รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com
(สรุปข่าวประจำวันที่ 8 - 13 พ.ค. 2566)
อันดับ 1 : 14 พฤษภาฯ ชี้ชะตาประเทศไทย ประยุทธ์หวั่นสิ่งไม่คาดคิด อุ๊งอิ๊งเผยพ่อยอมติดคุก พิธาขอไม่มาก 2 สมัยพอ
ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566 มีการปราศรัยทิ้งทวนของพรรคใหญ่ 8 จุด เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เห็นความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำในสังคมแล้ว สะเทือนใจและเจ็บปวด หากไม่รักกัน ไม่ช่วยกัน สิ่งต่างๆ ที่เราไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น ซึ่งยอมรับไม่ได้ คนไทยทุกคนต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ทุกนโยบายที่หาเสียงไว้สัญญาว่าจะทำให้สำเร็จ เพราะไม่มีภาระหรือธุรกิจใดๆ มีภารกิจสุดท้ายในชีวิต คือตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญให้ประเทศไทย
ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องการแสวงหาโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร บิดากล่าวกับตนว่า ถ้าพ่อกลับมาติดคุก ระหว่างพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อยากจะใช้มันสมองช่วยคนไทยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้ ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า คำตอบสุดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดิน เดินหน้าทำตามความฝันของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เป็นจริง ขอไม่มาก ทำตามสัญญาเป็นนายกฯ 2 สมัยก็พอ ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า วันนี้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแยกแยะได้ เชื่อว่าประชาชนจะเห็นการทำงานของพรรคตลอด 4 ปีที่ผ่านมาว่าพูดแล้วทำ
อันดับ 2 : หุ้นไอทีวีชนักติดหลังพิธา เรืองไกรยื่น กกต.สอบหุ้นสื่อฯ พิธาอ้างกองมรดก บุญยอดเปิดบัญชีทรัพย์สินไม่พบ
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งสถานะนิติบุคคลยังดำเนินกิจการอยู่ มีรายได้ปี 2565 รวม 21 ล้านบาท และมีรายได้ปี 2564 รวม 24 ล้านบาท จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต.ตรวจสอบว่า เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ แต่นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีความกังวล เพราะไม่ใช่หุ้นของตน เป็นของกองมรดก ตนเป็นเพียงผู้จัดการมรดกและได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไปนานแล้ว
ขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติ มีขั้นตอนตามกฎหมายอยู่ 3 ช่วง คือ ก่อนวันเลือกตั้ง หลังวันเลือกตั้ง และประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งต้องยื่นต่อศาลฎีกาพิจารณา แต่เมื่อไม่ทันก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส.ไปก่อน จากนั้นจะดำเนินการหลังประกาศผล ผ่านการเข้าชื่อของ ส.ส. ส.ว. หรือ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ ต้องให้ความเป็นธรรมและข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ ส่วนนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า ข้อมูลบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา เมื่อปี 2562 พบว่ามีเงินฝาก 32 บัญชี เงินลงทุน รวม 45 รายการ ไม่ปรากฎหุ้นไอทีวีแต่อย่างใด
อันดับ 3 : ใบเตย-ดีเจแมนติดคุก วืดประกันคดีฟอเรกซ์ ศาลชี้ทำผิดหลายกรรม เสียหายมหาศาล เจ้าตัวเครียดนอนไม่หลับ
คดีแชร์ลูกโซ่ฟอเรกซ์ ทรีดี ที่นักร้องลูกทุ่งสาวเซ็กซี่ ใบเตย-สุธีวัน กุญชร และ ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร สองสามีภรรยา ถูกจับตามองมานาน ในที่สุดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ใบเตยและดีเจแมน เข้าพบพนักงานอัยการเพื่อฟังคำสั่งในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ รวม 3 ข้อหา ต่อมาคณะทำงานสำนักงานคดีพิเศษ แจ้งคำสั่งฟ้องในคดีนี้กับผู้ต้องหา ได้แก่ นายพัฒนพล น.ส.สุธีวัน นายฉัตรชัย คชชิน นายธีร์ภัสกร กิมวังตะโก นายสุรนาถ นาคมุสิก และนายอายุวัต ชัยเมธนรากูล รวม 6 คน ก่อนยื่นฟ้องต่อศาลอาญา
