คนเป็นแม่ใจสลาย หลังลูกชายวัย 4 ขวบป่วยตาบอดเฉียบพลัน คาดมาจาก "ภาวะความดันในสมองสูงแบบเฉียบพลัน" ล่าสุดกลับมามองเห็นได้ 70% วอนผู้ใจบุญเข้าช่วยเหลือ ไม่อยากให้น้องกลับไปมองไม่เห็นอีก
เรื่องราวสุดเศร้าที่กำลังได้รับความสนใจในโลกโซเชียลขณะนี้ หลังผู้ใช้ "TikTok" รายหนึ่งออกมาแชร์เรื่องราวของลูกน้อยตนเองที่ชื่อว่า น้องภูผา เด็กชายวัย 4 ขวบ 3 เดือน ที่สูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหัน ซึ่งคาดกันว่ามาจากภาวะความดันในสมองสูงแบบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก คิดเป็นประมาณ 1 ในแสนคนเท่านั้น แม่ของน้องภูผาได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านติ๊กต็อกระบุว่า
"19 พ.ย. 2565 เป็นวันที่คนเป็นแม่ใจสลาย เพราะจู่ๆ พี่ภูผาก็ตาบอดเฉียบพลัน ทั้งๆ ชีวิตของเขา เขามองเห็นมาทั้งชีวิต จู่ๆ มาตาบอดมองไม่เห็น โลกที่สดใสกลับกลายเป็นมืดหม่นไปหมด
วันที่ 22 พ.ย. 2566 น้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นี่คือการเข้าทำ MRI เข้าอุโมงค์เพื่อตรวจหาก้อนเนื้องอกในสมอง และตรวจดูเส้นประสาทหาสาเหตุว่าทำไมน้องถึงมองไม่เห็นเฉียบพลันขนาดนี้ น้องโดนวางยาสลบไป 8 โดส แต่น้องต้านยามาก ไม่ยอมหลับเลย น้องกลัวไปหมด อาจเป็นเพราะน้องมองไม่เห็นด้วยแหละน้องถึงต้านยาทุกอย่าง สรุปคือเข้าทำ MRI ไม่ได้เพราะน้องไม่ยอมหลับเลย
หลังกลับมาจากการทำ MRI อาการหลังโดนยาสลบ น้องมีอาการเบลอยาสลบ อารมณ์รุนแรงมาก น้องทำร้ายแม่ เอาแรงมาจากไหนก็ไม่รู้ ผลักแม่จนหัวไปฟาดกับขอบประตู ทั้งกัด ต่อย ถีบแม่สารพัด ปกติน้องจะไม่ทำร้ายแม่นะคะ น้องจะเป็นห่วงแม่มากๆ เพราะกลัวแม่จะเจ็บ แต่ที่ทำลงไปอาจเป็นเพราะฤทธิ์ยา สงสารจับใจเลย ใจแม่จะขาดอยู่แล้ว ลูกเอ๋ย
ไม่รู้เขาไปเอากำลังใจมาจากไหน กำลังใจพี่ภูผาดีมาก ไม่เคยโวยวายเลยสักครั้งว่าตัวเองมองไม่เห็น เมื่อไหร่ที่นางรับรู้ได้ว่าแม่ร้องไห้ นางจะพูดเสมอว่า...แม่ไม่ต้องร้องนะเดี๋ยวหนูก็หายแล้ว เดี๋ยวหมอก็เปลี่ยนดวงตาใหม่ให้หนูแล้ว #คำพูดของเด็ก 4 ขวบ 2 เดือน"
อย่างไรก็ตาม แม่ของน้องได้ออกมาอัปเดตอาการน้องล่าสุดว่า คนเป็นแม่ที่อยากให้ลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ไปทำทุกวิถีทาง ทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ ตลอดระยะเวลาการรักษาหลายเดือนที่ผ่านมาเริ่มมีหวังเพราะน้องเริ่มกลับมามองเห็นแล้ว แต่เห็นได้ประมาณ 70% เท่านั้น แต่ที่กังวลใจเพราะกลัวว่าน้องจะกลับไปมองไม่เห็นอีก จึงอยากวอนให้ผู้ใหญ่ที่ใจบุญหรือผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือน้องให้หายขาด 100% เพราะไม่อยากให้น้องกลับไปมองไม่เห็นอีก