xs
xsm
sm
md
lg

“มีนโยบายลดผลกระทบจากอุตสาหกรรม” นักวิชาการ วิเคราะห์ปัจจัย “ก้าวไกล” ปักธงส้มพื้นที่ภาคตะวันออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานพิเศษ

ผลการเลือกตั้ง 2566 อย่างไม่เป็นทางการ ที่ “พรรคก้าวไกล” ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 คือ 152 ที่นั่ง แบ่งเป็น ส.ส.เขต 113 ที่นั่ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 39 ที่นั่ง ถือว่าหักปากกาเซียนทุกสำนักที่ก่อนหน้านี้ สำนักโพลต่างๆ ล้วนเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะได้อันดับที่ 1

ที่ชัดเจนคือ กระแสพรรค ซึ่งพรรคก้าวไกล ได้คะแนนในระบบัญชีมากที่สุดในทุกพื้นที่ แต่ถ้ามองในระบบ ส.ส.แบบแบ่งเขต ก็จะเห็นว่า มี 3 พื้นที่หลักที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งแบบเห็นน้ำเห็นเนื้อ คือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) พื้นที่ภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน ตาก) และพื้นที่ภาคตะวันออก

ที่น่าสนใจและควรนำมาวิเคราะห์ คือ พื้นที่ภาคตะวันออก ที่จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ซึ่งผู้สมัครพรรคก้าวไกลชิงเก้าอี้มาได้ทุกจังหวัด ยกเว้นที่ สระแก้ว และนครนายก ที่พรรคก้าวไกลไม่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่ง 8 จังหวัดนี้ มีเก้าอี้ ส.ส. รวมกัน 31 ที่นั่ง พรรคก้าวไกลชนะไปถึง 18 เขต ทั้งที่เป็นเขตทั้งบ้านใหญ่และบ้านใหม่ ที่มีคนครองพื้นที่เดิมมาอย่างยาวนาน

ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมจากกลุ่ม EEC WATCH ซึ่งคลุกคลีอยู่กับปัญหาผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก มองว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกล สามารถปักธงที่ภาคตะวันออกได้ คือ การมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนกว่าพรรคอื่น เพราะประชาชนในภาคตะวันออกคือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการที่ถูกใช้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน จนเกิดการรวมตัวรวมกลุ่มเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ปัญหาของพวกเขามาโดยตลอด และผู้สมัครของพรรคก้าวไกลหลายคน ก็เป็นตัวแทนของประชาชนกลุ่มนี้มาก่อน

“จากการสัมผัสพื้นที่อยู่ตลอด ผมคิดว่า พรรคก้าวไกล เป็นพรรคเดียวที่เสนอนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนในพื้นที่นี้ คนที่นี่เขาได้รับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมมามากทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งการต้องทนอยู่กับมลภาวะจากอุตสาหกรรม ถูกเวนคืนที่ดินไปให้กับโครงการ EEC (โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) มีโครงการถมทะเลรองรับ EEC มีมลพิษจากโรงงานรีไซเติล มีเหตุน้ำมันรั่วในทะเลหลายครั้ง

และที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มแรงงาน กลุ่มประมง กลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่อที่ดินทำกิน หรือแม้แต่คนที่มีปัญหาเรื่องช้าง คนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ก็รวมตัวกันเรียกร้องการแก้ปัญหาจากรัฐบาลมาตลอด แต่พรรคการเมืองที่เคยมี ส.ส.อยู่ในพื้นที่ ก็มักจะไม่พูดถึงเรื่องเหล่านี้ ไม่มีนโยบายหรือมาแก้ปัญหาก็ทำแบบขอไปทีให้จบไป เช่น การทำให้น้ำมันรั่วจมลงก้นทะเลและมากินอาหารทะเลโชว์แต่กลับปล่อยให้ประชาชนต้องรวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเอกชนเอง และยังกลับจะไปยกเลิกการประกาศพื้นที่อุตสาหกรรมเป็นเขตควบคุมมลพิษอีก

ผมเป็นนักวิชาการสิ่งแวดล้อม ซึ่งพรรคก้าวไกลเข้ามาขอคำปรึกษา และทำออกมาเป็นนโยบายที่ผมคิดว่า ทำให้ประชาชนในภาคตะวันออกพอจะมองเห็นทางออก เพราะมีนโยบายจะออกกฎหมายหลายฉบับที่ร่างไว้แล้ว เช่น จะแก้กฎหมาย EEC ให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่ถูกยึดที่ดินไป มีนโยบายจะผลักดันกฎหมายบังคับให้ภาคอุตสาหกรรมต้องเปิดเผยข้อมูลการปล่อยมลพิษ (PRTR) หรือแม้แต่การประกาศจะไม่ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ ซึ่งล้วนเป็นนโยบายที่ประชาชนในภาคตะวันออกรอมานาน จึงเป็นไปได้ว่า นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้งในพื้นที่นี้ เพราะพรรคอื่นไม่เคยประกาศนโยบายเหล่านี้เลย”

สำหรับที่นั่ง ส.ส.ของพรรคก้าวไกลประกอบด้วย ชลบุรี 7 เขต (จาก 10 เขต) ระยอง 5 เขต (ยกจังหวัด) จันทบุรี 3 เขต (ยกจังหวัด) ตราด 1 เขต (ยกจังหวัด) ปราจีนบุรี 2 เขต (จาก 3 เขต) และฉะเชิงเทรา 1 เขต (จาก 4 เขต)

ดร.สมนึก ยังย้ำว่า การที่นโยบายและผู้สมัครของพรรคก้าวไกลสามารถปักธงในพื้นที่ภาคตะวันออกได้มาก ก็ถือเป็นโจทย์สำคัญของพรรคก้าวไกลเช่นกัน เพราะประชาชนภาคตะวันออกต่างก็ตั้งความหวังให้พรรคก้าวไกลผลักดันให้นโยบายหรือการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆเกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรมและไม่ช้าเกินไป ซึ่งต้องยอมรับด้วยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะแก้ไขกฎหมายเหล่านี้ล้วนแต่จะต้องไปกระทบกับระบบราชการเดิมและกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก

“การเป็นพรรคที่มีนโยบายชัดเจนจะลดผลกระทบจากอุตสาหกรรมและปกป้องสิ่งแวดล้อมกับคนในพื้นที่ น่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ก้าวไกลเกิดได้ในภาคตะวันออก แต่โจทย์จากนี้ไปก็ไม่ง่ายครับ เพราะอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกล้วนแต่เป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ทำให้รัฐบาลทุกสมัยต้องเกรงใจและอาจจะต้องเอาใจด้วยซ้ำด้วยข้ออ้างเรื่องการส่งเสริมการลงทุน แต่ก็เชื่อว่า ถ้าพรรคก้าวไกล สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและมีแนวทางที่จะทำให้อุตสาหกรรมอยู่กับประชาชนได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อน ก็จะเป็นโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะครองพื้นที่นี้ได้ต่อไป” ดร.สมนึก กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น