อ.เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา เผยข้อมูลหลังพบเด็กจีนวัย 6 ขวบกินมะเขือเทศแล้วเป็นลมหมดสติ เผยแพทย์ชี้มะเขือเทศสีเขียวมีสารโซลานีนอยู่มาก มีพิษหลายอย่างที่อันตรายทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ พิษจากสารโซลานีนนั้นจะทำให้เกิดอาการไม่สบายเป็นไข้ ปวดท้อง ท้องร่วงท้องเสีย อาเจียน อ่อนแรง และง่วงซึมได้
จากกรณีมีเด็กหญิงชาวจีน วัย 6 ขวบ เป็นลมหมดสติหลังกิน "ไข่คนมะเขือเทศ" ยายยอมรับมะเขือเทศที่เอามาทำยังไม่สุก คือยังเป็นผลสีเขียวอยู่ ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (25 เม.ย.) เพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" หรือ อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "เด็กหญิงชาวจีนวัย 6 ขวบมีอาการผิดปกติหลายอย่างหลังรับประทานอาหารกลางวัน ทั้งครอบครัวรู้สึกสับสน หวาดกลัว และไม่เข้าใจว่าทำไมลูกของพวกเขาถึงมีอาการอย่างฉับพลัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังกินมีความสุข ก่อนที่เด็กจะอาเจียนแล้วสลบไปในที่สุด ครอบครัวตื่นตระหนกและรีบพาไปโรงพยาบาล โชคดีที่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาการจึงค่อยๆ ทรงตัวและถูกย้ายไปที่ห้องพักเพื่อสังเกตอาการต่อไป
โดยครอบครัวของเด็กเล่าให้แพทย์ฟังว่า เมื่อตอนเที่ยงลูกของพวกเขากินข้าวกับไข่คนและมะเขือเทศที่ยายของเธอเตรียมไว้ให้ ลูกชอบและเจริญอาหารมาก พร้อมยืนยันว่าไข่กวนเป็นเมนูที่ลูกชอบรับประทาน และคุณยายมักจะทำให้รับประทานแทบทุกวัน แต่ที่ไม่เคยมีอาการผิดปกติแบบนี้เลย เมื่อถามอย่างละเอียดถึงที่มาของไข่และมะเขือเทศรวมถึงสภาพของอาหาร คุณยายบอกว่าไข่ยังสดแน่นอน แต่ปัญหาอาจจะอยู่ที่มะเขือเทศ เนื่องจากมะเขือเทศสุกในบ้านหมดแล้ว เธอจึงไปที่สวนเพื่อเก็บมะเขือเทศที่ "ยังไม่สุก" เต็มที่ สังเกตได้จากผิวที่ยังเป็น "สีเขียว" อยู่ เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของคุณยายหมอก็เข้าใจถึงสาเหตุทันที
ตามที่แพทย์บอก มะเขือเทศสุกเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีสารอาหารมากมาย อย่างไรก็ตาม การกินมากเกินไปก็ไม่ดี โดยเฉพาะกับระบบย่อยอาหารของเด็กเล็ก นอกจากนี้ กุญแจสำคัญอยู่ที่มะเขือเทศที่ยังเขียวอยู่ที่คุณยายนำมาปรุงให้หลานกิน เพราะมะเขือเทศสีเขียวมีสาร "โซลานีน" อยู่มาก ซึ่งทำให้ระบบทางเดินอาหารระคายเคือง คลื่นไส้ และหายใจลำบาก มีพิษหลายอย่างที่อันตรายทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ อีกทั้งโซลานินยังสามารถทำให้ระบบประสาทส่วนกลางเป็นอัมพาต ปวดท้อง และเสียชีวิตได้
ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำครอบครัวและผู้ปกครอง ว่าควรปรุงอาหารให้เด็กๆ อย่างระมัดระวังโดยเฉพาะเด็กเล็กต้องใช้มะเขือเทศสุก เพื่อหลีกเลี่ยงสารโซลานีนที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของทารก" ดังนั้น ประเด็นจริงๆ ของเรื่องก็คือ การเตือนให้รู้ว่า มะเขือเทศ tomato เองนั้น แม้จะเป็นพืชที่เราเพาะปลูกคัดพันธุ์กันมาเพื่อการบริโภคได้ปลอดภัย แต่ก็อยู่ในกลุ่มของพืชวงศ์ Solanaceae ที่สามารถสร้างสารพิษได้ในบางช่วงเวลา ไม่ต่างอะไรกับพืชอื่นที่เป็นญาติของมัน เช่น พริก มะเขือยาว มันฝรั่ง ซึ่งพิษส่วนใหญ่ที่พืชวงศ์นี้มีจะเป็นสาร solanine โซลานีน ซึ่งเป็นสารที่พืชใช้ปกป้องตัวมันเองจากแมลงและศัตรูพืชอื่นๆ มะเขือเทศก็มีสารโซลานีนเช่นกัน และมักอยู่ในบริเวณที่เป็นสีเขียวของต้น ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะกินผลเขียวๆ ใบ หรือก้านเขียวๆ ของต้นมะเขือเทศ แม้ว่ามันจะดูเหมือนกินได้ก็ตาม นอกจากผลของมะเขือเทศที่ยังไม่สุกจะมีสารโซลานีนแล้ว ยังมีสาร tomatine โทมาทีน ที่เป็นพิษเช่นกัน จึงไม่ควรกินผลมะเขือเทศดิบเข้าไปมากๆ
การนำเอามะเขือเทศที่ยังดิบอยู่ไปปรุงให้สุก (แบบในข่าวจากประเทศจีนนั้น) ก็ไม่ได้จะทำให้มันอันตรายน้อยลง เพราะสารพิษ Tomatine และ solanine สามารถทนความร้อนได้สูงมาก และไม่เสียสภาพไประหว่างที่นำไปปรุงอาหาร ไม่ว่าจะด้วยการต้ม การอบ หรือการทอดย่าง พิษจากสารโซลานีนนั้นจะทำให้เกิดอาการไม่สบายได้หลายอย่าง เช่น เป็นไข้ ปวดท้อง ท้องร่วงท้องเสีย อาเจียน อ่อนแรง และง่วงซึม ที่แปลกดีคือ เมื่อผลมะเขือเทศสุกแล้ว เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงสีส้มแล้ว เจ้าสารพิษทั้งสองนั้นจะสลายตัวไป พร้อมกับการที่มะเขือเทศเริ่มมีรสหวานขึ้น เพื่อให้สัตว์ต่างๆ ในธรรมชาติมากินมันและพาเมล็ดกระจายแพร่พันธุ์ไปที่อื่่นๆ จริงๆ ก็มีเมนูอาหารในบางประเทศที่นำเอามะเขือเทศดิบมากินกัน เช่น ในยุโรปตอนใต้และอเมริกาใต้ โดยเอามะเขือเทศดิบสีเขียว มาดองไว้เป็นเครื่องเคียง กินกับอาหารในฤดูหนาว ซึ่งอาจจะเพราะกินเพียงปริมาณเล็กน้อยจึงไม่ได้อันตราย หรือไม่ก็การดองไว้นานๆ อาจช่วยทำให้สารพิษค่อยๆ สลายตัวไปช้าๆ
ส่วนมะเขือพันธุ์อื่นๆ ที่สุกแล้ว แต่ยังมีสีเขียวอยู่ ก็สามารถนำมาบริโภคได้ครับ .. อันนี้ เน้นแต่มะเขือเทศ หรือมะเขืออื่นพันธุ์ที่สุกแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้ม