด มีคนได้รับผลกระทบและเสียประโยชน์ ก็จะพยายามสร้างสมดุลและเยียวยาที่จะทำให้ทุกฝ่ายไม่รู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจากมาตรการต่างๆ และขอให้ดูสิ่งที่สื่อสารกับประชาชน หรือการอภิปรายย้อนหลัง มากกว่าตัดสินด้วยอายุหรือประสบการณ์


อันดับ 2 : บ้านบังคับคดีเลือด ซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองเจ้าของเดิมไม่ย้าย ฟ้องแล้วอะไรแล้ว ทวงถามเจอยิงกระหน่ำ 5 นัดดับ

เรื่องจริงเตือนใจคนซื้อบ้านบังคับคดีแล้วเจ้าของเดิมไม่ยอมย้ายออก เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายเดชา พยัคฆะ อายุ 65 ปี อาศัยอยู่ในบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ในหมู่บ้านกรีนการ์เด้นโฮม ซอย 42 หมู่ 1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.กมลพร ดอนทอง อายุ 52 ปี จำนวน 5 นัด เสียชีวิตที่หน้าบ้าน ก่อนจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน ปิดประตูบานเลื่อนมิดชิด แม้ตำรวจจะพยายามเข้าจับกุมแต่ก็ถูกนายเดชายิงสวน กระทั่งลูกสาวและลูกชายนายเดชาเกลี้ยกล่อม เจ้าตัวขอพบ กัน จอมพลัง จากนั้นตำรวจติดต่อให้คุยกับกัน จอมพลัง แล้วนัดไปเจอที่ สภ.ธัญบุรี กระทั่งนายเดชายอมมอบตัว รวมเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง

สาเหตุเกิดจากนายเดชาพักอาศัยที่บ้านหลังนี้นานกว่า 20 ปี แต่ไม่ผ่อนค่าบ้าน ถูกธนาคารออมสินยึดทรัพย์แล้วให้กรมบังคับคดีขายทอดตลาด น.ส.กมลพร ซื้อบ้านหลังนี้มาได้ 1 ปี แต่นายเดชาไม่ยอมย้ายออก มีเรื่องฟ้องร้อง ศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับนายเดชา ฐานจงใจขัดขืนหมายบังคับคดี ที่ผ่านมาเจรจามาแล้วแต่ไม่เป็นผล เจ้าตัวอ้างว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ต่อมาตำรวจนำตัวนายเดชาไปฝากขัง นายเดชายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลจังหวัดธัญบุรีไม่ให้ปล่อยตัว เพราะคดีมีอัตราโทษสูง การกระทำความผิดมีลักษณะรุนแรง เกรงว่าจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น

ขณะที่นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี ชี้แจงว่า หากเจ้าของเดิมไม่ย้ายออก สามารถร้องขอศาลเพื่อออกหมายบังคับคดีขับไล่ และขอศาลออกหมายจับได้ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้


อันดับ 3 : ส่วยสติกเกอร์สะเทือนผู้การทางหลวง วิโรจน์ตีปี๊บ-ประธานขนส่งชงข้อมูล เด้งเอกราช-ส่งผู้การ ปปป.สอบ

สัปดาห์ที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แฉส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ที่กลุ่มผู้ประกอบการร้องเรียนว่า มีสติกเกอร์ Easy Pass รถบรรทุก เป็นสัญลักษณ์จ่ายส่วย ไม่ต้องผ่านด่านชั่งน้ำหนัก แม้บรรทุกเกินอัตรา มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านต่อปี ทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้กองบังคับการตำรวจทางหลวงตรวจสอบ ต่อมา พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ถูกย้ายไปตำรวจสอบสวนกลางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

