บริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ ประกาศว่าจะยุติการให้บริการดอลฟินวอลเล็ตทุกบริการ เดือนนี้ยกเลิกบริการเติมเงินและจ่ายบิล เตือนผู้ใช้งานโอนเงินทั้งหมดภายใน 14 มิ.ย. 66
วันนี้ (2 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน "ดอลฟินวอลเล็ต" (Dolfin Wallet) ได้แจ้งไปยังสื่อมวลชนว่า บริษัทฯ จะยุติการให้บริการดอลฟินวอลเล็ตทุกบริการ โดยจะให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ในระหว่างนี้ผู้ใช้บริการยังคงสามารถใช้บริการดอลฟินวอลเล็ตได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2566 เป็นต้นไปบริษัทฯ มีความจำเป็นจะต้องยกเลิกการให้บริการบางส่วนของดอลฟินวอลเล็ต ได้แก่ บริการเติมเงิน (Top Up) และบริการชำระบิล (Bill Payment)
สำหรับผู้ใช้บริการที่มีเงินคงเหลือในบัญชีดอลฟินวอลเล็ต กรุณาโอนเงินทั้งหมดออกไปยังบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 14 มิ.ย. 2566 สามารถดูวิธีการโอนเงินออกได้ที่ www.dolfinthailand.com/transfermoney หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าดอลฟินที่เบอร์ 0-2255-5959 วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น.
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้บริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังร้านค้าพันธมิตร ยกเลิกการให้บริการรับชำระเงินด้วยดอลฟินวอลเล็ต (Dolfin Wallet) ในวันที่ 15 มิ.ย. 2566 และจะดำเนินการชำระเงินที่ต้องชำระให้แก่ร้านค้าอย่างครบถ้วน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้แจ้งยกเลิกสัญญาร้านค้าโดยให้มีผลเป็นการยกเลิกสัญญานับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 2566 และแจ้งให้ร้านค้าพันธมิตรทำลายป้าย QR รับชำระเงินดอลฟินก่อนวันที่ 15 มิ.ย. 2566 เนื่องจากลูกค้าจะไม่สามารถสแกนชำระเงินผ่านป้าย QR ดอลฟินดังกล่าวได้อีกต่อไป
สำหรับแอปพลิเคชันดอลฟินวอลเล็ต (Dolfin Wallet) เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2562 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของไทย กับเจดี ดอทคอม (JD.com) ยักษ์อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน โดยดอลฟินวอลเล็ตเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ใช้ได้ที่ร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัลและร้านค้าชั้นนำอื่นๆ โดยลูกค้าจะได้รับคะแนนเดอะวัน (The 1) เพิ่มทุกการใช้จ่าย รวมทั้งยังมีคูปองส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เจดี ดอทคอมได้ถอนตัวจากบริษัทร่วมทุนในไทยและอินโดนีเซีย เพื่อมุ่งเน้นในการขยายและพัฒนาธุรกิจในตลาดต่างประเทศ โดยการสร้างเครือข่ายซัปพลายเชนข้ามพรมแดนผ่านการกระจายสินค้าและการขนส่งเป็นหลัก ทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจดีเซ็นทรัล (JD Central) ยุติให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยมีการเลิกจ้างพนักงานและผู้บริหารประมาณ 500 คนทั้งหมด และจ่ายเงินชดเชยให้ตามกฎหมาย กระทั่งได้ยกเลิกการให้บริการรับชำระเงินด้วยดอลฟินวอลเล็ตในที่สุด
ปัจจุบันประเทศไทยมีการแข่งขันด้านอี-วอลเล็ตในระดับที่สูง โดยแอปฯ เป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทยมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด 40 ล้านราย รองลงมาคือ ทรูมันนี่ วอลเล็ต 27 ล้านราย และแรบบิท ไลน์เพย์ 8 ล้านราย ทั้งสามรายเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ มีจุดบริการรับชำระเงินที่เป็นจุดแข็ง รวมทั้งโปรโมชันสิทธิประโยชน์ต่างๆ ดึงดูดใจลูกค้า