รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com
(สรุปข่าวประจำวันที่ 21 - 27 พ.ค. 2566)
อันดับ 1 : ชลน่าน-ศิธา ชกได้ชกแล้ว เพื่อไทยเปิดศึกรอบด้าน แย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ก้าวไกลต้องเปิดนัดเคลียร์ใจ
แม้การลงนามเอ็มโอยูว่าที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. แต่ก็ดูเหมือนว่ารัฐนาวาลำใหม่มีปัญหาตั้งแต่ยังไม่ลงบนผิวน้ำ เมื่อ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในงานแถลงข่าว ทำให้ นพ.ชลน่าน แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ถึงขั้นบอกกับสื่อมวลชนว่า “ผมชกได้ ชกไปแล้ว” เพราะเสียมารยาท ร่วมพิจารณาร่างเอ็มโอยูด้วยกันทำไมถึงถามเช่นนี้ แต่นายศิธาเปรยว่า กังขาบางคนด่าไม่มีมารยาทแถมจะต่อย แต่อยากเป็นประธานสภาฯ แย่งเก้าอี้ไม่อายลุง ปล่อยลูกน้องออกสื่อกันพรึ่บ
อีกด้านหนึ่ง มีการแย่งชิงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกล ที่แกนนำพรรคยืนยันว่าต้องการตำแหน่งเพื่อผลักดันกฎหมายของตนเอง หนึ่งในนั้นคือ การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 116 คดีหมิ่นประมาท แก้ไขรัฐธรรมนูญ และผลักดันหลักการรัฐสภาโปร่งใส กับพรรคเพื่อไทยที่ได้เก้าอี้ ส.ส.ไม่ห่างกัน ถึงขั้นส่งสัญญาณกันว่า หากบีบกันมากเกินไป อาจทบทวนการจับมือตั้งรัฐบาล ภายหลังพรรคก้าวไกลนัดพรรคร่วมรัฐบาลวันที่ 30 พ.ค. ที่พรรคประชาชาติ คาดว่าจะมีการหารือถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนนายพิธาเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แนะตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลไปถกกันในวงเจรจา
อันดับ 2 : เศรษฐกิจไทยระส่ำหุ้นตก สภาอุตฯ รุมกินโต๊ะนโยบายค่าแรง 450-ลาคลอดเอาเปรียบ พิธาพลิ้วอ้างรัฐบาลผสม
หลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค. พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง พบว่าตลาดหุ้นไทยร่วงลงอย่างรุนแรง จากเดิมวันที่ 12 พ.ค. ก่อนเลือกตั้ง อยู่ที่ 1,561.35 จุด จากนั้นวันที่ 15 พ.ค. ลดลงมาถึง 20 จุด อยู่ที่ 1,541.38 จุด ร่วงลงมาต่ำสุดวันที่ 19 พ.ค. อยู่ที่ 1,514.89 จุด ซึ่งพบว่านักลงทุนต่างชาติเทขาย ตามมาด้วยนักลงทุนรายย่อย ก่อนที่สัปดาห์ถัดมาจะค่อยๆ ปรับขึ้น ล่าสุดวันที่ 26 พ.ค. อยู่ที่ 1,530.84 จุด มาจากนักลงทุนสถาบันช้อนซื้อเพราะหุ้นราคาถูก โดยเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี ถึงกระนั้น แนวโน้มหุ้นระยะสั้นยังมีความเปราะบาง ทั้งปัจจัยภายในประเทศ และภายนอกจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าหารือกับผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรากฎว่าที่ประชุมตำหนิถึงนโยบายค่าแรง 450 บาทต่อวันว่า ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่งปรับขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว ไม่อยากให้เห็นภาพนายจ้างอยู่ไม่ได้ลูกจ้างก็อยู่ไม่ได้ ส่วนการลาคลอด 180 วัน ถ้าเจอลูกจ้างคลอดลูกหัวปีท้ายปี เท่ากับมาทำงานเพียง 3 เดือน การอัปสกิลหรือรีสกิลเป็นไปไม่ได้กับคนงานที่ลาคลอดไปเกือบปี หากเป็นเอสเอ็มอีที่มีคนงาน 5 คน ลาคลอดไป 1 คน อีก 4 คนแบกรับภาระก็ไม่เป็นธรรม ด้านนายพิธากล่าวว่าจะไม่ปรับขึ้นค่าแรง 450 บาททันที โดยอ้างว่าเป็นรัฐบาลผสม
อันดับ 3 : โศกนาฎกรรมหลังคาโดมถล่มพิจิตร ตาย 7 เจ็บ 18 เหยื่อวาตภัยสุดปีติ ในหลวง-พระราชินีทรงรับอุปถัมภ์เยียวยา
