xs
xsm
sm
md
lg

กรมอุตุฯ ชี้เหนือร้อนจัด สูงสุด 42 องศา กทม.ไม่แพ้กัน เตือน “ย่านบางนา” วันนี้ดัชนีความร้อนพุ่ง 52.3 องศาฯ ภูเก็ตด้วย 50.7 องศาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมอุตุนิยมวิทยาชี้สภาพอากาศวันนี้ภาคเหนืออากาศร้อนจัด สูงสุด 42 องศาฯ กทม.-ปริมณฑลไม่ต่างกัน เตือน “บางนา” วันนี้ดัชนีความร้อนพุ่ง 52.3 องศาฯ ภูเก็ตด้วย 50.7 องศาฯ เผยลมแปรปรวน ฝั่งอ่าวไทยเดินเรือระมัดระวัง

วันนี้ (18 เม.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี ส่วนภาคใต้ยังคงมีการสะสมน้อย เนื่องจากการระบายอากาศในบริเวณดังกล่าวยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยเวลา 06.00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังเปิดเผยคาดหมายค่าดัชนีความร้อนสูงสุดรายวัน ประจำวันที่ 17-19 เมษายน โดยวันนี้ (18 เมษายน) มีพื้นที่เฝ้าระวัง 5 พื้นที่ ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ 49.5 องศา, โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม 44.7 องศา, บางนา กทม. 52.3 องศา, สัตหีบ จ.ชลบุรี 48.9 และภูเก็ต 50.7 องศา โดยทั้งหมดอยู่ในระดับ "อันตราย"


ทั้งนี้ กรมอุตุฯ ระบุถึงการคาดหมายค่าดัชนีความร้อน ระดับเฝ้าระวังเตือนภัยผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน วันที่ 18 เมษายน 2566 แยกรายภาค พบว่า 

ภาคเหนือ จ.เพชรบูรณ์  ค่าคาดหมายดัชนีความร้อน 49.5 อยู่ในระดับ "อันตราย"

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
ค่าคาดหมายดัชนีความร้อน 44.7 อยู่ในระดับ "เตือนภัย"

ภาคกลาง บางนา กรุงเทพมหานคร
ค่าคาดหมายดัชนีความร้อน 52.3 อยู่ในระดับ "อันตราย"

ภาคตะวันออก สัตหีบ จ.ชลบุรี ค่าคาดหมายดัชนีความร้อน 48.9 อยู่ในระดับ "อันตราย"

ภาคใต้ จ.ภูเก็ต ค่าคาดหมายดัชนีความร้อน 50.7 อยู่ในระดับ "อันตราย"


ดัชนีความร้อน (Heat Index) คือ อุณหภูมิที่คนเรารู้สึกได้ในขณะนั้น (Apparent temperature) ว่าอากาศร้อนเป็นอย่างไร หรืออุณหภูมิที่ปรากฏในขณะนั้นเป็นเช่นไร โดยค่าดัชนีความร้อนนั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อระบุความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับผลกระทบจากความร้อนได้
สำหรับค่าดัชนีความร้อนระดับเฝ้าระวังเตือนภัย ผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน แบ่งได้ดังนี้

ระดับเฝ้าระวัง (Surveillance) ดัชนีความร้อน 27-32 องศาเซลเซีย

ผลกระทบต่อสุขภาพ - อ่อนเพลีย วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ตามตัวจากการสัมผัสความร้อน หรือออกกำลังกายหรือทำงานใช้แรงงานท่ามกลางอากาศที่ร้อน

ระดับเตือนภัย (Alert) ดัชนีความร้อน 32-41 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ - เกิดอาการตะคริวจากความร้อนและอาจเกิดอาการเพลียแดด (Heat Exhaustion) หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน

ระดับอันตราย (Warning) ดัชนีความร้อน 41-54 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ - มีอาการตะคริวที่น่อง ต้นขา หน้าท้อง หรือไหล่ ทำให้ปวดเกร็ง มีอาการเพลียแดด และอาจเกิดภาวะลมแดด (Heat stroke) ได้ หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน

ระดับอันตรายมาก (Danger) ดัชนีความร้อนมากกว่า 54 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ - เกิดภาวะลมแดด (Heat stroke)

คำแนะนำสุขภาพ สังเกตอาการตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ควรลดกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นควรสวมหมวก แว่นกันแดด สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หากทำงานกลางแจ้งควรทำงานเป็นกลุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น