เปิดนโยบาย “ณัฏฐ์ มงคลนาวิน” เบอร์ 11 พรรคภูมิใจไทย ผู้สมัคร ส.ส.”ทรานส์แมน” คนเดียว ตัวแทนสร้างความเท่าเทียมในสังคม เดินหน้าใน 6 เดือน ผลักดันสมรสเท่าเทียมวาระ 2 พร้อมอาสารับใช้คนพื้นที่ เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง-สุขภาพ ตามนโยบาย “พูดแล้วทำ” เดินรถเมล์ไฟฟ้า ขุดอุโมงค์เข้าสนามบิน ปูทางปั้นดอนเมืองสู่ “จุดสุดท้ายก่อนการเดินทางกลับของนักท่องเที่ยว ใช้ Tourism Economy กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
ณัฏฐ์ มงคลนาวิน ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง เบอร์ 11 พรรคภูมิใจไทย ในฐานะทรานส์แมน หรือชายข้ามเพศ เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ในการลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้ว่า ทางพรรคภูมิใจไทยได้มอบหมายให้ตนเองเป็นตัวแทนพรรคในการเรียกร้องเรื่องความเท่าเทียมกันของคนในสังคมปัจจุบันที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการสมรสเท่าเทียม ซึ่งตนเองเป็นทรานส์แมน หรือชายข้ามเพศ ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคในการเร่งผลักดันให้สมรสเท่าเทียมเป็นวาระที่ 2 ภายใน 6 เดือน หลังจากผ่านวาระแรกมาแล้ว ไม่ต้องเข้าสู่การเริ่มต้นใหม่ โดยหากผลักดันได้สำเร็จคาดว่าในช่วงต้นปีหน้าจะสามารถสมรสได้เท่าเทียมกันทุกคน
ขณะเดียวกัน ยังจะผลักดันในเรื่องการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อให้เกิดขึ้นจริงโดยเร็วด้วย เพราะทุกวันนี้ตนเองก็ประสบปัญหาเรื่องนี้อยู่มากเช่นกัน
คุณณัฏฐ์กล่าวอีกว่า ทางพรรคภูมิใจไทย ยังมีนโยบายที่สามารถทำได้ทันที หากได้รับการเลือกให้เป็นตัวแทนของชาวดอนเมือง ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย “พูดแล้วทำ” คือการมุ่งเน้นใน 3 เรื่องหลัก คือ 1. เรื่องสุขภาพ ที่มีทั้งนโยบายการรักษามะเร็งฟรี การฟอกไตฟรี และกองทุนการประกันชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป หากตายจะได้รับเงิน 100,000 บาท กู้ได้ 20,000 บาทไม่ต้องมีการค้ำประกัน 2. เรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ที่จะมีทั้งการพักหนี้ 3 ปี หยุดทั้งต้นและดอกเบี้ย คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท วงเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ไม่ต้องค้ำประกัน ผ่อนวันละ 150 บาท นาน 365 วัน และ 3. เรื่องสิ่งแวดล้อม ด้วยการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ฟรี ช่วยลดปัญหาการใช้พลังงาน และยังเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ซึ่งจะลดค่าไฟหลังคาเรือนละ 450 บาทต่อเดือน และยังสามารถซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ ด้วยการผ่อนเดือนละ 100 บาทนาน 60 งวดด้วย จะเป็นการช่วยลดมลพิษจากควันเสียท่อรถ แก้ปัญหา PM 2.5 ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังจะนำผลงานของพรรคภูมิใจไทยที่ทำอยู่แล้ว คือ โครงการรถเมล์ไฟฟ้า หรือรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (EV) เข้ามาในพื้นที่เขตดอนเมือง เนื่องจากยังมีหลายพื้นที่ยังไม่มีรถโดยสารให้บริการ เพื่อให้ชาวดอนเมืองได้เดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดจะเพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าออกสนามบินดอนเมือง เพราะปัจจุบันคนดอนเมืองแม้จะอยู่ใกล้สนามบิน ซึ่งการเดินทางไปยังสนามบินควรใช้ระยะเวลาแค่ 5 นาที แต่ความเป็นจริงต้องใช้ระยะเวลานานเป็น 1 ชั่วโมง เพราะต้องขับรถอ้อมและต้องกลับรถเพื่อเข้าสนามบิน ถือเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้