ต่อมาผู้ต้องหา 5 คนยื่นขอประกันตัว แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกับพวกกระทำความผิดหลายกรรม ลักษณะการกระทำเป็นขบวนการอันมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ส่งผลเสียเป็นวงกว้าง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนีไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวจำเลยไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป ด้านโฆษกกรมราชทัณฑ์ระบุว่า ใบเตยเครียดเล็กน้อย นอนไม่หลับ ส่วนดีเจแมนรับประทานอาหารได้ นอนหลับพักผ่อนได้ ไม่มีสภาวะความเครียด
อันดับ 4 : ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด แฉลัทธิประหลาด หมดเงิน 100 ล้าน ด้านครูอ้อย เข็มทิศ ฟาดกลับขู่ฟ้องแน่
ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต หรือ ฐิตินาถ ณ พัทลุง กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ นักแสดงสาวใหญ่ เปิดเผยทั้งน้ำตาในรายการแฉ ทางช่อง GMM 25 เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เรื่องลัทธิหนึ่ง ที่เคยหลงเชื่อ นำเอาเรื่องธรรมอันสูงส่งมาใส่หัวจนเชื่อและยอมทำตามทุกอย่าง ใครเตือนใครห้ามก็ไม่ฟัง ไม่คบเพื่อน มีแฟนก็เลิก ทำหมดเนื้อหมดตัว 100 ล้านบาท แถมได้หนี้อีก 50 ล้านบาท ตอนนี้ตาสว่างแล้ว ทำคนโยงไปว่าน่าจะเป็นเข็มทิศชีวิต ที่ตุ๊ยตุ่ยเคยสนิทกับครูอ้อยแม้แต่นักแสดงหนุ่ม อะตอม สัมพันธภาพ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่าครั้งหนึ่งตนก็เคยหลงเชื่อและเสียเงินให้ครูอ้อยเหมือนกัน
ปรากฎว่าหลังจากมีข่าวปล่อยในโซเชียลฯ ว่า ครูอ้อยถูกออกหมายจับ ครูอ้อยออกมาตอบโต้พร้อมกล่าวว่า เตรียมดำเนินคดีเพจปลอมและคนอยู่เบื้องหลัง ขณะเดียวกัน ครูอ้อยก็ซัดกลับตุ๊ยตุ่ยว่าเคยให้เงิน แล้วยังอยู่ฟรี กินฟรี เรียนฟรี พร้อมขอหลักฐานว่ามีเงิน 100 ล้านบาทตอนไหน ส่วนหนี้ 50 ล้านบาท ก็ไม่เกี่ยวกับตน เพราะเจ้าตัวไปซื้อคอนโด 40 ล้านบาท ปี 60 ตนเป็นขอเลิกคบเอง ก่อนที่จะบอกว่าฟ้องแน่ ด้านตุ๊ยตุ่ยออกรายการ โต๊ะแชร์ มหาชน แฉลัทธิดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งไก่ สมพล กล่าวว่า หลังจากที่เขาไปตรงนั้น เขาก็ได้หายไป เขาก็ดูเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้เขากลับมาแรงกว่าเดิม แบบนี้แหละที่เราชอบ
อันดับ 5 : ศรีสุวรรณโดนต่อยรอบสอง เลือดซิบริมฝีปาก ชายแก่มือต่อยอ้างฟ้องไม่เข้าเรื่อง พบภาพโผล่เพื่อไทยและก้าวไกล
เจอเป็นครั้งที่สองสำหรับนักร้อง (เรียน) ชื่อดัง ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เมื่อจู่ๆ ถูกชายสูงวัย ทราบชื่อภายหลังคือ นายทศพล ธนานนท์โสภณคุณ อายุ 67 ปี ต่อยที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. หลังไปชี้แจงและยื่นเอกสารเพิ่มเกี่ยวกับนโยบายการแจกเงินดิจิทัลแก่ประชาชนรายละ 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย ทำให้นายศรีสุวรรณมีแผลเลือดไหลที่ริมฝีปาก นายทศพลอ้างว่า ฟ้องไม่เข้าเรื่อง ไปฟ้องทำไม พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ไปฟ้อง นายพิธา ทำไม เขาจะมีเลือกตั้งอยู่แล้ว และมีคำหยาบคายหลายคำ
ต่อมานายศรีสุวรรณเข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ในข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมเตรียมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 1 ล้านบาท และตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมาบริเวณที่ยืนร้องเรียนหลายครั้ง แสดงว่ามีเจตนาที่จะหาโอกาสทำร้ายตน ส่วนนายทศพลพร้อมสู้คดี อ้างว่าไม่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุแค่สั่งสอน อย่างไรก็ตาม ได้มีภาพนายทศพลถ่ายคู่กับนายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ ปรากฎผ่านโซเชียลฯ ต่อมามีภาพนายทศพลไปโผล่ที่เวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทย นายศรีสุวรรณตั้งข้อสังเกตว่า มีคนอยู่เบื้องหลังหรือไม่
