ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ตั้งแต่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน พฤติกรรมผู้บริโภค ไปจนถึงวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ ไม่ต้องพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) ที่มีวิวัฒนาการไปไกลกว่าเดิมมาก ทำให้ตอนนี้โลกกำลังมุ่งไปในเส้นทางที่เราไม่คุ้นเคย ซึ่งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก (Mega Trends) เช่น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล สังคม และสภาพภูมิอากาศ ได้สร้างความท้าทายรูปแบบใหม่ให้แก่ทุกคน ในขณะที่คนในสังคมกำลังปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ภาคธุรกิจล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำหน้าที่เป็นผู้นำเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตของโลกหลังวิกฤตโควิด
3เอ็ม ในฐานะบริษัทวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่นำเสนอโซลูชันหลากหลายครอบคลุมทุกภาคส่วน เราจึงเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในการนำความเชี่ยวชาญและวิทยาศาสตร์มาปรับปรุงคุณภาพชีวิต และแก้ปัญหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของโลก โดย 3เอ็ม ได้ตระหนักถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้เปิดตัว 3M Forward ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ที่สามารถช่วยขับเคลื่อนให้สังคมก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางพลังความท้าทายสามประการที่กำลังส่งผลต่อโลกของเราอย่างไม่หยุดยั้ง ได้แก่ การบรรจบกันของโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัล (convergence of the physical and digital world) การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (shifting demographics and social change) และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการขาดแคลนทรัพยากร (climate change and resource scarcity) และการขับเคลื่อนโลกไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นด้วยโซลูชันที่คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญของ 3เอ็ม
"เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวโครงการ 3M Forward ทั่วโลก จากการที่เราคาดการณ์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการดำรงชีวิตของเราในขณะนี้ และแม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ 3เอ็ม เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยพลังของมนุษย์ ความคิดสร้างสรรค์ และวิทยาศาสตร์ เรามีศักยภาพอันโดดเด่นในการนำเสนอนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอันส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวันของเรา ซึ่ง 3M Forward เป็นโครงการที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของเรา” นางวิยะดา ศรีนาคนันทน์ ประธานบริหาร บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว
การบรรจบกันของโลกทางกายภาพกับโลกดิจิทัล
จากผลสำรวจดัชนีสถานะวิทยาศาสตร์ประจำปี 2566 (State of Science Index, SOSI 2023) ที่จัดทำขึ้นโดย Ipsos ซึ่งเป็นบริษัททางการวิจัย พบว่า 89% ของคนไทยเชื่อว่าบริษัทต่างๆ ต้องเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคและพนักงาน ทั้งนี้ ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและระบบที่เชื่อมโยงถึงกัน กำลังสร้างการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ที่ทำให้โลกทางกายภาพและโลกดิจิทัลมาบรรจบกัน ส่งผลให้เกิดวิถีชีวิตใหม่และรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นในสถานที่ทำงานที่ชัดเจนที่สุด คือ รูปแบบการทำงานจากบ้าน (Work From Home) หรือแบบผสมผสาน หรือไฮบริด (Hybrid Working) อันมีผลมาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
"3เอ็ม เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมไปถึงการใช้โซลูชันที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและค่านิยมที่เปลี่ยนไปของผู้คนทั่วโลก" นางวิยะดากล่าว
