เตือนใจการใช้พลังคนรุ่นใหม่ บาดแผลในประวัติศาสต์จีนยุค “เรดการ์ด” นำโดย “แก๊งสี่คน” สมัชชาของพรรคคอมมิวนิสต์ยุค “เติ้งเสี่ยวผิง” ได้ระบุว่าเป็นทศวรรษที่มืดดำ มิได้นำไปสู่การสร้างสรรค์ที่เหมาะสมของการสร้างชาติจีนใหม่
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ในเฟซบุ๊ก Mee Nabon ของนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรรายการ “สภากาแฟ สภาประชาชน” ทางช่อง NEWS1 มีการโพสต์ข้อความว่า “พลังของดรุณีนั้นงดงามเสมอ แต่หากมีการใช้อย่างไร้วุฒิภาวะและขาดเมตตาธรรมของผู้นำ บาดแผลในประวัติศาสต์ของการสร้างชาติจีนใหม่ พลังคนหนุ่มสาวมีการนำไปใช้สร้างสรรค์หรือทำลาย สมัชชาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเวลาต่อมายุคเติ้งเสี่ยวผิงได้บันทึกเอาไว้ว่าเป็นทศวรรษที่มืดดำ มิได้นำไปสู่การสร้างสรรค์ที่เหมาะสมของการสร้างชาติจีนใหม่!”
ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กดังกล่าวยังได้มีการแชร์ข้อความที่โพสต์ไว้ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2563 ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวที่นายยุทธิยงเดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดบรรพบุรุษที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีเนื้อความดังนี้
“ผมเองโชคดีมีโอกาสเดินทางไปจีนเมื่อ 20 ปีผ่านมาแล้วเข้าไปในชนบทของเมืองฟุโจวซึ่งเป็นบ้านเกิดของปู่ เห็น"โรงงิ้ว"ซึ่งเป็นเวทีแสดงอุปรากรจีน โรงอุปรากรงิ้วของหมู่บ้านซึ่งมีอายุไม่น้อยกว่า 600 ปีก่อนการปฏิวัติวัฒนธรรม โรงงิ้วของหมู่บ้านถูกรื้อทุบทำลายจากขบวนการเรดการ์ดเยาวชนในยุคเจียงชิง แก๊งสี่คน
ผมเก็บคำถามจากเมืองไทยในฐานะนักประวัติศาสตร์ที่สนใจพัฒนาการการสร้างชาติจีนใหม่ช่วงสมัยของเหมาเจ๋อตุง เก็บคำถามเพื่อไปถามน้าที่อาศัยอยู่ในอำเภอกู่เถียน ของฟุโจว ซึ่งผมเรียกท่านว่า "อาหงู" แปลว่าน้าชาย
เห็นรูปที่ฝาบ้านและในอัลบั้มถ่ายรูปกันไว้ เมื่อตอนที่อาหงู เขาอายุ
18-19 ปี "อาหงู"ได้อยู่ยุคสมัยและร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองในขบวนการของกลุ่มเรดการ์ด ยุคแก๊งสี่คน ปัจจุบันอาหงูท่านเองถือว่าเป็นคนหนุ่มสาวที่ได้เรียนหนังสือในระดับวิทยาลัยของประเทศจีนในยุคของเหมาสร้างชาติจีนใหม่ เมื่อจบการศึกษา"อาหงู" ก็ได้เข้าทำงานรับราชการในรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าของเมืองฟุโจว ดูแลทำงานในรัฐวิสาหกิจระบบไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อนใหญ่แม่น้ำหมิง
ในช่วงอาหารมื้อเย็น หลังทานอาหารมื้อเย็นกันเสร็จ เราก็นั่งคุยกันหลายเรื่อง มีการซักถามถึงความเป็นไปของญาติที่เมืองไทย หลังจากสนทนาไปได้สักพัก ผมก็วกมาสนทนาให้อาหงูช่วยเล่าเรื่องอดีตของสังคมจีนช่วงยุคแก๊งสี่คน
อาหงูดูเหมือนน้ำเสียงสนทนาเปลี่ยนไป มีแววตาหมองลง น้ำเสียงความจริงจังของอาหงู เหมือนจะบอกผมว่าเปลี่ยนเรื่องสนทนาไปเรื่องอื่นเถิด ไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมยุคสมัยแห่งเรดการ์ด
ท่านตอบผมว่า "จีนผ่านบาดแผลที่ปวดร้าวทางสังคมมาแล้ว" "ขอให้ผมอย่าได้ถามหรือสนทนาเรื่องนี้เลย" ผมเองก็อ่านจิตใจอาหงูออกว่าขออย่าได้สนทนาถึงเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องที่เป็นความผิดพลาดทางการเมืองของยุคสมัยเมื่อครั้งวัยรุ่นของพวกเขา ที่มีแก๊งสี่คนของจีนใช้พลังคนหนุ่มสาวในยุคนั้นเขย่าสังคมจีนแบบแข็งกระด้าง
และหลังอาหารมื้อเย็นของวันนั้น ผมจึงต้องเปลี่ยนเรื่องสนทนากัน!”