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. เกิดเหตุโครงหลังคาโดมซึ่งทำมาจากแผ่นโลหะ หรือเมทัลชีต ของโรงเรียนวัดเนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร พังถล่มลงมาทั้งหลัง ระหว่างเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บตก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ได้แก่ นักการภารโรง ผู้ปกครองนักเรียน 2 ราย นักเรียน 4 ราย บาดเจ็บ 18 คน หลังคาโดมดังกล่าวกว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร สูง 8 เมตร พื้นปูนมีเสาคอนกรีตเสริมเหล็กฝั่งละ 7 ต้น รวม 14 ต้น ก่อสร้างและเปิดใช้งานมาแล้วประมาณ 5 ปี ใช้เป็นลานกิจกรรมของโรงเรียนและหมู่บ้าน สนามเด็กเล่น และเป็นที่หลบแดดหลบฝนของเด็กนักเรียน สาเหตุมาจากเสาปูนหักโค่นจากบริเวณโคนเสา
หลังเกิดเหตุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโดม และพระราชทานถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค 450 ถุงแก่ผู้ประสบภัย ส่วนรัฐบาลมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พิจิตร มอบเงินช่วยเหลือผู้ไดรับผลกระทบอีกด้วย
อันดับ 4 : สรยุทธเดือดคนดู ใครแซะกูฟาดหมด รับไม่ได้กรี๊ดมันออกมา อีเจี๊ยบโพสต์แซะท็อปนิวส์เจอปอง อัญชะลีท้ากลับ
การเมืองร้อนแรงไม่เว้นแม้กระทั่งแวดวงสื่อ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กล่าวในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ระบุว่า ช่วงหลังเลือกตั้ง คอมเมนต์ก็มีหลากหลายฝั่ง ไม่ได้มีกองเชียร์พรรคก้าวไกลเยอะเหมือนเดิมแล้ว ตนชอบสวนกลับ ตั้งแต่ออกจากเรือนจำมา ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแล้ว กูฟาดหมด จะเข้ามาทำให้เกรงกลัว เกรงใจ ช่อง 3 ทำหรือไม่ทำก็ไม่ได้เดือดร้อน เงินทองก็มี แล้วมีโลกส่วนตัวของผมแบบนี้ โคตรสนุกเลย มาเลย เป็นความบันเทิงของชีวิตในช่วงบั้นปลาย เยียวยาจิตใจที่สูญเสียสุนัข วันต่อมามีผู้ชมรับไม่ได้ นายสรยุทธจึงสวนกลับไปว่า รับไม่ได้ใช่ไหม กรี๊ดเลย ไม่ต้องกลั้นเอาไว้
อีกด้านหนึ่ง เฟซบุ๊กเพจ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน อินฟลูเอนเซอร์ดังโพสต์ข้อความว่า สื่อ โดน คุม!! ประชาชนไม่รู้ความจริง หรือพี่เปิดแช่แต่ช่องทับนิวส์ เอาดีๆ เป็นที่รู้กันว่าเป็นการกล่าวพาดพิงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแห่งหนึ่ง ทำให้ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ระบุว่า รู้จักตอนตั้งเพจ สมรัก พรรคเพื่อเก้ง การโพสต์ข้อความดังกล่าว แปลว่าคนที่เขาเปิดแต่ช่องท็อปนิวส์ทั้งหมด เจี๊ยบตั้งโพสต์นี้ขึ้นมาต้องการอะไร ต้องการสื่อเรื่องอะไร บอกมาตรงๆ คนเปิดแช่ช่องท็อปนิวส์ผิดไหม ตนเคยชื่นชมมากที่เขียนเก่ง สอนผู้หญิงให้สง่างาม แต่เขียนแบบนี้ด้วยสาเหตุอะไร คิดอะไร เพื่ออะไร
อันดับ 5 : ดรามาช่างผมเชียงใหม่ โพสต์คลิปไม่ต้อนรับลูกค้าระดับรากหญ้า เจอทัวร์ลงถล่มยับ หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ดรามาร้านตัดผมเกิดขึ้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เตือนภัยพาแฟนหนุ่มไปตัดผมในตัวอำเภอ ถูกเก็บค่าบริการตัดผมชายและย้อมผมรวม 5,500 บาท ขณะที่เหยื่อโดนคิดค่าตัดผมเด็ก 2 ขวบ 1,000 บาท หรือตัดผมทรงนักเรียน 500 บาท บางรายตัดผมธรรมดาเจอเก็บ 1,200 บาท ปรากฎว่าเจ้าของร้านทำผมโพสต์คลิประบุว่าเป็นคนละร้าน พร้อมบอกว่าร้านของตัวเองไม่ต้อนรับลูกค้าระดับรากหญ้า หรือลูกค้าที่ไม่พร้อมจะจ่ายค่าบริการราคาแพง อ้างว่าเครื่องมืออุปกรณ์เป็นของดีคุณภาพสูงจากต่างประเทศราคาแพง ฝีมือและบริการระดับที่สูง ไม่ต้อนรับลูกค้าระดับล่าง
ปรากฎว่ามีชาวเน็ตทัวร์ลงจำนวนมาก ต่อว่าทัศนคติในเรื่องที่เหยียดชนชั้นฐานะ ภายหลังนายธีรยุทธ ประยูร หรือช่างโอ อายุ 50 ปี หุ้นส่วนและช่างประจำร้านพีแอนด์โอซาลอน พร้อมด้วยนายประวิณ บุญลือ อายุ 30 ปี หุ้นส่วนเจ้าของร้าน ร่วมกันนำพวงมาลัยขอโทษสังคม รู้สึกเสียใจที่คลิปดังกล่าวทำให้ถูกตำหนิอย่างหนักจากครูบาอาจารย์ช่างทำผมช่างเสริมสวยและบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพ รวมทั้งคนทั่วไปอย่างหนัก ซึ่งรู้สึกสำนึกผิดที่กระทำไปอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์และจะจดจำเป็นบทเรียนไปจนวันตาย ส่วนที่โพสต์คลิปลงไปเพราะโมโหที่ถูกเข้าใจผิดว่าร้านของตนเอาเปรียบลูกค้าจึงตอบโต้ แต่ไม่รอบคอบ