อันดับ 6 : โบว์ เบญจวรรณ ถูกก๊อต จิรายุ บอกเลิก เจ้าตัวตอบคนสนิท กลายเป็นคนผิดเพราะไม่ได้เป็นแบบที่เขาต้องการ
เรื่องช็อกในวงการบันเทิง เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นักแสดง นางแบบหญิงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ เปิดเผยในรายการแฉ ทางช่อง GMM25 ว่า เพิ่งโทรศัพท์เคลียร์กับก๊อต จิรายุ ตันตระกูล นักแสดงหนุ่มลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน ที่คบหากันมายาวนานร่วมกว่า 10 ปี ถามไถ่ความสัมพันธ์ล่าสุดเพราะต้องไปออกรายการ ก๊อตยืนยันว่าขอเลิกกันอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ห่างกันมาตั้งแต่ทริปไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน หลังกลับถึงเมืองไทยฝ่ายชายก็เปลี่ยนไป บอกว่าขอห่างกันสักพัก ตนแอบหวังว่าจะแค่ห่างกัน ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ด้วยซ้ำ ยอมรับว่าแม่รู้เรื่องนี้ และอึ้งมาก ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้
ด้านน้องสาวคนสนิทออกมาโพสต์ไอจีพร้อมแท็กก๊อต จิรายุ ถามว่าโอเคไหม เจ้าตัวตอบทำนองว่าไม่อยากอธิบายในสิ่งที่ผู้ฟังไม่อยากได้ยิน เพราะเปล่าประโยชน์ ซึ่งตนไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ และถ้อยคำไม่เป็นที่น่าพอใจ พร้อมเปรียบตัวเองเหมือนตึกใหญ่ถูกกัดกร่อนจากหลายส่วน จนโครงสร้างรับไม่ไหว ซึ่งการอธิบายเหตุผลให้กับคนนอกมีแต่จะทำลายเราทั้งสองคน เพราะไม่มีทางเข้าใจเรื่องส่วนตัวที่สะสม ตนกลายเป็นคนผิดในสายตาเขา พียงเพราะเราไม่เป็นไปในแบบที่เขาต้องการจะให้เป็น เขาจะพอใจก็ต่อเมื่อเราเป็นแบบที่เขาต้องการ ทิ้งท้ายด้วยจำไว้ว่า ความจริงที่เขาจินตนาการขึ้นมา ไม่ใช่ความจริงของเรา
สำหรับก๊อต จิรายุ กับโบว์ เบญจวรรณ คบหากันมายาวนานร่วมกว่า 10 ปี แต่มีสัญญาณว่าเลิกกันตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 เมื่อโบว์ ลบรูปคู่ก๊อตออกจากไอจี ส่วนก๊อตประกาศขอหายไปจากโซเชียลฯ แต่ผู้จัดการส่วนตัวอ้างว่าไปปฏิบัติธรรม
อันดับ 7 : สลดชิ้นส่วนทางยกระดับ ร่วงลงถนนพระรามที่ 2 ตาย 1 การทางพิเศษฯ ล้อมคอกเพิ่มโทษอุบัติเหตุปรับ 1 ล้าน
อุบัติเหตุซ้ำซาก เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 7 พ.ค. ชิ้นส่วนทางยกระดับหรือเซกเมนต์ (Segment) โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก หล่นลงมายังถนนพระรามที่ 2 กิโลเมตรที่ 5+800 หน้าห้างอินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้นายวรวุฒิ พานนนท์ อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นคนงานเสียชีวิตจากการถูกเซกเมนต์ทับ บาดเจ็บ 1 ราย คือ นายพลากร วงษ์นอก และมีรถยนต์เสียหาย 5 คัน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สาเหตุเกิดจากบาร์ที่ใช้ยึด (Lifting frame) ขาด จึงทำให้เซกเมนต์หล่นลงพื้น
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษฯ สั่งให้หยุดก่อสร้าง 7 วันเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย และช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเต็มที่ ส่วนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ระบุว่า ผู้เสียชีวิตจะมีเงินชดเชยจากประกันสังคม 1,213,669 บาท ต่อมาการทางพิเศษฯ สั่งปรับเงินวันละ 30 ล้านบาท รวม 210 ล้านบาท แก่บริษัท ทิพากร จำกัด ซึ่งรับผิดชอบโครงการที่เกิดเหตุในนามกิจการร่วมค้า ซีทีบี และเตรียมยกเครื่องระบบความปลอดภัย รวมถึงบทลงโทษที่สูงขึ้น อาทิ กรณีเกิดอุบัติเหตุอาจมีการปรับ 1 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความรัดกุมรอบคอบในการปฏิบัติงาน