3เอ็ม เป็นผู้นำในการริเริ่มรูปแบบการทำงานรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นจากความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เรียกว่า “Work Your Way” ซึ่งเป็นการต่อยอดจากรูปแบบการทำงานที่ให้ความยืดหยุ่นแก่พนักงาน โดย 3เอ็ม ได้เรียนรู้ว่าพนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการทำงานนอกสำนักงาน ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และรูปแบบการทำงานดังกล่าวช่วยให้พนักงานสามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตทำงานกับชีวิตส่วนตัวได้มากขึ้น ทั้งนี้ พนักงานสามารถเลือกรูปแบบการทำงานภายใต้โมเดล Work Your Way” ได้ทั้งแบบมาทำงานประจำที่สำนักงาน แบบไฮบริด หรือแบบรีโมต รูปแบบการทำงานแบบใหม่นี้จะช่วยให้พนักงานสามารถจัดเวลาและสถานที่ทำงาน เพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะลดลงแล้ว บริษัททั่วโลกก็ยังคงใช้รูปแบบการทำงานแบบไฮบริดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากรายงานของ SOSI 2023 พบว่า 92% ของคนไทยที่ตอบแบบสำรวจ (เทียบกับ 77% จากทั่วโลก) มีความกังวลต่อหมอกควัน และมลพิษทางอากาศ 3เอ็ม ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว เราจึงได้พัฒนาโซลูชันเพื่อต่อยอดกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน อาทิ แผ่นกรองอากาศ FiltreteTM Smart HVAC Air Filter ซึ่งมีเทคโนโลยีในการดักจับสารก่อภูมิแพ้ และอนุภาคขนาดเล็ก เช่น แบคทีเรีย และไวรัส เพื่อสร้างอากาศที่สะอาดปลอดภัยภายในบ้าน
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราการเกิดกลับลดลง โดยการวิจัยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยจะเพิ่มจำนวนขึ้นถึงร้อยละ 20 ภายในปี 2574
วิทยาศาสตร์สามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรสูงอายุได้อย่างไม่ต้องสงสัย รายงานของ SOSI 2023 แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 86 ของคนไทยเชื่อว่าวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของกลุ่มประชากรสูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุด
ในขณะที่สังคมผู้สูงอายุมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น สวัสดิการและโซลูชันทางการแพทย์สำหรับผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้า ผลิตภัณฑ์ฟูทูโร่™ (Futuro™) ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดข้อต่อ โดยเรานำหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นี้ ทำให้ผู้สูงอายุใช้งานรู้สึกสบาย กระชับ และให้แรงพยุงที่เหมาะสม
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการขาดแคลนทรัพยากร การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้น และทรัพยากรธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและเร่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ผลกระทบที่เกิดขึ้นพิสูจน์ได้จากระดับดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index, AQI) ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไข จากผลสำรวจของ SOSI 2566 ในประเทศไทยพบว่าร้อยละ 89 เชื่อว่าวิทยาศาสตร์สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
ผู้บริโภคต้องการให้องค์กรต่างๆ ยกระดับการนำเสนอรายงานและมาตรฐานเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพวกเขาตระหนักว่าองค์กรจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศมากขึ้น
ในฐานะองค์กรที่สนับสนุนการผลิตและการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ 3เอ็ม มุ่งมั่นที่นำนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์มาสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ 3เอ็ม ได้นำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในการประกอบธุรกิจ เพื่อลดการใช้พลังงานคาร์บอน และยังสามารถรักษาสมดุลความต้องการในการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่โรงงานของ 3เอ็ม ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ในปี 2563 เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ รวมทั้งลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิม ซึ่งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์นี้ นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,041 ตันต่อปี ยังให้พลังงานสะอาดเพื่อยกระดับคุณภาพอากาศ ซึ่งความมุ่งมั่นดังกล่าวช่วยให้ 3เอ็ม สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า
ในขณะที่โลกเรียกร้องให้มีการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนมากขึ้น ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องมีความรับผิดชอบต่อการดำเนินธุรกิจของตน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมในระยะยาว 3เอ็ม มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า เพื่อรับมือกับเทรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การก้าวไปสู่อนาคตท่ามกลางแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก ซึ่งมาพร้อมกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่มีทีท่าว่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของทุกคน ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็นับว่าเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทุกคน ชุมชน ภาครัฐ และภาคธุรกิจ ในการเป็นผู้ออกแบบและสร้างสรรค์อนาคตในแบบที่ต้องการ