“ทนายตั้ม” ร่ายยาวถึง “พี่ชูวิทย์” เตือน โพสต์ซัดผมทั้งวัน ระวังกลายเป็นเพจไร้คุณภาพ เดินทรงโจรห่วงจะเพิ่มศัตรู อย่าคิดว่าจะไม่มีใครกล้างัดด้วย แนะเอาเวลาไปหาทางออกให้ชีวิตตัวเองดีกว่า
จากกรณี “ทนายตั้ม” แฉคลิปชูวิทย์ใช้สิทธิพิเศษฝากลูกชายเข้าเป็นทหาร ก่อนเหน็บเป็นโจรที่มีแฟนคลับนี่ดีจังนะครับ รับเงินโจรก็ไม่ผิด ด้านชูวิทย์เยาะ รอมานานแฉได้แค่นี้ ชี้เรื่องฝากลูกเป็นแค่ทหารเกณฑ์ และเป็นคลิปเก่า 10 ปีก่อนสื่อเคยเอาไปลงรู้กันทั่วแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (26 เม.ย.) “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงนายชูวิทย์ ว่า
“หลังจากที่คลิปแอบถ่ายนายทหารระดับสูงเผยแพร่ออกไป พี่ชูวิทย์โพสต์ซัดผมทั้งวัน ระวังจะเหมือนพวกเพจไร้คุณภาพ หาสาระไม่ค่อยเจอ ข้อมูลไม่ได้ลึกลับอะไรเลย หาได้ตามเฟซและไอจี เหตุที่พี่ชูวิทย์เดือดเพราะได้ข่าวมาว่าผู้ใหญ่ที่พี่ชูวิทย์แอบถ่ายคลิป “ไม่เอา” พี่ชูวิทย์แล้ว ก็ไปแอบถ่ายคลิปเขาอะนะ จะมาบอกว่าไม่เคยเปิดดู ถ่ายไว้เฉยๆ แมวที่ไหนก็ไม่เชื่อ
กรณีนี้มันต่างกับผม ผมจะถ่ายรูปกับผู้ใหญ่ท่านไหน ได้ขออนุญาตก่อนทุกครั้ง ผมไม่เคยใช้วิชามหาโจร แอบถ่ายใคร เพื่อเก็บไว้แบล็กเมล์ ฉะนั้นผู้ใหญ่เจอผมสบายใจได้ ไม่ต้องกลัวกล้องซ่อนกระดุม หรืออุปกรณ์บันทึกเสียงแบบพวกหน้าอย่างใจอย่าง
ผมถ่ายรูปกับผู้ใหญ่ ผมไม่เคยเอาขึ้นเพจใหญ่ที่มีคนติดตามเป็นล้าน ผมก็เก็บบันทึกภาพความทรงจำในเฟซส่วนตัวเล็กๆ ที่มีเพื่อนไม่กี่ร้อยคน มีรูปตั้งแต่พี่โจ๊กยังไม่ได้กลับตำรวจ จนกลับมาเป็นรอง ผบ.ตร. ที่ผมไม่ลงเพจใหญ่เพราะเดี๋ยวคนจะหาว่าอวด แต่พี่ชูวิทย์ดันมาโชว์ให้ผมซะนี่ คงคิดว่าทำให้พี่โจ๊กเดือดร้อนจะได้เลิกคบกับผม วิธีแบบนี้เด็ก ป.3 ก็รู้ทัน พี่คงเคยชินกับการไม่พอใจใครก็แฉใช่หรือเปล่าครับ และคิดว่าไม่มีใครกล้างัดกับพี่ แต่นั่นไม่ใช่ผม ถ้าวันนั้นผมไม่เปิดเรื่องถุงเงินขึ้นมา ป่านนี้ทั้งประเทศก็ไม่มีใครรู้ ผมแลกกับชื่อเสียงและทุกสิ่งที่มี เพื่อให้คนเห็นว่าสิ่งที่พี่ทำ ไม่ใช่เรื่องถูกทั้งหมด
ผมว่าพี่ชูวิทย์เอาเวลาไปหาทางออกให้ชีวิตตัวเองดีกว่า เดินทรงโจรแบบพี่ว่าจะเพิ่มศัตรูให้พี่ทุกวัน ตอนนี้เกราะแตกแล้ว ไม่มีใครคุ้มกะลาหัวพี่อีกต่อไปเพราะทำตัวเองแท้ๆ ผมสงสารมากบอกเลย แล้วอย่าลืมนะครับ เรื่องที่หาว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ผมรออยู่ครับ ตลกดีที่คนอย่างพี่ดูจะสนใจกับเรื่องรสนิยมเสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้าผม ทั้งที่มันไม่เคยทำร้ายใคร ปีที่ผ่านมาผมก็จ่ายภาษีไปหลายล้านครับ ลองเช็กผลประกอบการธุรกิจของพี่ดู เผลอๆ ผมยังจ่ายเยอะกว่า 5 บริษัทของพี่รวมกันอีก”