อันดับ 6 : อวสานสายแชร์ NETFLIX เริ่มบังคับใช้งานเฉพาะในบ้านเดียวกัน นอกบ้านกลายเป็นสมาชิกเสริมจ่ายเพิ่มอีก 99
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้ให้บริการ OTT เจ้าดังอย่างเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เริ่มกฎบังคับใช้ห้ามการแชร์บัญชีใช้งานนอกครัวเรือนในไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากเริ่มประกาศใช้งานในหลายประเทศช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเผชิญกับอัตราการยกเลิกใช้งานที่สูงในหลายประเทศ ทั้งนี้ การใช้งานภายในบ้านเดียว หรือระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวยังสามารถใช้งานได้อยู่ พร้อมเปิดให้จ่ายเงินเพิ่มสมาชิกเสริมได้เดือนละ 99 บาท โดยได้เริ่มส่งอีเมลไปยังสมาชิกในประเทศไทยที่แชร์บัญชี Netflix กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกัน โดยใช้การตรวจสอบบัญชีในครัวเรือนจากสมาร์ททีวีที่มีการล็อกอินใช้งานเป็นเครื่องหลัก
ส่งผลทำให้ผู้ใช้เน็ตฟลิกซ์ในไทย โดนเฉพาะบัญชีมาตรฐาน 349 บาท (ความละเอียด Full HD) ถ้ามีสมาชิกเสริม 2 คน ต้องจ่าย 448 บาท หาร 2 คน ตกคนละ 224 บาท และบัญชีพรีเมียม 419 บาท (ความละเอียด 4K+HDR) ถ้ามีสมาชิกเสริม 3 คน ต้องจ่าย 617 บาท หาร 3 คน ตกคนละ 206 บาท ก่อนหน้านี้เน็ตฟลิกซ์เปิดเผยว่า บริษัทมียอดสมาชิกลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยไตรมาส 1 ลูกค้าลดลงกว่า 2 แสนราย และไตรมาส 2 ลูกค้าลดลงกว่า 9 แสนราย ทำให้ตลอดทั้งปี 2022 มีสมาชิกลดลงกว่า 1.2 ล้านราย จึงต้องออกมาตรการทั้งการห้ามแชร์รหัสผ่าน และออกแพคเกจพ่วงโฆษณาราคาถูก
อันดับ 7 : บังยีเปิดหน้าลงชิงประมุขบอลไทย ซัดสมยศทำผลงานทีมชาติตกต่ำ เดอะ ตุ๊กลั่น 4 ปีไม่ไปบอลโลกพร้อมลาออก
วาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่เลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2563 ซึ่งมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมคนปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งมาแล้ว 2 สมัย และจะหมดวาระปี 2567 พบว่าเริ่มมีบุคคลในแวดวงกีฬาฟุตบอลเสนอตัวชิงตำแหน่งประมุขฟุตบอลไทย เริ่มจากนายวรวีร์ มะกูดี หรือบังยี อดีตนายกสมาคมฯ ประกาศตัวว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งแน่นอน โดยชี้ว่าวงการฟุตบอลไทยที่ผ่านมา ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สมยศ ซบเซา ตกต่ำ ผลงานทีมชาติไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การบริหารล้มเหลว ส่วนข้อติดขัดเรื่องคดีตัดสินไปแล้ว จะยื่นร้องต่อศาลให้คุ้มครองอีกครั้ง
ด้าน น.อ.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หรือเดอะตุ๊ก อดีตนักฟุตบอลกองหน้าทีมชาติไทย ประกาศลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ หากสมาชิกให้การสนับสนุน พร้อมสัญญาว่าถ้าเข้าไปแล้วภายใน 4 ปี ทีมชาติไทยไม่ได้ไปฟุตบอลโลก ตนจะลาออกไปทำหน้าที่อื่น ตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง แต่เข้ามาเพื่อต้องการพัฒนาและสร้างวัฒนธรรมฟุตบอลอย่างจริงจัง ถูกต้อง เที่ยงตรง และโปร่งใส ตรวจสอบได้ อนึ่ง ก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้คณะกรรมการการเลือกตั้ง 5 คน ได้แก่ นายชนินทร์ แก่นหิรัญ นายกฤตเมต เอ่งฉ้วนธาดา นายสิทธิพร เศาภายน พล.ท.กิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน และ พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์