“พื้นที่ดอนเมืองยังพบว่ามีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ทางม้าลายข้ามถนนไปยังสถานีรถไฟฟ้า ทำให้ปัจจุบันชาวดอนเมืองยังต้องเสี่ยงอันตรายในการข้ามถนน และยังอยากจะนำประสบการณ์ความรู้ด้านเทคโนโลยีของตนมาจัดทำศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านวิชาสมัยใหม่ ให้กับนักเรียนระดับ ปวช. ปวส. เช่น AI, Data Science, Digital Marketing เป็นต้น เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ทดลองเรียนรู้ ให้ค้นพบความชอบหรือความสามารถของตนเอง และเด็กเหล่านี้ก็อาจจะทำงานระหว่างเรียนไปด้วย หรือจบมาก็สามารถมีอาชีพได้ทันที เพราะในเขตดอนเมืองมีโรงเรียนอยู่จำนวนมาก อยากจะมีโครงการนำร่องในด้านนี้”
ส่วนแผนงานในอนาคตที่จะนำมาพัฒนาพื้นที่เขตดอนเมือง หากได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. คือ การพัฒนาพื้นที่เขตดอนเมืองให้มีเศรษฐกิจที่เติบโต ประชาชนอยู่ดีกินดี ด้วยการใช้การท่องเที่ยวเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หรือ Tourism Economy ภายใต้แนวคิด “Last stop before you depart” หรือจุดสุดท้ายก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับประเทศของตนเอง เป็นการเก็บตกประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวจุดสุดท้ายของประเทศไทย
โดยวิสัยทัศน์ของคุณณัฏฐ์นั้นมองว่า พื้นที่เขตดอนเมืองมีสถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย ที่สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำได้ อาทิ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งมีวัดสำคัญที่สวยงามและน่าสนใจ เช่น วันดอนเมือง วัดคลองบ้านใหม่ แหล่งท่องเที่ยวด้านวิถีชุมชน เช่น คลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กที่น่าสนใจ สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่ตลาดน้ำได้ และแหล่งท่องเที่ยวด้านสตรีทฟูด เช่น ตลาดบุญอนันต์ ที่เป็นแหล่งรวมร้านสตรีทฟูดอร่อยมากมาย หรือโอโซนวันมาร์เก็ต ที่เป็นตลาดนัดกลางคืนซึ่งได้รับความนิยมในเขตดอนเมือง เป็นต้น
“เราสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ดอนเมืองให้เติบโตได้ด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งดอนเมืองมีสิ่งดีๆ มากมาย การอาสาเข้ามารับใช้ลุงป้าน้าอา พี่น้องชาวดอนเมือง เหมือนเราเป็นเชฟ ที่จะหยิบเอาวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว มาปรุงเป็นเมนูอาหารชั้นเลิศได้ เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่วัตถุดิบมากมายครบทุกอย่าง เป็นซอฟต์เพาเวอร์ ที่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับโลก สร้างคุณค่าให้กับประเทศได้ ซึ่งประสบการณ์ของตนเอง ทำงานและเรียนในต่างประเทศมานาน มีความรู้และทักษะทั้งด้านครีเอทีฟ และด้านเทคโนโลยี รวมถึงมีพาร์ตเนอร์มากมาย ซึ่งจะสามารถช่วยพัฒนาประเทศมากขึ้นได้”
คุณณัฏฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าตนเองจะไม่ได้เป็นชาวดอนเมืองตั้งแต่เกิด แต่ก็พร้อมที่จะอาสาเข้ามาพัฒนาพื้นที่ดอนเมือง และเป็นตัวแทนของชาวดอนเมือง รับฟังและแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยความรู้ความสามารถ เรียนจบปริญญาตรีเกียรตินิยม Computer Information Systems มหาวิทยาลัย Suffolk University, Boston และเกียรตินิยม Graphic Design มหาวิทยาลัย Lesley University, Boston สหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานด้านการตลาดดิจิทัล และเทคโนโลยีที่ทำมามากกว่า 20 ปี การเป็นอาจารย์พิเศษและวิทยากรพิเศษในมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำในประเทศ จึงมั่นใจว่าตนเองจะเป็นตัวแทนของประชาชนชาวดอนเมือง ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
“ณัฏฐ์กราบขอโอกาสลุงป้าน้าอา และพี่น้องทุกท่าน ที่จะเป็นตัวแทนพี่น้องชาวดอนเมือง เป็นกระบอกเสียงที่หลากหลายและผลักดันนโยบายดีๆ สำหรับชาวดอนเมืองทุกคนครับ และที่สำคัญเราพูดแล้วทำครับ”