วิจารณ์สนั่นหลังวันเลือกตั้ง โรงงานผลิตเครื่องเสียงรถยนต์ ในนิคมโรจนะ อยุธยา ปลดพนักงาน 400 อัตรา เหตุขาดแคลนวัตถุดิบกับซัพพลายเออร์ปิดตัวลง ด้านเพจที่เกี่ยวกับแรงงานวิเคราะห์ รีบเลิกจ้างตอนนี้ ใช้ฐานค่าจ้างปัจจุบันแน่นอนกว่า ถ้าวันหน้ามีการปรับขึ่้นค่าแรง ต้องจ่ายเพิ่มอีกมาก
วันนี้ (20 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก "หนุ่มสาวนิคมโรจนะ อยุธยา" โพสต์ข้อความระบุว่า "เกิดอะไรขึ้น กับโรงงานผลิตเครื่องเสียงรถยนต์ ในนิคมโรจนะอยุธยา #ปลดพนักงาน400อัตรา" โพสต์ต่อมาเป็นโพสต์อำลา กลายเป็นที่วิจารณ์แก่ชาวเน็ตจำนวนมาก
สำหรับโรงงานผลิตเครื่องเสียงรถยนต์ดังกล่าว คือ บริษัท ไพโอเนียร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ สำหรับยานยนต์ มีลูกจ้าง 1,549 คน ประกาศเลิกจ้าง 411 คน เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบกับซัพพลายเออร์ปิดตัวลง โดยการจ่ายเงินชดเชยของบริษัท เป็นการจ่ายแบบเช็คธนาคารกับลูกจ้างทุกคน และเงินค่าจ้าง ค่าวันลาพักร้อน นายจ้างจะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของลูกจ้างภายในวันที่ 19 พ.ค. 2566 ประมาณ 97 ล้านบาท
ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า ตนห่วงใยลูกจ้างทุกรายและสั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประสานหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นฐานของบริษัทดังกล่าว ให้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือ เช่น การหางานใหม่ การฝึกอาชีพ เป็นต้น
ส่วนเฟซบุ๊กเพจ "แรงงานเพื่อสังคม" โพสต์ข้อความระบุว่า "ตกงานทันที ... วันนี้ขอแสดงความเสียใจ กับลูกจ้างกว่า 400 คน ในพื้นที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากกรณีการถูกเรียกไปให้พ้นสถานะความเป็นลูกจ้างในวันนี้ ขอให้ทุกคนดูเรื่องเอกสารต่างๆ ดีๆ นะครับ อย่าเซ็นอะไรง่ายๆ ให้คิดถึงสิทธิ์ อันพึงได้รับตามที่กฎหมายกำหนดด้วย
กลุ่มแรงงานเพื่อสังคมขอส่งกำลังใจให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกท่านในวันนี้ให้ก้าวผ่านความรู้สึกอกหักผิดหวังจากการถูกเลิกจ้างในครั้งนี้ไปได้ด้วยดีนะครับ เบื้องต้นทางเพจได้ดำเนินการประสานทุกภาคส่วนงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้เข้าช่วยเหลือโดยทันที
บริษัทนี้มีแนวโน้มจะเลิกจ้างพนักงานอยู่แล้ว แต่การเลิกจ้างในครั้งนี้จะใช้ฐานค่าจ้างปัจจุบันซึ่งจะประหยัดกว่า หากรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วประกาศค่าแรงตัวใหม่แบบทันทีต้นทุนในการเลิกจ้างก็จะมากขึ้นกว่าปกติอาจเป็นเหตุผลนี้ทำให้เขาตัดสินใจเลิกจ้างในวันนี้"
นอกจากนี้ ยังตอบคำถามชาวเน็ตรายหนึ่งที่ถามว่า "ไหนบอกเองว่าได้ข่าวตั้งแต่ก่อนปีใหม่ แล้วเกี่ยวอะไรกับผลการเลือกตั้ง และค่าแรง 450" ซึ่งอาจจะหมายความถึงนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวัน
โดยระบุว่า "ผมรู้มาก่อน รู้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนสิ้นปีแล้วครับ และผมก็รู้ว่าทำไมเค้ายังคงจ้างลูกจ้างกลุ่มนี้อยู่ และยังรู้ว่าเค้ายังจำเป็นต้องจ้างอยู่ต่อ เพราะเขายังมียอดการผลิตที่จะต้องผลิตส่งลูกค้าตามสัญญาคู่ค้าทางธุรกิจระหว่างบริษัทอยู่
แต่การตัดสินใจในครั้งนี้เพื่อลดต้นทุนในการจ่ายค่าชดเชยในอนาคต เพราะต้องเลิกจ้างอยู่แล้วและต้องจ่ายเงินตามกฏหมายอยู่แล้ว จ่ายตอนนี้ในปัจจุบัน เป็นตัวเลขการจ่ายที่แน่นอนครับ แต่ถ้ารออนาคตหากมีการปรับเพิ่มค่าจ้างจริงต้องจ่ายเพิ่มอีกจำนวนมาก นั้นคือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจเลิกจ้างในวันนี้ เพราะมันลดต้นทุนในการเลิกจ้างได้อย่างชัดเจน"