ต่อมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เรียกประชุมด่วนตำรวจทางหลวงระดับรองผู้บังคับการ ถึงผู้กำกับการ ย้ำว่าหากตำรวจรายใดเข้ามาเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินการเช่นเดียวกัน พร้อมยกเลิกหน่วยเฉพาะกิจทั้งหมด เน้นใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเป็นธรรมแม้จะกระทบถึงผู้ประกอบการก็ตาม ขณะที่นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำตัวแทนเครือข่ายผู้ประกอบการขนส่ง 10 สมาคม มอบเอกสารสติกเกอร์ส่วยรวม 46 ป้าย พร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศให้กับนายวิโรจน์ ระบุว่าเฝ้ารอมานานกว่า 20 ปี ถูกข่มขู่ให้ไปเคลียร์ส่วย วันนี้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า มีสติกเกอร์รูปกระต่ายหมายจันทร์ มีผู้ดูแลคือภรรยารอง ผบก.ภ.จ.แห่งหนึ่งใน บช.ภ.7 ทำให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผบช.ภ.7 เข้าพบ ผบ.ตร. ยังไม่ได้รับรายงานแต่จะนำประเด็นนี้เข้าหารือ ผบ.ตร.ด้วย


อันดับ 4 : ท็อปนิวส์โดนบูลลี่ ปิยณีช่อง 3 ปากดีฝากคุมสื่อพ่วงกัญชา อีเจี๊ยบ เลียบด่วนเจอปอง อัญชะลีถามไปไม่เป็น

กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงสื่อ เมื่อ น.ส.ปิยณี เทียมอัมพร ผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนัก สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์ภาพแคปชันข้อความว่า "มีสองอย่างที่ไม่ควรปล่อยให้เสรี 1. กัญชา 2. ท็อปนิวส์" พร้อมแสดงความเห็นว่า "คอมเมนต์นี้ดีนะคะ ฝากรัฐบาลใหม่นำไปพิจารณาเพิ่มเติมด้วยค่ะ ล่าสุดข่าวปั่นเรื่องเมกา (อเมริกา) ที่เราว่าติงต๊องๆ กันนะ มีคนเอาจริงเอาจังอยู่นะคะ ดูอย่างพี่นักแต่งเพลงท่านนั้นสิ แม่ประไพ" ทำให้ผู้ที่ถูกพาดพิงต่างออกมาตอบโต้ เช่น นายกนก รัตน์วงศ์สกุล นายธีระ ธัญไพบูลย์ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ และนายนิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง

อีกด้านหนึ่ง เฟซบุ๊กเพจ "อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 3.5 ล้านบัญชี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "สื่อ โดน คุม !! ประชาชนไม่รู้ความจริง" หรือพี่เปิดแช่แต่ช่องทับนิวส์ เอาดีๆ" แม้จะใช้คำว่าทับนิวส์ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นการกล่าวพาดพิงสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ปรากฏว่า น.ส.อัญชะลี ได้ถามกลับว่า ตั้งโพสต์ขึ้นมาต้องการอะไร ขอให้บอกกันตรงๆ และถามว่าคนที่ดูช่องท็อปนิวส์ผิดไหม ในฐานะที่เคยรู้จักกันมานาน เคยชื่นชมสิ่งที่เขียน แต่โพสต์แบบนี้ด้วยสาเหตุอะไร ภายหลังพบว่าเฟซบุ๊กเพจ "อีเจี๊ยบ เลียบด่วน" ได้ให้ผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนโพสต์คอนเทนต์ชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน มีรายงานว่าสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่มาแสดงความคิดเห็น ที่้ก่อให้เกิดความเสียหายและหยาบคาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 40 ราย


อันดับ 5 : รวบแฝดนรกข่มขืนเยาวชนต่ำกว่า 15 ใช้เฟซบุ๊กล่อลวงเหยื่อ จับแฝดพี่ปัดชี้เป้าแฝดน้อง สุดท้ายเกมทั้งคู่

การจับกุมคู่แฝดก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเยาวชนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ตำรวจสืบสวนนครบาลและศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุมสองพี่น้องฝาแฝด นายยุทธนา ทูลศิริ หรือปาน และนายวันธนะ ทูลศิริ หรือปาย อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา หลังทั้งคู่ตระเวนข่มขืนเด็กหญิง โดยใช้เฟซบุ๊กล่อลวงเหยื่อ ออกอุบายชวนไปเที่ยว จากนั้นพาไปข่มขืนในบ้านร้าง เหยื่อทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในพื้นที่จังหวัดราชบุรี มีผู้ตกเป็นเหยื่อแจ้งความเอาผิดอย่างน้อย 4 ราย

สอบสวนนายยุทธนาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โยนความผิดไปให้นายวันธนะ ซึ่งเป็นแฝดน้อง ก่อนชี้เป้าและจับกุมในเวลาต่อมา ส่วนนายวันธนะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน แต่เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่านายยุทธนาต้องโทษ 6 คดี ฐานลักทรัพย์ 3 คดี และความผิดเกี่ยวกับเพศ 3 คดี ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ส่วนนายวันธนะต้องโทษ 5 คดี ฐานลักทรัพย์ 3 คดี และความผิดเกี่ยวกับเพศ 2 คดี ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีและ กทม. รู้จักผู้เสียหายทางสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ต้องหายังเคยก่อเหตุลักทรัพย์ด้วย ถือเป็นภัยสังคม ถ้าใครเคยตกเหยื่อในลักษณะนี้ให้มาแจ้งความที่ สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี


อันดับ 6 : สาว ม.6 เครียดปัสสาวะบวก เชื่อกินเสริมอาหารผิวขาว ตรวจรอบสองโล่งแต่เจ้าของแบรนด์จ่อฟ้องเรียก 50 ล้าน

นักเรียนสาวเกือบพลาดโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกตรวจพบผลปัสสาวะเป็นบวก ระบุว่าพบสารเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นสารในกลุ่มยาบ้า ระหว่างขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลนางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้แพทย์ไม่สามารถออกใบรับรองให้ได้ เชื่อว่าน่าจะมาจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทำให้ผิวขาวที่ซื้อผ่านติ๊กต็อก จากนั้นได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ประโคนชัย และให้สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์

ต่อมาผู้ปกครองได้นำนักเรียนหญิงมาตรวจซ้ำอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ผลการตรวจโดยการเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะอย่างละเอียด ไม่พบสารเสพติดใดๆ จึงได้ออกใบรับรองแพทย์เพื่อใช้ประกอบการศึกษาต่อได้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังน.ส.อภิรมณ สุขสีทา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กลูต้า BTO ได้ปรึกษานายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ก่อนแถลงข่าวเตรียมฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายกับครอบครัวนักเรียนชั้น ม.6 จำนวน 50 ล้านบาท เพราะหลังเป็นข่าวทำให้บริษัทได้รับความเสียหายกระทบกับธุรกิจ แม้จะให้โอกาสเจรจา แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย


อันดับ 7 : มาแล้วลูกจ๋า สายสีเหลืองที่หนูอยากได้ ทดสอบโมโนเรลสำโรง-หัวหมาก 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ขึ้นฟรีไม่มีหักเงิน
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ซึ่งมีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเจ้าของ และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) เป็นผู้รับสัมปทาน หลังก่อสร้างมานานถึง 5 ปี ทำการจราจรติดขัดบนถนนลาดพร้าวและถนนศรีนครินทร์ ในที่สุดก็ได้เปิดให้ประชาชนร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ในช่วงแรกจากสถานีหัวหมาก ถึงสถานีสำโรง รวม 13 สถานี ให้บริการทุก 10 นาที ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ประชาชนสามารถใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งผู้ถือบัตรแรบบิท สามารถใช้แตะเข้า-ออกในระบบรถไฟฟ้าได้โดยไม่ถูกหักเงิน

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่มต้นจากสถานีลาดพร้าว เชื่อมต่อรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ไปตามถนนลาดพร้าว เลี้ยวขวาไปตามถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาไปตามถนนเทพารักษ์ สิ้นสุดที่สถานีสำโรง เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล มีทั้งหมด 23 สถานี ใช้รถไฟฟ้ารุ่น อินโนเวีย โมโนเรล 300 ขบวนละ 4 ตู้ รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 356 คนต่อตู้ มีทั้งหมด 30 ขบวน 120 ตู้ พร้อมอาคารจอดแล้วจร ที่สถานีศรีเอี่ยม รองรับได้ 2,800 คัน ใช้เงินลงทุนรวมกว่า 51,000 ล้านบาท โดย รฟม. ให้สัมปทานบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล เป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน

อนึ่ง บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล เป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทบีทีเอส บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของเดียวกับโรงไฟฟ้าราชบุรี
กำลังโหลดความคิดเห็น